“การประชุม APEC 2022” ความสำคัญและประโยชน์ที่อาจจะใกล้ตัวมากกว่าที่เราคิด
การประชุม APEC 2022 ที่จะเกิดขึ้นในไทยช่วงเดือนพฤศจิกายน พ.ศ.2565 นี้ เป็นการประชุมที่มีความสำคัญในระดับหนึ่ง ไม่ใช่เพียงแค่ในระดับภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกเท่านั้น แต่ยังมีความสำคัญในระดับโลกโดยเฉพาะด้านเศรษฐกิจการค้า ท่ามกลางความตึงเครียดทางการเมืองและเศรษฐกิจที่กำลังแพร่กระจายไปทั่วโลก ควบคู่กับปัญหาเงินเฟ้อที่กำลังลดทอนการฟื้นคืนของระบบเศรษฐกิจโลกหลังการระบาดโรคครั้งใหญ่
ทั้งหมดนี้ ทำให้การประชุม APEC 2022 ในระดับเวทีโลก มีความสำคัญในแง่ของการสร้างความร่วมมือแบบสมัครใจ ไม่ผูกมัดในทางกฎหมายและให้ความสำคัญกับการหารือร่วมกันเพื่อกำหนดเป้าหมายร่วมกัน ซึ่งต่างจากการประชุมโดยปกติที่มักจะมีการลงคะแนนเสียงเพื่อสนับสนุนมติใดมติหนึ่ง
และด้วยเงื่อนไขเช่นนี้เอง จึงตรงกับบริบทสังคมโลกปัจจุบันที่กำลังเผชิญกับความตึงเครียดในหลาย ๆ ประเด็นทั้ง ประเด็นทางการเมืองของประเทศมหาอำนาจต่าง ๆ ประเด็นเศรษฐกิจภายในหลายประเทศที่ประสบปัญหาเศรษฐกิจชะลอตัวและภาวะเงินเฟ้อที่รุนแรงขึ้น รวมทั้งประเด็นทางพลังงานที่กลายเป็นประเด็นสำคัญจากระดับราคาพลังงานโลกที่สูงขึ้นอย่างรวดเร็วในช่วงเวลาที่ผ่านมา
สิ่งสำคัญอีกประการที่ทำให้การประชุม APEC 2022 เป็นการประชุมที่มีความสำคัญมากกว่าการประชุมเอเปคโดยปกติ ก็เพราะเป็นการประชุมแบบมาพบเจอกัน ตัวต่อตัวเป็นครั้งแรกในรอบหลายปีที่ผ่านมา โดยที่ผ่านมา การประชุมเอเปคมักจะมีข้อจำกัดต่าง ๆ ทำให้ไม่สามารถดำเนินการได้อย่างเต็มที่เท่าที่ควรจะเป็นในช่วงก่อนหน้านี้
ไม่ว่าจะเป็นการประชุม APEC 2018 ที่ปาปัวนิวกินี ที่แม้ว่าจะเป็นการประชุมแบบพบเจอกันตัวต่อตัว แต่กลับไม่สามารถออกแถลงการณ์ร่วมของการประชุมเอเปคในครั้งนั้นได้ เนื่องจากความตึงเครียดด้านสงครามการค้าของสหรัฐอเมริกาในช่วงเวลานั้น หรือแม้แต่ในการประชุม APEC 2019 ที่ถูกยกเลิกการจัดประชุมในชิลีเนื่องจากความขัดแย้งทางการเมืองภายในประเทศ
การประชุม APEC 2020 ที่มาเลเซีย และ APEC 2021 ที่นิวซีแลนด์ ก็ประสบข้อจำกัดจากการระบาดของโรคโควิด-19 อย่างรุนแรง จนต้องใช้ระบบออนไลน์ในการประชุมตลอดช่วง 2 ปีที่ผ่านมา แต่ก็ยังสามารถบรรลุเป้าหมายของการประชุมได้สำเร็จทั้ง 2 ครั้ง
ดังนั้น APEC 2022 ครั้งนี้ จึงเป็นหมุดหมายสำคัญที่การประชุมกลับมาอยู่ในรูปแบบของการพบเจอกันแบบตัวต่อตัว ซึ่งจะมีบรรยากาศที่ต่างจากการประชุมออนไลน์เป็นอย่างมาก และเป็นจังหวะที่ดีของการได้เป็นเจ้าภาพของไทยในการได้โอกาสเติมเต็มช่องว่างที่หายไปจากการประชุมเอเปคมาหลายปี
การประชุม APEC 2022 ครั้งนี้ ไม่ได้มีเพียงสมาชิกภาคีความร่วมมือทางเศรษฐกิจในเอเชียแปซิฟิกที่เข้าร่วมเท่านั้น แต่ยังมีประเทศที่ไม่ได้อยู่ในกลุ่มเอเปคเข้าร่วมด้วย ไม่ว่าจะเป็นกัมพูชาในฐานะประธานอาเซียนของปีนี้ หรือแม้แต่ซาอุดีอาระเบียและฝรั่งเศสที่ไม่ได้เป็นสมาชิกภาพ แต่ก็ได้เข้าร่วมการประชุมในฐานะแขกพิเศษของรัฐบาล
รวมทั้งมีการนำเสนอแนวคิด เศรษฐกิจชีวภาพ- เศรษฐกิจหมุนเวียน- เศรษฐกิจสีเขียว หรือ Bio-Circular- Green- Economy Model (BCG) ของไทยในการประชุมครั้งนี้ โดยเป็นแนวคิดการพัฒนาที่มุ่งเน้นการพัฒนาและการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจที่ครอบคลุม ยั่งยืน และสมดุล ท่ามกลางบริบททางสิ่งแวดล้อมที่เริ่มถูกให้ความสำคัญโดยประเทศต่าง ๆ มากขึ้น
การผลักดันแนวคิดเศรษฐกิจสีเขียวของไทยย่อมเป็นผลดีในระยะยาวอย่างแน่นอน และถึงแม้จะดูไกลตัว แต่ประเด็นสิ่งแวดล้อมและการพัฒนาที่ยั่งยืนย่อมเป็นประเด็นที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ รวมทั้งเป็นสิ่งที่ทุกคนในตอนนี้กำลังเผชิญกับสถานการณ์สิ่งแวดล้อมที่ไม่ปกติเป็นจำนวนมาก และยังได้รับผลกระทบจากปัญหาสิ่งแวดล้อมไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง การพัฒนาที่ยั่งยืน คือ กุญแจสำคัญของการแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อม ปัญหาทางสังคม และช่วยเติมเต็มการพัฒนาให้ยังคงดำเนินต่อไปอยู่ได้
หากมองในมุมหนึ่ง แถลงการณ์ร่วมของการประชุมเอเปคแต่ละครั้ง มีผลตามมาเสมอ ไม่ว่าจะเป็นการเกิดขึ้นของข้อตกลงทางการค้าต่าง ๆ ความร่วมมือในการลดการกีดกันทางการค้า รวมทั้งความร่วมมือทางวิชาการระหว่างประเทศ ซึ่งเป็นผลดีที่ทุกคนในประเทศจะได้รับทั้งทางตรงและทางอ้อม และหากแนวคิดเศรษฐกิจสีเขียวได้รับการผลักดันให้เป็นจริง ผลดีจะไม่ได้เกิดเพียงแค่ต่อสมาชิกของ APEC เพียงเท่านั้น แต่จะเป็นคนทั้งโลกที่จะได้รับผลดีเหล่านั้นด้วยอีกทางหนึ่ง
ทั้งนี้ ความสำคัญของการประชุม APEC 2022 อาจจะดูไกลตัว แต่จากที่ผ่านมา การประชุมเอเปคแต่ละครั้งจะมีข้อหารือร่วมกันที่ได้กลายเป็นแนวทางนโยบายของแต่ละประเทศ และมีผลตามมาอย่างเห็นได้ชัด ไม่ว่าจะเป็น ข้อตกลงทางเศรษฐกิจ ความร่วมมือด้านต่าง ๆ รวมทั้งการตกลงร่วมกันในประเด็นที่สนใจ และหากมองในมุมหนึ่ง สาระสำคัญของการประชุม APEC 2022 ไม่ว่าจะออกมาในลักษณะใด ก็ย่อมหลีกเลี่ยงไม่ได้ว่าจะส่งผลขนานใหญ่ทั้งในระดับประเทศ และสังคมรอบตัวไม่มากก็น้อย
โดย ชย
โต้กลับกลยุทธ์หัวหมอ “Anti-Consumer” แก้ผู้บริโภคเสียเปรียบด้วยหลัก “พอเพียง”
ปรับเป็นพินัย กฎหมายใหม่เพื่อ ‘คนตัวเล็ก’ และระบบ Day Fine การคิดค่าปรับ จากฐานะหรือรายได้ของผู้กระทำผิด
ศิราวุธ ภุมมะกสิกร
อดีตวิศวกรโครงการ ระดับผู้จัดการ จบปริญญาตรีวิศวกรรมเครื่องกล จาก พระจอมเกล้าธนบุรี และ โท ด้าน Advanced Manufacturing Engineering จาก University of South Australia มีความสนใจในเรื่องประวัติศาสตร์ การเมือง และสวัสดิการสังคม