ที่มา จุดยืน และนโยบายของพรรคก้าวไกล ในการเลือกตั้งทั่วไป พ.ศ.2566:
พรรคก้าวไกลได้เกิดจากการรวมตัวกันของนายทุน นักวิชาการ และผู้นำการเคลื่อนไหวทางการเมือง ที่มีอุดมการณ์ยึดถือแนวคิดเสรีนิยมประชาธิปไตย ซึ่งเคยมีประวัติเป็นผู้สนับสนุนหรือเป็นแนวร่วมอยู่ในกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) และกลุ่มผลประโยชน์อื่น เช่น คณะนิติราษฎร์ ที่ได้รวมกันก่อตั้งเป็น “พรรคอนาคตใหม่” นำโดยธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจและปิยบุตร แสงกนกกุล
โดยเหตุแห่งการยุบพรรคและมีมติสั่งเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งของกรรมการบริหารพรรคเป็นระยะเวลา 10 ปี โดยศาลรัฐธรรมนูญจากประเด็นเรื่อง “เงินกู้” นั้น นับจากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของพรรคอนาคตใหม่เดิมส่วนใหญ่ที่ยังคงเหลืออยู่และไม่ได้ย้ายพรรคไปพรรคอื่น ๆ ก็ได้รวมตัวกัน เข้าไปแปรสภาพ “พรรคผึ้งหลวง” ที่มีสถานะเป็นพรรคขนาดเล็กและถูกมองว่าเป็น “พรรคเซ้ง” ให้กลายเป็น “พรรคก้าวไกล” ในเวลาต่อมา และในปัจจุบันนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ได้ดำรงตำแหน่งหัวหน้าพรรค
ในส่วนของจุดยืนนั้น สามารถกล่าวได้ว่าเป็นพรรค “ฝ่ายซ้าย” (leftist) หรือค่อนไปทาง “กลาง-ซ้าย” (center-left) เน้นผลักดันกระบวนการสร้างประชาธิปไตย (democratization) และประเด็นด้านสิทธิมนุษยชน อีกทั้งยังมีจุดยืนวิพากษ์วิจารณ์และต้องการปฏิรูปเปลี่ยนแปลง สถาบันพระมหากษัตริย์ ทำให้ประชาชนส่วนหนึ่งมองว่ามีจุดยืน “ต่อต้านสถาบันกษัตริย์” (antimonarchist) ควบคู่ไปกับการโหมกระแสต่อต้านการเข้ามาเกี่ยวข้องกับการเมืองของทหารและกองทัพ วิพากษ์วิจารณ์กลุ่มทุนใหญ่และรัฐราชการ
ความเคลื่อนไหวที่สำคัญในยุคแรกคือ การต่อต้านพรรคพลังประชารัฐและพรรคร่วมรัฐบาลหลังการเลือกตั้งทั่วไปปี พ.ศ.2562 โดยใช้คำว่า “ต่อต้านเผด็จการ” เนื่องจากในมุมมองของพรรคนั้น ได้มองว่า เป็นการสืบทอดอำนาจของรัฐบาล คสช. ซึ่งเป็นเหตุให้ตอนแรกพรรคมีความหลากหลายของจุดยืนในประเด็นอื่น ๆ โดยมีจุดร่วมกันสำคัญ คือ การรวมกันต่อต้าน คสช.
ปัจจุบันพรรคก้าวไกลถือว่ามีอุดมการณ์แบบ “สังคมนิยมประชาธิปไตย” (social democracy) ผลักดันการเมืองแบบเสรีนิยม (liberal) เปิดกว้างและยอมรับความแตกต่างทางความคิด เช่น ประเด็นเพศทางเลือก (LGBTQ+), ศาสนากับการเมืองการปกครอง, สิทธิเสรีภาพการแสดงออกทางการเมือง เป็นต้น และมีการผลักดันนโยบายเศรษฐกิจแบบสังคมนิยม (socialist) กึ่งผสม (mixed economy) ที่มีการแทรกแซงจากรัฐเพื่อสร้างรัฐสวัสดิการ
นโยบายของพรรคก้าวไกลที่นำเสนอต่อสาธารณชนในการเลือกตั้งครั้งนี้ ถือได้ว่าเป็นการชูอุดมคติของพรรคที่เอียงไปในทางสังคมนิยมอย่างชัดเจน มีหลายนโยบายที่แสดงจุดยืนความเป็นสังคมนิยม และเสรีนิยมอย่างเต็มที่ อาทิเช่น นโยบายสวัสดิการ ยกเลิกการเกณฑ์ทหาร และเลือกตั้งผู้ว่า ฯ ทุกจังหวัด
ซึ่งนโยบายบางส่วน เช่น การยกเลิกการเกณฑ์ทหาร หยุดส่วยตำรวจ และการปราบปรามการทุจริตด้วย AI เป็นการหยิบยกเอาจุดสนใจ (Pain Point) ของสังคมขึ้นมาเป็นนโยบาย โดยได้เน้นการสื่อสารไปยังกลุ่มคนรุ่นใหม่ไปจนถึงชนชั้นกลางเป็นกลุ่มหลัก
แต่เป็นที่น่าสังเกตประการหนึ่งว่า พรรคก้าวไกล ที่มักมีความเคลื่อนไหวและบทบาทในการยกเลิก /แก้ไขกฎหมายอาญามาตรา 112 อย่างชัดเจนตลอดมา กลับไม่ยกประเด็นนี้ขึ้นมาเป็นนโยบายหาเสียง บางทีอาจสะท้อนถึงทีมยุทธศาสตร์ของพรรคที่ได้มองเห็นแล้วว่า ประเด็นนี้ยังไม่เป็นที่ยอมรับของสังคม จึงไม่หยิบยกภาพที่ชัดเจนที่สุดของพรรคขึ้นมาเป็นนโยบายก็เป็นไปได้
อ้างอิง :
[1] พรรคก้าวไกล : ทิม-พิธาประกาศสานต่ออุดมการณ์อนาคตใหม่ นำทีม 55 ส.ส. ย้าย “บ้านใหม่ หัวใจเดิม”
https://www.bbc.com/thai/51788851
[2] เกี่ยวกับพรรค – พรรคก้าวไกล
https://www.moveforwardparty.org/about/
[3] ย้อนเส้นทาง “พรรคอนาคตใหม่” แสนขรุขระ เติบใหญ่ 507 วัน สู่ลาลับ จุดปิศาจกาลเวลา
https://www.thairath.co.th/news/politic/1777266
[4] 300 นโยบาย เปลี่ยนประเทศ
https://election66.moveforwardparty.org/policy
[5] เลือกตั้ง 2566 : เปิด 15 นโยบาย “ก้าวไกล” พร้อมพาไทยไม่เหมือนเดิม