Newsปาท่องโก๋ อาหารที่เกิดจากความแค้นของประชาชน ต่อความทุจริตของนักปกครอง

ปาท่องโก๋ อาหารที่เกิดจากความแค้นของประชาชน ต่อความทุจริตของนักปกครอง

กลายเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์ในสังคม เมื่อการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยประกาศว่าจะจัดงาน “THAILAND SOFT POWER X GUINNESS WORLD RECORDS™ CHALLENGE” นำเสนอ Soft Power 5F ของไทย โดย 1 ในโครงการนั้น คือการจัดการแข่งขันกินปาท่องโก๋ และ ป็อบคอร์น ทำให้เกิดคำถามว่า ปาท่องโก๋ และ ป็อบคอร์น เป็นอาหารไทยตรงไหน

 

อย่างไรก็ดี “ปาท่องโก๋” นั้นเป็นชื่ออาหารจากประเทศจีนที่คนไทยเราเรียกสลับกับ “หยวนเถียว” โดยไป่ทังกั๋ว (ปาท่องโก๋) ในภาษาจีนนั้น หมายถึงขนมเค้กข้าวแบบจีน แต่สมัยก่อนพ่อค้าชาวจีนนำไป่ทังกั๋ว และหยวนเถียวออกขายคู่กัน และคนไทยเข้าใจผิดคิด เรียกชื่อสลับกัน

 

ในภาษาจีนกวางตุ้ง ปาท่องโก๋มีชื่อเรียกว่า “โหยวจ๋าก่วย (油炸鬼)” ซึ่งแปลตรงตัวว่า “ผีทอด” ซึ่งชื่อนี้สะท้อนที่มาของอาหารจานนี้ เนื่องจากมีนิยายปรัมปราเล่าวว่า ผู้คนคิดค้นอาหารจานนี้ขึ้นมาจากความคั่งแค้นในตัวขุนนางกังฉินในราชวงศ์ซ่งนาม “ฉินฮุ่ย” นั่นเอง

ถึงแม้ว่าในยุคสมัยจักรวรรดิจีน จะมีแต่ขุนนาง ยังไม่มีระบบการเมืองเหมือนอย่างในปัจจุบัน แต่ในทางปฏิบัติแล้ว การออกว่าราชการในท้องพระโรงของสมเด็จพระจักรพรรดิ หรือฮ่องเต้ในยุคนั้น เปรียบได้กับการประชุมคณะรัฐมนตรี และสภานิติบัญญัติในปัจจุบัน

 

การออกว่าราชการของฮ่องเต้จีนในสมัยนั้น จะแบ่งออกเป็นการประชุมเล็ก ที่มีเพียงขุนนางประจำส่วนหนึ่งเข้าร่วม กับการประชุมใหญ่ที่จะมีขุนนางเข้าร่วมการประชุมมากขึ้น และในบางครั้งอาจจะเชิญขุนนางที่มียศระดับ “กง” (เทียบเท่าเจ้าพระยา หรือลอร์ด) หรือเชื้อพระวงศ์ ซึ่งปกติไม่ได้เข้าร่วมการประชุม เพื่อการหารือเรื่องสำคัญ

 

จึงอาจเปรียบได้ว่า การประชุมย่อยในท้องพระโรงเปรียบได้กับการประชุมคณะรัฐมนตรี และการประชุมใหญ่เปรียบได้กับสภานิติบัญญัตินั่นเอง และในทุกการประชุม บุคคลสำคัญที่นอกจากฮ่องเต้แล้ว จะเป็นมหาเสนาบดี ซึ่งมีบทบาทหน้าที่เทียบเท่ากับนายกรัฐมนตรีในปัจจุบัน และเหล่าขุนนางที่มีสิทธิเข้าร่วมการประชุมในท้องพระโรง มีสิทธิออกเสียง ก็อาจเทียบได้กับข้าราชการการเมืองในปัจจุบันนั่นเอง

 

ฉินฮุ่ย คืออัครมหาเสนาบดีในรัชสมัยซ่งเกาจงฮ่องเต้ แห่งราชวงศ์ซ่ง หรืออาจจะพูดได้ว่าเป็นนายกรัฐมนตรีในสมัยนั้น ซึ่งเป็นยุคราชวงศ์ซ่งเป็นยุคที่ชาวจีนฮั่นอ่อนแอที่สุด เผชิญหน้ากับการคุกคามจากชนเผ่าอื่นอย่างรอบด้าน อีกทั้งยังมีแผ่นดินในปกครองน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์อีกด้วย (ไม่นับรวมราชวงศ์หยวนและชิงที่ประเทศจีนถูกชนชาติอื่นปกครองอย่างเบ็ดเสร็จ)

 

ในสมัยนั้น มีชาวฮั่นนาม เย่ว์เฟย (คนไทยรู้จักในชื่องักฮุย) ลุกฮือขึ้นมานำชาวฮั่นออกรอบกับชนเผ่าต่างชาติ ซึ่งในเวลานั้นชนเผ่าจิน คือภัยคุกคามที่ใหญ่ที่สุด จนได้รับตำแหน่งแม่ทัพใหญ่ ออกรบต่อต้านกองทัพจิน และได้รับการยกย่องจากประชาชาวฮั่น

 

แต่ฉินฮุ่ยกับใส่ร้าย กล่าวหาเย่ว์เฟย จนเย่ว์เฟยต้องโทษประหารในที่สุด และนั่นนำมาซึ่งความอ่อนแอของกองทัพซ่ง อันเป็นเหตุให้รางวงศ์ล่มสลาย และถูกชาวมองโกลซึ่งมาทีหลังกวาดล้างจนสิ้นชาติสิ้นแผ่นดิน

ภายหลังจากที่ราชวงศ์หมิงขึ้นมาปกครองแผ่นดินจีนแทนที่มองโกล ราชสำนักประกาศแต่งตั้งให้เย่ว์เฟยเป็นเทพเจ้าแห่งความซื่อสัตย์ จากความจงรักภักดีของเขา แต่เย่ว์เฟยถูกปลดจากตำแหน่งเทพเจ้าในราชวงศ์ชิง เนื่องจากชาวจิน ซึ่งเย่ว์เฟย เคยต่อต้านนั้น เป็นบรรพบุรุษของชาวแมนจูนั่นเอง

สำหรับประชาชนชาวฮั่นในเวลานั้น รู้สึกโกรธแค้นต่อฉินฮุ่ยอย่างที่สุด แต่ทำอะไรฉินฮุ่ยไม่ได้ จึงระบายความแค้นด้วยการแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ ผ่านการนำแป้งมาปั้นเป็น 2 ชิ้นติดกัน ถือเป็นตัวแทนของฉินฮุ่ย และภรรยา นำมาทอดน้ำมัน เพื่อรับประทานระบายแค้น

และในปัจจุบันนี้ ที่หน้าศาลบูชาเย่ว์เฟย ทีเมืองหังโจว มีการปั้นรูปปั้นของฉินฮุ่ย และภรรยา ถูกมัดคุกเข่าอยู่หน้าศาล เสมือนหนึ่งกำลังรอรับโทษ เพื่อเป็นการเตือนใจคนทุจริตนั่นเอง

 

เราจึงอาจกล่าวได้ว่า ปาท่องโก๋ คือการแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ของชาวฮั่น เพื่อต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชั่น ซึ่งสุดท้ายแล้ว การทุจริตของฉินฉุ่ยนั้น นำมาซึ่งการล่มสลายของประเทศชาติบ้านเมือง

 

ปาท่องโก๋จึงควรจะเป็นสัญลักษณ์ของการต่อต้านการทุจริตต่อไป

โดย ศิราวุธ ภุมมะกสิกร

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    คุกกี้ที่มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้งานเว็บไซต์ได้อย่างเป็นปกติ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณ เพื่อให้เราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมและความสนใจของคุณ

บันทึกการตั้งค่า