พรก. ฉุกเฉินยังมีความจำเป็น ‘พล.ท.ศานติ’ ห่วงสถานการณ์ความไม่สงบชายแดนใต้ ชี้ กอ.รมน. มีโรดแมพลด พรก. ฉุกเฉินอยู่แล้ว หวังประชาชนในชีวิตอย่างสงบสุข
ภายหลังการประชุมแถลงแผนเสริมสร้างสันติสุขจังหวัดชายแดนภาคใต้ ประจำปี 2567 วาระใหม่ เมื่อวันที่11 ต.ค. 66 พล.ท.ศานติ ศกุนตนาค แม่ทัพภาคที่ 4 ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ในฐานะประธานการประชุม ให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชนว่า
ในแผนของการปฏิบัติงาน สิ่งแรกที่ต้องการปรับแผนให้เร็วที่สุดคือในเรื่องของการรู้ข้อผิดพลาด ในปีที่ผ่านมาแล้วนำมาแก้ไข เพราะในปีที่ผ่านมาปฏิบัติงานได้ดี ไม่ว่าจะเป็นการบูรณาการร่วมกัน ของทหาร ตำรวจ ฝ่ายปกครองนั้น เราทำมาได้อย่างแน่นแฟ้น แต่ก็ยังมีบางจุดที่ยังเป็นข้อบกพร่องยอมรับว่ายังเป็นข้อที่ต้องแก้ไข อาจจะมีผิดพลาดบ้างในเรื่องของการทำงาน
เพราะฉะนั้นสิ่งแรกที่ได้เน้นย้ำให้กับกำลังพลทุกหน่วย คือ ทบทวนหลังการปฏิบัติ ว่าเกิดปัญหาอะไร ในแผนการปฏิบัติงานนั้นก็มีการปรับเปลี่ยนกำลังเล็กน้อย นอกนั้นก็ยังเป็นกำลังเหมือนเดิม แม้กำลังของทหารพราน จะลดยอดออกไปประมาณกว่า 800 นาย ซึ่งเป็นทหารพรานที่มาจากกองทัพภาคที่ 1 ภาคที่ 2 และภาคที่ 3 แล้วมีการปรับกำลังของเราเข้าไปทดแทน
ในเรื่องของการควบคุมพื้นที่มั่นใจว่าเราจะดูแลพื้นที่ได้ โดยเฉพาะพื้นที่ที่มีการก่อเหตุในห้วงที่ผ่านมา ก็ให้ความสำคัญในพื้นที่นั้นมากขึ้น ในปีที่ผ่านมาจะเห็นได้ว่า มีการก่อเหตุอยู่หลาย ๆ เคส ที่เจ้าหน้าที่รัฐเราถูกกระทำ จึงเป็นห่วงในเรื่องของการโดนลอบวางระเบิด จึงเป็นสิ่งที่ต้องแก้ไขเพื่อให้กำลังพลของเราได้รับความปลอดภัย ในส่วนของการก่อกวนยิงใส่ฐานปฏิบัติการ และการปาระเบิดไปร์บอมเราสามารถควบคุมการก่อเหตุได้
ในส่วนของ พรก.ฉุกเฉิน ความตั้งใจจริงยังคงอยากให้มีไว้ เราก็ได้มีการพูดคุยกันระหว่างทหาร ตำรวจ ฝ่ายปกครอง และพี่น้องประชาชนในพื้นที่ พยายามที่จะทำให้เต็มที่โดยคำนึงถึงความปลอดภัยของพี่น้องประชาชนเป็นหลัก และมีแผนรองรับกรณีหากมีการยกเลิก พรก.ฉุกเฉิน ตอนนี้เรามีการประชุมประเมินสถานการณ์และแบ่งพื้นที่แสดงถึงความจำเป็นว่าควรมีหรือยกเลิกในพื้นที่ไหนได้บ้าง
โดยการแยกพื้นที่ออกเป็นโซนสีเขียว โซนสีเหลือง และโซนสีแดง ซึ่งจริง ๆ แล้วในโรดแมพของเราได้มีการวางแผนในการลด พรก.ฉุกเฉิน อยู่แล้ว ทั้งนี้ทั้งนั้นโดยการประเมินจากตัวชี้วัดที่เป็นที่น่าพอใจว่าเหตุการณ์ความรุนแรงลดลงจนแทบไม่มีเลย
ส่วนในสิ่งที่คาดหวังที่สุดในการปฏิบัติหน้าที่คือ ความปลอดภัยของพี่น้องประชาชนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ตลอดจนความเป็นอยู่อย่างมีความสุข ปราศจากการก่อเหตุ สิ่งสำคัญคือประชาชนที่โยกย้ายถิ่นฐานออกไปในอดีตกลับเข้ามาใช้ชีวิตที่ปกติสุขในดินแดนบ้านเกิดของตน