
ดูฮ่องกงเป็นตัวอย่าง ปธน.ไต้หวัน ขอให้ชาวไต้หวันนึกถึงสิ่งที่เกิดขึ้นกับฮ่องกง หากลงคะแนนเสียงให้ ‘พรรคก๊กมินตั๋ง’ ชนะเลือกตั้ง
เมื่อวันอาทิตย์ (3 ธ.ค.) ประธานาธิบดี ไช่ อิงเหวิน ของไต้หวัน ร้องขอให้ผู้มีสิทธิ์ลงคะแนนเสียงเลือกตั้ง นึกถึงสิ่งที่เกิดขึ้นกับฮ่องกงที่จีนควบคุมอยู่ ตอนที่ลงคะแนนเสียงในเดือนหน้า พร้อมกับระบุว่า สันติภาพจะต้องได้รับการสนับสนุนจากความมุ่งมั่นที่จะเสริมสร้างแสนยานุภาพด้านการป้องกันประเทศ
ไต้หวันกำลังเตรียมพร้อมจัดการเลือกตั้งประธานาธิบดีและสมาชิกรัฐสภาในวันที่ 13 ม.ค. 2567 ในขณะที่จีนซึ่งอ้างสิทธิ์เกาะแห่งนี้เป็นดินแดนของตน กำลังเพิ่มแรงกดดันทางทหารเพื่อยืนยันการอ้างสิทธิของตน รวมถึงการซ้อมรบสำคัญ 2 ครั้งบริเวณรอบเกาะไต้หวันในช่วงครึ่งปีที่ผ่านมา
ก๊กมินตั๋ง (KMT) ซึ่งพรรคฝ่ายค้านของไต้หวัน มองว่าการเลือกตั้งเป็นทางเลือกระหว่างสงครามและสันติภาพ ในขณะที่ พรรคประชาธิปไตยก้าวหน้า (DPP) ซึ่งเป็นพรรครัฐบาล และพรรคที่ วิลเลียม ไล ชิงเต๋อ ผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสังกัดอยู่ เป็นที่รังเกียจของจีนเนื่องจากจีนมองว่าเป็นผู้แบ่งแยกดินแดนที่เป็นอันตราย
ไช่ กล่าวปราศรัยกับกลุ่มผู้สนับสนุนในการชุมนุมรณรงค์หาเสียงให้กับ วิลเลียม ไล ในกรุงไทเป โดยกล่าวว่าฝ่ายค้านกำลังใช้ “การพูดคุยอย่างตื่นตระหนก” ในเรื่องสงครามและสันติภาพ
“ฉันอยากถามพวกคุณทุกคนที่นี่ว่ามีใครอยากทำสงครามบ้างไหม… ไม่มีใครอยากทำ” เธอกล่าว พร้อมกับระบุว่า “ลองมองฮ่องกงแล้วนึกถึงไต้หวัน เราไม่ต้องการความสงบสุขแบบฮ่องกง เราต้องการความสงบสุขที่มีเกียรติ”
ฮ่องกง อดีตอาณานิคมของอังกฤษ กลับคืนสู่การปกครองของจีนในปี 1997 โดยให้คำมั่นว่าจะมีเอกราชอย่างกว้างขวางภายใต้กรอบ “หนึ่งประเทศ สองระบบ” ซึ่งจีนได้เสนอให้กับไต้หวันเช่นกัน โดยได้รับการสนับสนุนเพียงเล็กน้อยบนเกาะแห่งนี้
เมื่อปี 2020 ปักกิ่งได้บังคับใช้กฎหมายความมั่นคงแห่งชาติที่เข้มงวดกับฮ่องกง ซึ่งจีนอ้างว่ามีความสำคัญอย่างยิ่งในการฟื้นฟูเสถียรภาพ หลังจากที่ฮ่องกงซึ่งเป็นศูนย์กลางทางการเงินระดับโลก ได้รับผลกระทบจากการประท้วงต่อต้านรัฐบาลและการประท้วงต่อต้านจีนอย่างรุนแรงในบางครั้งในปี 2019
ไช่ ซึ่งถูกจำกัดวาระไม่ให้ลงเลือกตั้งอีกครั้ง ได้ทำให้แนวคิดการสนับสนุนการป้องกันตนเองของไต้หวันเป็นรากฐานที่สำคัญของการดำรงตำแหน่งของเธอ ซึ่งเป็นจุดยืนที่ วิลเลียม ไล มีคะแนนนำในผลสำรวจ ได้ให้คำมั่นว่าจะสืบสานต่อไป
พวกเขากล่าวว่ามีเพียงคนไต้หวันเท่านั้นที่สามารถตัดสินใจอนาคตของตนเองได้ และได้เสนอการเจรจากับจีนหลายครั้งแต่กลับถูกปฏิเสธ
“เพื่อรับประกันสันติภาพ เราจำเป็นต้องเสริมสร้างความสามารถในการปกป้องตนเอง บ้านของเราจะมีกุญแจล็อคไว้ แต่ไม่ใช่เพื่อยั่วยุเพื่อนบ้านของเรา” ไช่ กล่าวในการปราศรัย พร้อมกับระบุว่า “ด้วยความมุ่งมั่นเท่านั้นที่เราจะสามารถปกป้องศักดิ์ศรีได้ และด้วยความแข็งแกร่งเท่านั้นที่เราจะสามารถรับประกันความสงบสุขได้”
ด้าน โหว โหย่วอี๋ ผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีจากพรรคก๊กมินตั๋ง กล่าวเมื่อวันเสาร์ (2 ธ.ค.) ว่าการลงคะแนนเสียงให้กับพรรค DPP เทียบเท่ากับ “การส่งทุกคนออกไปสู่สนามรบ” เพราะการสนับสนุนเอกราชของไต้หวันจะนำมาซึ่งสงคราม
พรรคก๊กมินตั๋ง มักจะสนับสนุนความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับจีน แต่ปฏิเสธอย่างแข็งขันว่าไม่สนับสนุนปักกิ่ง โดยพวกเขาให้คำมั่นว่าจะเปิดการเจรจากับจีนอีกครั้งหากชนะการเลือกตั้ง