Newsแลนด์บริดจ์ชุมพร – ระนองรอรัฐบาลใหม่เห็นชอบแนวทางการลงทุนคาดเปิดให้บริการปีแรก ภายในปี 2573 ดันไทยเป็นศูนย์กลางโลจิสติกส์โลก

แลนด์บริดจ์ชุมพร – ระนองรอรัฐบาลใหม่เห็นชอบแนวทางการลงทุนคาดเปิดให้บริการปีแรก ภายในปี 2573 ดันไทยเป็นศูนย์กลางโลจิสติกส์โลก

นายปัญญา ชูพานิช ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) เปิดเผยถึงความคืบหน้าโครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจเชื่อมฝั่งทะเลอันดามันและอ่าวไทย (แลนด์บริดจ์) ว่าขณะนี้ได้มีการศึกษาจุดที่ตั้งของท่าเรือน้ำลึกเสร็จแล้ว โดยฝั่งอันดามันจะตั้งท่าเรือที่แหลมอ่าวอ่าง จังหวัดระนอง และฝั่งอ่าวไทยอยู่แหลมริ่ว จังหวัดชุมพร

 

และนอกจากการพัฒนาท่าเรือน้ำลึกแล้ว ยังมีการพัฒนาโครงการโลจิสติกส์อื่นๆ เพื่อสนับสนุนการขนส่งตู้สินค้าจากท่าเรือทั้งสองแห่ง โดยทางการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) จะพัฒนาเส้นทางรถไฟทางคู่ ช่วงชุมพร – ระนอง เช่นเดียวกับกรมทางหลวง(ทล.) จะพัฒนาโครงการทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง (มอเตอร์เวย์) ช่วงชุมพร – ระนอง (MR8)

 

ซึ่ง สนข. ประเมินวงเงินสำหรับการลงทุนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานแลนด์บริดจ์ที่ 1 ล้านล้านบาท โดยแบ่งออกเป็น 

 

– โครงการท่าเรือฝั่งชุมพร 3 แสนล้านบาท 

– โครงการท่าเรือฝั่งระนอง 3.3 แสนล้านบาท 

– โครงการพัฒนาพื้นที่เปลี่ยนรูปแบบการขนส่งสินค้า (SRTO) 1.4 แสนล้านบาท 

– โครงการการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเส้นทางเชื่อมโยงท่าเรือ 2.2 แสนล้านบาท

 

อย่างไรก็ดี รายงานการศึกษาแผนพัฒนาโครงการท่าเรือน้ำลึกแลนด์บริดจ์นั้น เสนอไม่ทันรัฐบาลชุดก่อน ซึ่งเมื่อได้รัฐบาลชุดใหม่ จะมีการเสนอให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบทันที และจะทำควบคู่กันไปกับการจัดทำรายงานผลกระทบทางสิ่งแวดล้อม (EHIA) มั่นใจว่าโครงการนี้มีความจำเป็นในการพัฒนา ดังนั้นไม่ว่ารัฐบาลชุดใดจะเข้ามาบริหารก็จะมีการผลักดันต่อเนื่อง

 

หากผ่านความเห็นชอบจาก ครม. จะเดินหน้าเชิญชวนเอกชนร่วมลงทุน โดยมีเป้าหมายจัดทำโรดโชว์ดึงนักลงทุนต่างชาติที่ส่วนใหญ่ทำธุรกิจสายการเดินเรือประมาณ 10 ประเทศอาทิ สิงคโปร์ ฮ่องกง ไต้หวัน จีน ฝรั่งเศส และเยอรมัน เป็นต้น และหลังจากเชิญชวนเอกชนแล้วเสร็จ จะนำข้อเสนอต่างๆ มาวิเคราะห์รูปแบบการลงทุนที่เหมาะสม เบื้องต้นคาดว่าจะเปิดประมูลได้ต้นปี 2568 และลงนามเอกชนลงทุนในไตรมาส 3 ของปี 2568

 

สำหรับรูปแบบการลงทุนที่ศึกษาไว้ จะเปิดกว้างเอกชนต่างชาติให้สามารถถือหุ้นเกิน 50% ในการร่วมลงทุนพัฒนาโครงการนี้ อีกทั้งยังจะให้สัมปทานแก่เอกชนที่มาลงทุน 50 ปี เนื่องจากโครงการแลนด์บริดจ์มีมูลค่าการลงทุนสูง และเพื่อความคล่องตัวทางการลงทุน จะเปิดประมูลรวมสัญญาเดียว เพื่อมอบสิทธิบริหารโครงการให้กับเอกชนทั้งท่าเรือน้ำลึกชุมพร – ระนอง รวมไปถึงมอเตอร์เวย์และโครงการรถไฟ

 

สนข. มั่นใจว่าในปีแรกของการเปิดให้บริการท่าเรือน้ำลึกแลนด์บริดจ์ หรือช่วงปี 73 จะมีปริมาณขนส่งสินค้าผ่านท่าเรือระนอง จำนวน 19.4 ล้าน ที.อี.ยู และท่าเรือชุมพร 13.8 ล้าน ที.อี.ยู 

 

นายปัญญากล่าวว่า โครงการแลนด์บริดจ์จะเป็นเกตเวย์เชื่อมต่อการขนส่งสินค้าระหว่างท่าเรือแหลมฉบัง และ EEC สู่กลุ่มประเทศ BIMSTEC เป็นศูนย์กลางจุดเปลี่ยนถ่ายสินค้าของสายการเดินเรือทั่วโลก ลดระยะเวลาการเดินทางเชื่อมต่อเส้นทางเดินเรือระหว่างมหาสมุทรอินเดีย และมหาสมุทรแปซิฟิก รวมทั้งสร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจจากการพัฒนาอุตสาหกรรมหลังท่าเรือ

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    คุกกี้ที่มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้งานเว็บไซต์ได้อย่างเป็นปกติ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณ เพื่อให้เราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมและความสนใจของคุณ

บันทึกการตั้งค่า