
“ลัทธิโยคะ” หลอกสาวมีเพศสัมพันธ์ รับแขกแลกเงินและสร้างอิทธิพลให้เจ้าลัทธิ
ลัทธิโยคะในอาร์เจนตินาหลอกใช้หญิงสาวที่ทางกลุ่มเรียกว่า “เกอิชา” ให้มีเพศสัมพันธ์กับลูกค้าที่ร่ำรวยและทรงอิทธิพลทั่วโลก เพื่อแลกกับเงินและสร้างอิทธิพลให้เจ้าลัทธิ
จากการสอบสวนโรงเรียนสอนโยคะที่ดำเนินการเหมือน “ลัทธิ” ในบัวโนสไอเรส เมืองหลวงของอาร์เจนตินา ซึ่งดำเนินกิจการมานานกว่า 30 ปี
พบองค์กรอาชญากรรมที่เกี่ยวข้องกับการค้ามนุษย์ทางเพศ การฟอกเงิน การบังคับใช้งานเยี่ยงทาส การรักษาพยาบาลที่ผิดกฎหมาย และอาชญากรรมอื่นๆ โดยสามารถจับกุมสมาชิกกลุ่มทั้งหมด 19 คน และสอบสวนขยายผล พบผู้ร่วมขบวนการอีก 6 คนในสหรัฐ
ลัทธิดังกล่าว ซึ่งใช้โรงเรียนเป็นฉากบังหน้า ทำการหลอกล่อเหยื่อให้เข้าร่วมกลุ่ม ด้วยคำมั่นสัญญาว่าพวกเขาเหล่านั้นจะได้พบกับความสุขชั่วนิรันดร
จากนั้นจะบังคับสมาชิกหญิงให้ทำงานเป็น “เกอิชา” ซึ่งจะต้องต้อนรับแขกผู้ชายที่ร่ำรวยและทรงอิทธิพลที่มาใช้บริการในโรงเรียนด้วยการมีเพศสัมพันธ์ เพื่อแลกกับเงินและอิทธิพลที่จะเป็นประโยชน์ต่อผู้นำลัทธิ โดยหญิงสาวบางคนถึงขั้นถูกส่งตัวไปยังสหรัฐและอุรุกวัย เพื่อมีเพศสัมพันธ์กับแขกด้วย
นอกจากนี้ ยังมีสมาชิกบางคนที่ถูกบังคับขายคอร์สรักษาโรคต่างๆ รวมถึงโรคเอดส์ และคอร์สบำบัดการติดยาเสพติดด้วยการนอน โดยจะทำให้คนไข้หลับนานหลายวัน/การบำบัด 1 ครั้ง
Pablo Salum อดีตสมาชิกที่เข้าร่วมลัทธิตั้งแต่อายุ 8 ขวบ เล่าว่า “สมาชิกกลุ่มจะต้องเริ่มรับแขกตั้งแต่อายุ 11-12 ขวบ ส่วนเด็กที่อายุน้อยกว่านั้นจะถูกบังคับให้ดูกิจกรรมทางเพศ
นอกจากนี้ สมาชิกในกลุ่มบางคนที่ถูกลดสถานะเป็น “ทาส” จะถูกบังคับให้มีเพศสัมพันธ์และทำงานบ้าน โดย “ทาส” ชายและหญิงจะต้องปฏิบัติตามคำสั่งโดยห้ามถามคำถามใดๆ ทั้งสิ้น อดีตสมาชิกอีกคนกล่าว
ผู้นำลัทธิ ทำการล้างสมองสมาชิกว่าการมีเพศสัมพันธ์กับแขกเป็น “การรักษา” รูปแบบหนึ่ง และเป็นเส้นทางในการไต่เต้าไปสู่ระดับสมาชิกที่สูงขึ้น โดยสมาชิกกลุ่มสามารถบริจาคเงินและทรัพย์สิน เพื่อการไต่เต้าที่รวดเร็วยิ่งขึ้น ทั้งนี้ ลัทธินี้มีรายได้/เดือน ประมาณ 5 แสนดอลลาร์ (18 ล้านบาท)
(1 ดอลลาร์ = 36.35 บาท)
ความขัดแย้งใน ตะวันออกกลางบานปลายขึ้น ‘รศ.ดร.ปณิธาน’ ชี้ไทยต้องเฝ้าระวังการก่อการร้ายในประเทศ ซึ่งเคยเกิดเหตุวางระเบิดในกรุงเทพ ปี 2555 มาแล้ว
“ยืนบันไดเลื่อนห่างกัน 3 ขั้น” ช่วยลดความเสี่ยงติดโรคโควิด-19 นักวิจัยญี่ปุ่นแนะ การรักษาระยะห่างยังเป็นเรื่องสำคัญ
ศิราวุธ ภุมมะกสิกร
อดีตวิศวกรโครงการ ระดับผู้จัดการ จบปริญญาตรีวิศวกรรมเครื่องกล จาก พระจอมเกล้าธนบุรี และ โท ด้าน Advanced Manufacturing Engineering จาก University of South Australia มีความสนใจในเรื่องประวัติศาสตร์ การเมือง และสวัสดิการสังคม