สิงคโปร์ ไม่มีนโยบายค่าแรงขั้นต่ำทั่วไป แต่กลับสามารถยกระดับคุณภาพชีวิต ของประชาชนให้สูง และสามารถแข่งขันในตลาดโลก
เมื่อนึกถึง สิงคโปร์ ก็มักจะนึกถึงโมเดลทางเศรษฐกิจที่สามารถพัฒนาประเทศขนาดเล็กให้สามารถเป็นประเทศพัฒนาแล้วและมีรายได้ต่อหัวที่สูงเมื่อเปรียบเทียบกับประเทศในภูมิภาคเดียวกัน อย่างไรก็ตาม หากมองย้อนหลังก่อนหน้าหลายสิบปี สิงคโปร์ ครั้งหนึ่งเคยประสบปัญหาความขัดแย้งทางชาติพันธุ์ ปัญหาทางเศรษฐกิจ
รวมทั้งข้อจำกัดมากมายที่ประเทศต้องแบกรับ จากทั้งขนาดประเทศที่มีน้อยนิดเมื่อเทียบกับประเทศรอบข้าง วัตถุดิบทรัพยากรที่แทบไม่มีอะไรใช้นอกเหนือจากท่าเรือและระบบเมืองที่อังกฤษเคยสร้างเมื่อยังเป็นอาณานิคม ปัญหาความขัดแย้งด้านชาติพันธุ์ระหว่างเชื้อชาติมลายูและเชื้อชาติจีน และปัญหาความยากจนที่เป็นจุดสำคัญของการดำเนินนโยบายของประเทศหลังการเป็นประเทศเอกราช
ซึ่งเมื่อได้เป็นเอกราช สิงคโปร์ก็ได้ดำเนินนโยบายทางการเมืองและเศรษฐกิจควบคู่กัน โดยในทางการเมืองก็ได้มีนโยบายสร้างเสถียรภาพทางการเมืองและสังคมผ่านการบัญญัติกฎหมายและสร้างกลไกทางสังคมในการหล่อหลอมผู้คนในสังคมให้มีความเป็นหนึ่งเดียวกันรวมทั้งใช้ความเข้มงวดในการปกครองประเทศเพื่อสร้างเสถียรภาพของประเทศ
อาทิ การจัดตั้งระบบการเคหะแห่งชาติเพื่อสร้างที่อยู่อาศัยเป็นจำนวนมากภายใต้การจัดการของรัฐและโยกย้ายคนจากสลัมเข้ามาที่แฟลตแทนพร้อมกับการคละเชื้อชาติต่าง ๆ ในแฟลตอาคารเดียวกันให้มีสัดส่วนพอ ๆ กัน เพื่อส่งเสริมการอยู่ร่วมกันแบบหลากหลายเชื้อชาติ การจัดระเบียบทางเท้าและการขายของริมทางโดยจัดสถานที่สำหรับการค้าในรูปแบบที่คล้ายกับโรงอาหารในพื้นที่ต่าง ๆ
การจัดตั้งพื้นที่ประท้วงให้โดยเฉพาะควบคู่กับการออกกฎหมายห้ามประท้วงนอกพื้นที่เฉพาะ การปรับเงินอย่างรุนแรงสำหรับการละเมิดความสะอาดในพื้นที่สาธารณะและการละเมิดกฎจราจร การลงโทษในลักษณะที่รุนแรง เช่น การประหารชีวิตหากมีส่วนเกี่ยวข้องกับการทุจริตหรือยาเสพติด การโบยตีหรือเฆี่ยนเมื่อมีการทำลายทรัพย์สินสาธารณะ รวมทั้งการกวาดล้างอุดมการณ์คอมมิวนิสต์อย่างเด็ดขาด ฯลฯ
นอกจากนี้เพื่อเป็นหลักประกันในการอยู่รอดในฐานะเป็นประเทศขนาดเล็กเกิดใหม่ก็ได้มีการออกนโยบายมากมายเพื่อประกันความอยู่รอด
เช่น นโยบายการกลั่นน้ำทะเลให้เป็นน้ำประปาขนานไปกับการนำน้ำที่ใช้แล้วกลับมาใช้ใหม่ผ่านการแปรรูปน้ำเพื่อลดการพึ่งพิงทรัพยากรน้ำที่ต้องนำเข้าจากต่างประเทศ นโยบายการเกณฑ์ทหารชายทุกคนโดยใช้รูปแบบหลักสูตรเดียวกับอิสราเอลที่ให้ความสำคัญกับทักษะบุคลากรและการมีเครื่องมือทางการทหารที่ดีเพื่อรับมือกับภัยคุกคามรอบข้างที่อาจเข้ามา ฯลฯ
ในขณะที่อีกทางหนึ่งคือ เศรษฐกิจ ก็ได้มีการเปิดกว้างทางเศรษฐกิจในการดึงดูดต่างประเทศให้เข้ามาลงทุนและต่อยอดเศรษฐกิจในประเทศ เพราะการที่ต่างประเทศเข้ามาลงทุนในประเทศจะถือได้ว่าเป็นเงินต่อแรกในการตั้งตัวประเทศขึ้นมาพร้อมกับการยกระดับคุณภาพชีวิตของคนในประเทศ ขณะเดียวกันก็สามารถใช้ในการรักษาเสถียรภาพทางการเมืองไปด้วยควบคู่กัน
โดยช่วงแรกคือ อุตสาหกรรมพื้นฐานที่ไม่ได้ใช้ทักษะมากนัก ขนานไปกับการยกระดับการพัฒนาด้านการศึกษาและเพิ่มขีดความสามารถของคนในประเทศ จึงเป็นการดึงดูดอุตสาหกรรมและภาคเศรษฐกิจอื่น ๆ ที่ต้องการแรงงานทักษะสูงเข้ามาในประเทศ
ทั้งนี้ ไม่ได้มีการใช้การบังคับกฎเกณฑ์ระบบค่าแรงขั้นต่ำทั่วไปเหมือนกับประเทศอื่น ๆ แต่อย่างใด ทว่ากลับใช้กลไกตลาดและการตกลงร่วมของภาครัฐและนายจ้าง ในการกำหนดค่าแรงคร่าว ๆ ในช่วงเวลาหนึ่ง ซึ่งมีความยืดหยุ่นมากกว่าการกำหนดอัตราค่าแรงขั้นต่ำโดยตรง
เพราะเมื่อใช้กลไกค่าแรงขั้นต่ำทั่วไปที่ไม่ตายตัวและอิงตามกลไกตลาดโดยตรงก็ทำให้สามารถจัดสรรความต้องการจ้างและความต้องการถูกจ้างได้ลงตัว ซึ่งเมื่อเกิดภาวะแรงงานตึงตัวหรือหาแรงงานทำงานยากก็จะมีการตกลงกับนายจ้างเพื่อยกระดับค่าแรงขั้นต่ำทั่วไปแบบคร่าว ๆ ให้สูงขึ้น
เพื่อเปิดทางให้แรงงานเข้าไปทำงานในการจ้างที่มีมูลค่าสูงขึ้น ขนานไปกับการส่งเสริมการศึกษาเพิ่มเติมในฐานะกลไกไม่กี่อย่างเพื่อสร้างทรัพยากรมนุษย์ที่มีค่าในการขับเคลื่อนประเทศที่แทบไม่มีทรัพยากรวัตถุดิบใด ๆ ให้ขับเคลื่อนไปข้างหน้า
ขณะเดียวกันเมื่อเกิดปัญหาเศรษฐกิจถดถอยและอัตราการว่างงานสูงขึ้น ก็จะมีการตกลงกับนายจ้างเช่นกันเพื่อลดระดับค่าแรงขั้นต่ำทั่วไปแบบคร่าว ๆ ให้ต่ำลง เพื่อเปิดทางให้แรงงานที่ว่างงานเป็นจำนวนมากสามารถเข้าทำงานในตำแหน่งงานที่ถูกเพิ่มเติมโดยนายจ้าง
ซึ่งการจัดการระบบค่าแรงขั้นต่ำทั่วไปโดยใช้กลไกตลาดเข้ามากำกับดูแลขนานไปกับการตกลงระหว่างนายจ้างและภาครัฐ โดยไม่ได้มีบัญญัติเป็นกฎหมายค่าแรงขั้นต่ำทั่วไปอย่างชัดเจนเหมือนกับประเทศส่วนใหญ่บนโลก
ได้ทำให้การจัดการปัญหาทางเศรษฐกิจภายในประเทศสามารถจัดการได้ง่ายกว่าปกติเพราะมีความยืดหยุ่นมากกว่าการกำหนดค่าแรงขั้นต่ำทั่วไปแบบตายตัวซึ่งในหลายกรณีที่ไม่ได้คำนวณในกรณีที่เกิดกรณีแรงงานตึงตัวหรือกรณีการว่างงานในอัตราสูงมากนัก
หลังจากการยกระดับทางเศรษฐกิจจากการอิงอุตสาหกรรมพื้นฐานสู่อุตสาหกรรมชั้นสูง อุตสาหกรรมการธนาคาร และการบริการต่าง ๆ ซึ่งต่างก็เป็นแหล่งเศรษฐกิจที่มีรายได้และมูลค่าสูง ก็ได้ทำให้สิงคโปร์เป็นประเทศที่ประสบความสำเร็จทางเศรษฐกิจเป็นอย่างมากในเวทีโลกและมีเสถียรภาพทางการเมืองสูง
ที่เป็นปัจจัยสำคัญในการเอื้อให้เกิดการลงทุนและดำเนินกิจกรรมทางเศรษฐกิจภายในประเทศมากขึ้น เมื่อเทียบกับประเทศที่มีสถานะทางเศรษฐกิจใกล้เคียงกัน
รวมทั้งผลพวงจากการส่งเสริมการศึกษาภายในประเทศอย่างจริงจังตั้งแต่การก่อตั้งประเทศเป็นต้นมา ได้ทำให้การเปลี่ยนผ่านจากการเป็นศูนย์รวมแหล่งรายได้ราคาถูกเป็นแหล่งรายได้มูลค่าสูงสามารถเกิดขึ้นได้ง่ายดาย โดยไม่ต้องมีการกำหนดอัตราค่าแรงขั้นต่ำทั่วไปแบบตายตัวแต่อย่างใด
ดังนั้น เมื่อมองถึงกรณีของประเทศที่มีข้อจำกัดทางเรื่องขนาด ทรัพยากรวัตถุดิบ ความแตกต่างทางชาติพันธุ์ แต่กลับสามารถลุกขึ้นมากลายเป็นประเทศรายได้สูงและยกระดับคุณภาพชีวิตให้สูงขึ้น ซึ่งจุดหลักที่ทำให้มาถึงจุดนี้ได้ก็คงไม่พ้นเรื่องการสร้างเสถียรภาพทางการเมือง การสร้างบรรยากาศทางเศรษฐกิจให้เอื้อต่อกลไกตลาดเสรีและการลงทุน และการส่งเสริมการศึกษาให้แก่ประชาชนอย่างจริงจัง
และหากได้เคยแลมองเนื้อร้องของเพลงชาติสิงคโปร์ที่แต่งในช่วงการสร้างชาติ จะมีถ้อยคำในเชิงที่ว่า “ต้องการสร้างฝันให้เป็นจริง” ซึ่งก็คือการทำให้ประเทศเจริญรุ่งเรืองด้วยการสามัคคีของคนในชาติ และหากมองถึงวันนี้ก็คงบอกได้ว่า
“วันนี้ถือว่าเป็นจริงแล้ว”
โดย ชย
อ้างอิง :
[1] Singapore Minimum Wage Rate 2023
https://www.minimum-wage.org/international/singapore
[2] 1965-1970: Singapore’s Development Plan
https://www.sg101.gov.sg/economy/surviving-our-independence/1965-1970/
[3] The 1970s: Upgrading the Economy
https://www.sg101.gov.sg/economy/growing-our-economy/1970/
[4] 1979 to 1984: Economic Restructuring
https://www.sg101.gov.sg/economy/growing-our-economy/1979/
[5] 1986 to 1996: Rebounding into a Decade of Growth