สหรัฐฯ ควรออกมาขอโทษ ผู้เชี่ยวชาญ UN เรียกร้องสหรัฐฯ ขอโทษ กรณีละเมิดสิทธิที่เรือนจำกวนตานาโม
ผู้เชี่ยวชาญขององค์การสหประชาชาติ (UN) เรียกร้องให้สหรัฐฯ ออกมาขอโทษกรณีทรมานนักโทษในเรือนจำกวนตานาโม เพื่อแสดงความรับผิดชอบต่อการละเมิดสิทธิมนุษยชน
ในรายงานที่เผยแพร่เมื่อวานนี้ (26 มิ.ย.) Fionnuala Ni Aolain ผู้รายงานพิเศษของ UN กล่าวขอบคุณคณะบริหารของประธานาธิบดีโจ ไบเดนแห่งสหรัฐฯ ที่อนุญาตให้เธอเยี่ยมชมคุกกวนตานาโมเมื่อต้นปีที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม เธอได้ย้ำถึงความจำเป็นในการแก้ไขปัญหาการละเมิดผู้ถูกคุมขัง
Ni Aolain ระบุว่า การละเมิดยังคงดำเนินต่อไปในเรือนจำกวนตานาโม พร้อมเน้นย้ำถึง “ข้อบกพร่องของโครงสร้างและระบบ ซึ่งรวมถึงการฝึกอบรม ขั้นตอนการปฏิบัติงาน และการปฏิบัติตามสิทธิของผู้ต้องขังเรื่องการเข้าถึงบริการดูแลสุขภาพ สภาครอบครัว และความยุติธรรม
ตัวอย่างเช่น ผู้ต้องขังจะถูกเรียกด้วยหมายเลขประจำตัว ไม่ใช่ชื่อของพวกเขา ซึ่งเป็นนโยบายที่ Ni Aolain กล่าวว่าเป็นการ “บ่อนทำลายคุณค่าและศักดิ์ศรีในตนเองของผู้ต้องขังแต่ละคน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในบริบทของการถูกลิดรอนเสรีภาพ การสื่อสาร และความสัมพันธ์กับโลกภายนอก
ซึ่ง Ni Aolain กล่าวว่า การทรมานผู้ถูกคุมขังในฐานลับที่เรียกกันว่าไซต์ดำ (Black Site) และที่กวนตานาโมเป็น “อุปสรรคที่สำคัญที่สุดเพียงอย่างเดียว” ในการประกันความยุติธรรมสำหรับผู้ที่ตกเป็นเหยื่อของเหตุวินาศกรรม 9/11
“เราจะคอยกดดันสหรัฐฯ ต่อไปเรื่อยๆ อย่างไม่ลดละ จนกว่าจะมีการขอโทษและรับประกันว่าในอนาคตจะไม่มีการปฏิบัติเช่นนี้ต่อทั้งผู้ที่ตกเป็นเหยื่อของการก่อการร้ายและนักโทษ”
คุกกวนตานาโมเปิดใช้งานในปี 2545 ภายใต้การบริหารของอดีตประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิลยู บุช เพื่อใช้เป็นสถานที่กักขังผู้ต้องขังที่ถูกจับในยุค “สงครามต่อต้านการก่อการร้าย” ภายหลังอัลกออิดะห์ก่อเหตุวินาศกรรม 9/11 เมื่อวันที่ 11 กันยายน 2544
เรือนจำแห่งนี้เคยเป็นที่อยู่ของผู้ต้องขังเกือบ 800 คน แต่ปัจจุบันจำนวนผู้ต้องขังลดลงเหลือเพียง 30 คน และในจำนวนนี้มี 16 คนที่ทางการสหรัฐฯ ประกาศปล่อยตัวแล้ว