สหรัฐฯ เสนอกฎหมาย ป้อนอาวุธมูลค่า 1.66 แสนล้าน สนับสนุนความมั่นคงของ ‘ไต้หวัน’

เมื่อวันพฤหัสที่ผ่านมา (15 ก.ย.) คณะกรรมาธิการวิเทศสัมพันธ์วุฒิสภาสหรัฐฯ อนุมัติร่างกฎหมายด้วยคะแนนเสียง 17:5 ที่จะมอบอาวุธมูลค่า 4.5 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ (1.66 แสนล้านบาท) ให้แก่ไต้หวันเพื่อใช้ในการ ‘ป้องกันตนเอง’ และจะสนับสนุนการเป็นสมาชิกในองค์กรระหว่างประเทศของไต้หวัน ทั้งนี้ ยังไม่มีความชัดเจนว่า สภาคองเกรสจะผ่านร่างกฎหมายฉบับนี้หรือไม่

บ็อบ เมเนนเดซ ส.ว.จากรัฐนิวเจอร์ซีย์ ซึ่งเป็นประธานคณะกรรมาธิการวิเทศสัมพันธ์วุฒิสภา กล่าวว่า ร่างกฎหมายฉบับนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อ “เสริมกำลังนโยบายของสหรัฐฯ ต่อไต้หวัน เพื่อรักษาความมั่นคงในช่องแคบไต้หวัน” พร้อมยืนยันว่าร่างกฎหมายดังกล่าวไม่ขัดต่อนโยบายจีนเดียวของสหรัฐ

เมเนนเดซ กล่าวเสริมว่า “ร่างกฎหมายดังกล่าวจะไม่ยกระดับความตึงเครียดกับจีนให้รุนแรงขึ้น แต่กลับเป็นการช่วยลดระดับภัยคุกคามที่ไต้หวันกำลังเผชิญอยู่อย่างระมัดระวังและอย่างมีกลยุทธ์ ด้วยการเพิ่มความเสี่ยงของจีนในการใช้กำลังเข้ายึดเกาะไต้หวัน”

เจมส์ ริสช์ ส.ว.รัฐไอดาโฮ กล่าวว่า “ร่างกฎหมายฉบับนี้ จะทำให้ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ต้องคิดทบทวนเรื่องการรุกรานไต้หวัน”

ในขณะที่ ฝ่ายที่โหวตคัดค้านร่างกฎหมายฉบับนี้อย่าง แรนด์ พอล ส.ว.จากรัฐเคนทักกี กล่าวว่า “ตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่จะมาเปลี่ยนแปลงนโยบายอย่างสุดขั้ว โดยปราศจากการไตร่ตรองอย่างรอบคอบถึงผลที่อาจตามมา”

และ ไบรอัน แชทซ์ ส.ว.จากรัฐฮาวาย กล่าวว่า “สิ่งนี้อาจเป็นการ ‘ยั่วโมโหชาวจีน’ โดยที่สหรัฐฯ จะไม่ได้ประโยชน์อะไรเลย”

ด้านเหมา หนิง โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีน แถลงเมื่อวันพุธที่ผ่านมา (14 ก.ย) ว่า จีน “คัดค้านกฎหมายนโยบายต่อไต้หวัน (the Taiwan Policy Act) ของสหรัฐอย่างแข็งกร้าว” และกล่าวเสริมว่า “นโยบายจีนเดียวเป็น ‘รากฐานทางการเมือง’ ของความสัมพันธ์ระหว่างจีนกับสหรัฐ และ ‘การจัดการปัญหาที่เกี่ยวข้องกับไต้หวันอย่างรอบคอบและเหมาะสมเท่านั้นที่จะสามารถป้องกันความเสียหายเพิ่มเติมต่อความสัมพันธ์ระหว่างจีนกับสหรัฐฯ ได้’”

(1 ดอลลาร์ = 36.99 บาท)