อิหร่านเตือน พร้อมพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ หากอิสราเอลมุ่งโจมตีโรงงานนิวเคลียร์ของอิหร่าน ก็เท่ากับผลักให้อิหร่านต้องเปลี่ยนนโยบาย
ที่ปรึกษาของผู้นำสูงสุดอิหร่านประกาศว่า อิหร่านจะเปลี่ยนหลักการด้านนิวเคลียร์ (nuclear doctrine) หากอิสราเอลคุกคามความอยู่รอดของอิหร่าน
รัฐบาลอิหร่านกล่าวมาโดยตลอดว่า ไม่มีแผนที่จะพัฒนาและมีอาวุธนิวเคลียร์ไว้ในครอบครอง แต่โลกตะวันตกยังคงไม่ไว้วางใจ เพราะอิหร่านสามารถหันไปผลิตอาวุธนิวเคลียร์ได้ในทันทีที่ต้องการ ทำให้โครงการนิวเคลียร์ของอิหร่านเป็นศูนย์กลางของข้อพิพาทที่ยืดเยื้อซึ่งนำไปสู่การคว่ำบาตร
“เราไม่มีการตัดสินใจที่จะผลิตระเบิดนิวเคลียร์ แต่หากการดำรงอยู่ของอิหร่านถูกคุกคาม เราก็ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากจะต้องเปลี่ยนหลักการด้านนิวเคลียร์ของเรา… หากอิสราเอลโจมตีโรงงานนิวเคลียร์ของเรา มาตรการป้องกันของเราก็จะเปลี่ยนแปลง” คามาล คาร์ราซี (Kamal Kharrazi) ที่ปรึกษาอาวุโสของ อยาตอลเลาะห์ อาลี คอเมเนอี ผู้นำสูงสุดอิหร่าน กล่าวกับ Student News Network ของอิหร่าน
ทั้งนี้ ในปี 2022 คาร์ราซี กล่าวว่า อิหร่านมีความสามารถทางเทคโนโลยีในการผลิตระเบิดนิวเคลียร์ แต่ยังไม่ได้ตัดสินใจว่าจะผลิตหรือไม่
ในช่วงต้นทศวรรษ 2000 ผู้นำสูงสุดอิหร่าน ได้ออกฟัตวา (fatwa ) หรือกฤษฎีกาทางศาสนา โดยประกาศว่า การพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ถือเป็นสิ่งต้องห้าม และได้เน้นย้ำอีกครั้งในปี 2019 ว่าการผลิตและสะสมระเบิดนิวเคลียร์นั้นถือเป็นสิ่งที่ผิด และการนำมาใช้ก็เป็นสิ่งต้องห้ามตามหลักศาสนาอิสลาม (ฮารอม)
อย่างไรก็ตาม รัฐมนตรีข่าวกรองของอิหร่านเคยกล่าวไว้เมื่อปี 2021 ว่าแรงกดดันจากตะวันตกอาจผลักดันให้เตหะรานหันมาใช้อาวุธนิวเคลียร์
อิสราเอลและอิหร่านได้เข้าสู่สงครามแบบเงาเป็นเวลาหลายปีแล้ว อย่างไรก็ตาม สงครามเงาได้กลายมาเป็นการเผชิญหน้ากันอย่างเปิดเผยในเดือน เม.ย. เมื่ออิหร่านเปิดฉากยิงโดรนและขีปนาวุธประมาณ 300 ลูกใส่อิสราเอล เพื่อตอบโต้เหตุโจมตีสถานกงสุลอิหร่านในกรุงดามัสกัส ซึ่งอิสราเอลได้เปิดฉากตอบโต้ด้วยการยิงขีปนาวุธมาโจมตีอิหร่าน