
ได้พูดไม่เหมือนได้ทำ ‘หมอมิ้ง’ ตอบปมกระแสความนิยม ‘พิธา’ ขึ้นอันดับ 1 เชื่อประชาชนจะเห็นความจริงใจ
เมื่อวันที่ 27 ธ.ค. 66 หมอมิ้ง-นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่คะแนนความนิยมในตัวนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ อดีตหัวหน้าพรรคก้าวไกลยังมาเป็นอันดับ 1 ว่าการได้พูดกับการได้ทำเป็นคนละเรื่องกัน
ที่ผ่านมารัฐบาลเดินหน้าเกณฑ์ทหารด้วยความสมัยใจ ปรับลดกำลังพลให้เหมาะสม ทำให้มีบทบาทเหมาะสมกับสถานการณ์โลก สมรสเท่าเทียม PM2.5 ดิจิทัลวอลเล็ต ยึดมั่นตามที่หาเสียงไว้และจะทำให้เป็นจริง เราขอโอกาสทำงานให้ประชาชนเป็นจริง
เมื่อถูกถามว่า ที่กล่าวว่าพูดกับทำต่างกันนั้น เชื่อว่าในอีก 6 เดือนข้างหน้าคะแนนนิยมในพรรคเพื่อไทยจะกลับมาหรือไม่ น.พ. พรหมินทร์ตอบว่าตนเองไม่ได้พูดเช่นนั้น รัฐบาลตั้งใจทำประโยชน์ให้ประชาชนทั่วประเทศ โดยไม่เลือกทำเฉพาะพื้นที่ที่เรามี ส.ส.
เมื่อถูกถามว่าจะทำอย่างไรเพื่อดึงกระแสความนิยมในรัฐบาล น.พ. พรหมินทร์ตอบว่าความจริงใจและผลงานการปฏิบัติ ซึ่งเชื่อว่าประชาชนจะเห็นความจริงใจของเราที่เป็นรัฐบาลของประชาชน
เมื่อถูกถามว่ามีการตั้งข้อสังเกตว่า ภายหลังจากที่สมาชิกวุฒิสภา (สว.) หมดวาระในเดือน พ.ค. 67 พรรคเพื่อไทยจะมีอำนาจต่อรองสูงขึ้น น.พ. พรหมินทร์ตอบว่า ถือเป็นการคิดแบบเก่าที่แบ่งเป็นพวกเป็นพรรค ฉายารัฐบาลที่สื่อตั้งให้ว่าเป็น “แกงส้ม ผสมรวม” นั้น ถือเป็นการรวมเพื่อประเทศรวมเพื่อประชาชน ต้องขอบคุณที่สื่อชมเราและเราก็ไม่ได้ไปแกงใคร
น.พ. พรหมินทร์ยังได้ตอบคำถามในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนตัวนายกรัฐมนตรี ภายหลังจากที่ สมาชิกวุฒิสภาจะหมดวาระลงในเดือน พ.ค. 67 ว่าจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงตัวนายกรัฐมนตรี นอกจากนี้ยังยืนยันว่า อำนาจในการดูแลบริหารรัฐบาล อยู่ที่นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีมาโดยตลอด และจะไม่มีสภาวะนายกรัฐมนตรี 2 คนเกิดขึ้น
สำหรับอุ๊งอิ๊ง-แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทยนั้น น.พ. พรหมินทร์ยอมรับว่ารัฐบาลให้ความสำคัญ ในฐานะแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย โดยเข้ามาช่วยงานของรัฐบาล แต่ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องปรับเปลี่ยนใด ๆ
ในส่วนของบทบาทของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีนั้น น.พ. พรหมินทร์ตอบว่า นายเศรษฐาไม่ได้รับฟังเสียงของนายทักษิณเพียงคนเดียว แต่รับฟังเสียงจากประชาชนทุกคน เมื่อรับฟังแล้วนำมาปรับใช้สั่งการแก้ปัญหาต่างๆ ทันที
น.พ. พรหมินทร์กล่าวว่า ในปี 67 ปัจจัยสำคัญคือเรื่องเศรษฐกิจโลก ส่วนเสถียรภาพของภาครัฐถือว่าแข็งแกร่ง ถ้ามุ่งต่อประโยชน์ประชาชนถือว่าเสียงเราดัง