จับตา! เพื่อไทยแตกแบงค์หลังสูตรหาร 500 บทเรียนจาก Fake News ถึงการสังหารอาเบะ โจทย์ใหญ่รัฐบาลกับการบริหารความรู้สึกประชาชน
ใกล้ที่จะเห็นชัดเจนแล้วว่า การเลือกตั้งสมัยหน้าจะมีหน้าตาอย่างไร ใครได้เปรียบเสียเปรียบ พรรคใดจะมีโอกาสครองเสียงข้างมาก จะเกิดแลนด์สไลด์ได้หรือไม่
กฎหมายเลือกตั้งและกฎหมายพรรคการเมืองที่รัฐสภาเพิ่งให้ความเห็นชอบไป กำลังถูกส่งไปให้คณะกรรมการเลือกตั้งพิจารณาให้ความเห็น ภายใน 15 วันก็คงทราบผล เห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วย ปฏิบัติได้หรือไม่ แล้วอาจต้องรอศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยว่าขัดรัฐธรรมนูญปี 2560 หรือไม่
เพราะได้ยินมา ว่าพรรคเพื่อไทยจะยื่นศาลรัฐธรรมนูญให้ตีความ เราคนไทยมีสิทธิ์ลงคะแนนเลือกตั้งคงต้องร้องเพลงรออีกสักนิด
มีผู้รู้เล่าสู่กันฟัง รัฐธรรมนูญปี 2560 เขียนไม่ชัด ตีความเรื่องหาร 100 หรือ 500 ขัดหรือไม่ขัดรัฐธรรมนูญ ออกทางไหนเป็นไปได้ทั้งสิ้น ต้องลุ้นกันเอาเอง
—
พรรคเพื่อไทยและคุณทักษิณคงลุ้นขาดใจ ลุ้นมากกว่าคนอื่น เพราะตัวเลขสองตัวนี้มีผลต่อพรรคเป็นอย่างยิ่ง คุณทักษิณพูดไว้ว่าตัวเลขอะไรก็ได้สู้ได้ทั้งนั้น เพื่อไทยรวมกับก้าวไกลได้มากกว่าพลังประชารัฐรวมกับพรรคอื่นๆ อยู่แล้ว
พรรคเหล่านี้จะมี ส.ส.ถึง 200 คนหรือเปล่าก็ไม่รู้ แต่ก็มีคนช่างสังเกตบอกว่า วันนั้นที่คุณทักษิณพูดใน Club House ถ้าใครฟังตลอดจะพบว่าคุณทักษิณ พูดเรื่องตัวเลขสองตัวนี้บ่อยครั้ง
ประเภทว่าพูดเรื่องนี้เสร็จแล้วก็เปลี่ยนไปพูดเรื่องอื่น แต่พูดได้แป๊บเดียวก็ต้องวกกลับมาเรื่องตัวเลขอีก ทำแบบนี้หลายครั้ง คนฟังเลยจับไต๋ได้ว่า ปากบอกไม่กลัว แต่จริงแล้วทั้งวิตก ทั้งกลัว ที่อาจไม่ได้จัดตั้งรัฐบาลในปีหน้า
พออีกไม่กี่วันต่อมาหัวหน้าพรรคเพื่อไทยเผยไต๋จะแตกแบงค์พันตั้งพรรคใหม่ ชื่อ ‘ครอบครัวเพื่อไทย’ มุ่งหาเสียงไปที่ ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ ให้เพื่อไทยมุ่งหาเสียงแบบแบ่งเขต แลนด์สไลด์ต้องเกิดขึ้นแน่
กลเม็ดนี้มาเหนือเมฆ เขย่า และสั่นคลอนยุทธจักรอย่างได้ผลทีเดียว เห็นไหมคุณทักษิณวางแผนไว้หมดแล้ว จะรวมกับพรรคใด จะเดินเกมการเมืองแบบไหน
—
ก่อนจะพักเรื่องกฎหมายเลือกตั้งเพื่อคุยกันเรื่องอื่นต่อ ขอฝากภาพที่มองเห็นไว้ให้พวกเราเก็บไว้คิดกัน เดาว่าเลือกตั้ง ส.ส.ปีหน้า เราได้กาบัตรสองใบ วิธีการคำนวณ ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ จะมีตัวเลข 500 เป็นตัวหาร
พรรคเพื่อไทยจะสู้กับก้าวไกลเพื่อแย่งบัญชีรายชื่อกันอย่างสนุก พรรคขนาดกลาง พรรคเล็ก และพรรคตั้งใหม่ จะเข้ามาเป็นคู่แข่งเพื่อแยก ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ จับตาดูพรรคกล้า สร้างอนาคตไทย ไทยภักดี ไม่รวมพรรคเล็กๆ ที่มีอยู่เดิมอย่างไม่กะพริบตา
รอฟังคุณประยุทธ์พูดถึงอนาคตทางการเมือง เมื่อศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยกรณี 8 ปี เสร็จสิ้นกระบวนความแล้ว คุณประยุทธ์จะจบตรงเดือนสิงหาคมหรือไปต่อ ?
—
การลอบสังหารนายอาเบะ เป็นเรื่องน่าเสียใจอย่างยิ่ง ไม่ควรใช้เรื่องนี้มาพูดจาหรือเขียน ไปในทางที่ส่อถึงความสุดโต่งและเบาปัญญา เพียงเพื่อคิดด้อยค่าหรือทำลายล้างคนอื่นโดยไม่เคารพ ไม่ให้เกียรติต่อผู้วายชนม์
จริงๆ เรื่องนายอาเบะควรเป็นกรณีศึกษาและเป็นข้อคิดเพื่อแก้ไขปัญหาความคิดสุดโต่งที่มีอยู่ในสังคมโลก หรือแม้แต่สังคมไทยที่มีให้เราเห็นบ้างแล้วในจังหวัดชายแดนใต้
ที่น่าสนใจคือผู้ลงมือกระทำมีความรู้สึกทางลบกับองค์การศาสนาที่ใช้ลัทธิความเชื่อหลอกลวงผู้คน ให้บริจาคเงินจนสิ้นเนื้อประดาตัว แม่ของเขาเป็นเหยื่อคนหนึ่งในจำนวนผู้คนเหล่านั้น โดยเขาเชื่อว่านายอาเบะมีส่วนรู้เห็นกับการทำงานขององค์กรศาสนาแห่งนั้น
ถ้าเป็นอย่างที่เป็นข่าวก็ช่างคล้ายคลึงกับประเทศไทยเสียเหลือเกิน…
มีคนไทยหลายคนหลายครอบครัวสิ้นเหนือประดาตัวเพราะลัทธิความเชื่อทางศาสนาพุทธ เรื่องนี้เคยเป็นข่าวใหญ่มาเมื่อหลายปีที่แล้ว ปัจจุบันคนไทยอาจลืม ไปแล้ว คนวงนอกอย่างเราๆ คงไม่รู้หรอกว่าวัดแห่งนั้นกลับไปทำเหมือนเดิมอีกหรือเปล่า
เรื่องเช่นนี้ต่างหากที่ควรเรียนรู้กัน อย่าให้ความคิดสุดโต่งเกิดขึ้นในบ้านเรา อย่าให้การเผยแพร่ข้อมูล ที่สร้างผลร้ายแก่สังคมกระทำกันได้อย่างง่ายๆ ต้องจัดการอย่างเข้มงวดรวดเร็วแบบสิงคโปร์ อย่าให้ปัญหาความไม่ชอบธรรมในสังคมสร้างความเดือดร้อนเสียหายให้แก่ประชาชน โดยรัฐเข้าไปดูแลอย่างล่าช้า
—
ราคาน้ำมันที่แพงขึ้นทุกวันยังเป็นปัญหาที่คนไทยรู้สึกเดือดร้อนมาก มีผลโดยตรงต่อสินค้าอุปโภคบริโภคที่จำเป็นสำหรับชีวิตประจำวันที่ปรับขึ้นราคาต่อเนื่อง
แม้ว่าเมื่อกลางสัปดาห์ราคาน้ำมันเบนซินหน้าปั๊มจะปรับลงมาประมาณ 4 บาทต่อลิตร ทำให้ผู้ใช้รถเก๋งทั้งหลายได้ดีใจกัน แต่ไม่ทันไรราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกก็เริ่มปรับเพิ่มสูงขึ้นเหนือ 100 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรลอีกครั้ง
เพราะความกังวลที่รัสเซียประกาศปิดท่อส่งน้ำมันใหญ่ที่สุดในโลก “แคสเปียน ไปป์ไลน์” จากคาซัคสถาน 30 วัน จะทำให้น้ำมันดิบหายไปจากตลาดโลกมากกว่าวันละ 1.2 ล้านบาร์เรลต่อวัน
สงครามก็ยังไม่มีท่าทีจะยุติ คนไทยคงยังต้องซื้อน้ำมันในราคาสูงแบบนี้ต่อไปอีก ในฐานะที่ไทยใช้น้ำมันนำเข้าถึงร้อยละ 90
—
เราควรมาดูกันว่าประเทศที่ใช้น้ำมันในโลกนี้เขาแก้ปัญหาให้ประชาชนที่ต้องใช้น้ำมันแพงกันอย่างไร
จากข้อมูลของธนาคารโลกระบุว่า
ร้อยละ 74 ส่งเสริมให้ใช้พลังงานทางเลือก
ร้อยละ 68 ใช้มาตรการปันส่วนพลังงาน
ร้อยละ 61 ใช้วิธีการลดภาษีน้ำมัน ร้อยละ 53 ใช้มาตรการอุดหนุนทางการเงิน
และร้อยละ 45 ใช้วิธีจำหน่ายราคาต่ำแก่ผู้บริโภคเฉพาะกลุ่ม
สำหรับไทยอยู่ในกลุ่มการใช้มาตรการอุดหนุนทางการเงิน ด้วยการนำเงินจากกองทุนน้ำมันมาอุดหนุนจนติดลบมากกว่าแสนล้านบาท และกำลังขอกู้เพิ่ม แต่ยังไม่มีใครให้ จึงใช้วิธีการลดภาษีน้ำมัน พร้อมกับจำหน่ายน้ำมันราคาต่ำเฉพาะกลุ่มรถยนต์ดีเซลมาช่วยอีกทางหนึ่ง
เหล่านี้เป็นเพียงมาตรการระยะสั้น ไม่เพียงเท่านั้น รัฐบาลยังมีการขอให้แต่ละโรงกลั่นนำส่งส่วนกำไรเข้ากองทุนน้ำมันอีกด้วย แม้จะไม่สามารถเข้าไปควบคุมบังคับได้ก็ตาม แต่ยังไม่ได้รับการตอบรับใด ๆ
ประชาชนจึงรู้สึกเหมือนไม่ได้รับความเป็นธรรมในยามที่เดือดร้อนโรงกลั่นยังทำกำไรได้เป็นกอบเป็นกำ
—
เรื่องน้ำมันจึงเป็นเรื่องที่นอกจากรัฐบาลต้องบริหารราคาแล้วยังต้องบริหารความรู้สึกของประชาชนด้วย
การขอให้ทุกคนช่วยกันประหยัดพลังงาน หรือใช้พลังงานทางเลือกทดแทน ถึงแม้จะเป็นวิธีที่ดีที่สุด ที่ประเทศนำเข้าน้ำมันเป็นหลักส่วนใหญ่นำมาใช้ แต่ประชาชนจะรู้สึกว่าไม่ยุติธรรมสำหรับพวกเขา
มีตัวอย่างในหลายประเทศแล้วขณะนี้ ที่ประชาชนทนความเดือดร้อนไม่ไหว รู้สึกไม่พอใจออกมาประท้วงขับไล่ผู้นำรัฐบาล และน่าจะลุกลามไปหลายประเทศ
จำเป็นอย่างยิ่งที่รัฐบาลไทยต้องประเมินอารมณ์ความอดกลั้นของประชาชนให้ดี อย่างน้อยให้คนไทยรู้สึกว่าได้จัดการบริหารให้ประชาชนได้บริโภคน้ำมันในราคาที่โปร่งใสและเป็นธรรมด้วย
ปาท่องโก๋ อาหารที่เกิดจากความแค้นของประชาชน ต่อความทุจริตของนักปกครอง
นโยบายเศรษฐกิจสุดบ้าคลั่ง ฉีดเงินเข้าระบบอย่างบ้าเลือด จนระบบเศรษฐกิจล่มสลาย
ขออภัยผู้ใช้ทาง ผู้ว่าฯ การทางพิเศษ กราบขออภัยประชาชนผู้ใช้ทางด่วน จากการโพตส์ที่ไม่เหมาะสมของพนักงาน
ศิราวุธ ภุมมะกสิกร
อดีตวิศวกรโครงการ ระดับผู้จัดการ จบปริญญาตรีวิศวกรรมเครื่องกล จาก พระจอมเกล้าธนบุรี และ โท ด้าน Advanced Manufacturing Engineering จาก University of South Australia มีความสนใจในเรื่องประวัติศาสตร์ การเมือง และสวัสดิการสังคม