ชายแดนเม็กซิโกวุ่น หลังผู้ลี้ภัยเวเนซุเอลาหลายพันคน ถูกทางการสหรัฐฯ ส่งตัวกลับเม็กซิโก
องค์การสหประชาชาติ (UN) ออกมาแสดงความกังวล หลังจากที่ผู้อพยพชาวเวเนซุเอลาหลายพันคนถูกสหรัฐฯ ส่งตัวกลับเม็กซิโก ในขณะที่ศูนย์พักพิงตามขอบชายแดนเม็กซิโกรับผู้อพยพเต็มอัตราแล้ว
นางเดน่า เกรเบอร์ ลาเด็ก หัวหน้าองค์กรระหว่างประเทศเพื่อการย้ายถิ่นฐาน (IOM) กล่าวเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา (18 ต.ค.) ว่า มีผู้อพยพชาวเวเนซุเอลากว่า 3,000 คน ถูกส่งตัวกลับเม็กซิโกหลังจากที่นโยบายใหม่ของไบเดนมีผลบังคับใช้เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งส่งผลให้การประท้วงบริเวณชายแดนเม็กซิโก-สหรัฐฯ ทวีความรุนแรงขึ้น
นโยบายใหม่ของไบเดนที่ประกาศใช้เมื่อวันที่ 12 ต.ค. ระบุว่า สหรัฐฯ จะรับผู้อพยพชาวเวเนซุเอลาด้วยเหตุผลทางมนุษยธรรมจำนวน 24,000 คน ที่เดินทางเข้ามาโดยเครื่องบิน อย่างไรก็ตามจะไม่รับผู้ลี้ภัยที่เดินข้ามชายแดนเข้ามา
เกรเบอร์ ลาเด็ก กล่าวว่า IOM กำลังทำงานร่วมกับรัฐบาลท้องถิ่นเม็กซิโก ในการเพิ่มจำนวนศูนย์พักพิงตามเมืองขอบชายแดนอย่าง ซิวแดด ฮัวเรซ และ ติฮัวนา ซึ่งขณะนี้ได้รับผู้อพยพหลากหลายเชื้อชาติแทบจะเต็มอัตราแล้ว
“เป็นเรื่องน่ากังวลใจอย่างยิ่งที่เห็นผู้อพยพมาออกันอยู่กันหน้าศูนย์พักพิง โดยเฉพาะสตรีมีครรภ์ แม่เลี้ยงเดี่ยว และคนป่วย ที่ถูกขับไล่มา” เกรเบอร์ ลาเด็ก กล่าวเสริม
ผู้อพยพชาวเวเนซุเอลารายหนึ่ง บอกกับรอยเตอร์ว่า เขาถูกส่งตัวมาที่เมืองซิวแดด ฮัวเรซ เมื่อวันจันทร์พร้อมกับภรรยาและลูกสองคน หลังจากที่เขาอ้างว่าถูกคุมขังในสหรัฐฯ เป็นเวลา 6 วันโดยไม่มีเงิน เสื้อผ้า หรือแม้กระทั่งอาหาร
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นเม็กซิโก ระบุว่า ศูนย์พักพิงในเมืองซิวแดด ฮัวเรซ ได้รับผู้อพยพที่ถูกส่งตัวกลับมาแล้วกว่า 1,000 คน ขณะที่ศูนย์พักพิงในเมืองติฮัวนา รับไปเกือบ 700 คน
ลงทุนโรงงานชิป บริษัทเซมิคอนดักเตอร์ของจีนเล็งใช้มาเลเซีย เป็นฐานในการประกอบชิประดับไฮเอนด์
ฐานเสียงย้ายข้าง โดยผู้สนับสนุนพรรคเดโมแครตในรัฐเท็กซัสบางส่วนหันไปหาทรัมป์ หลังได้รับผลกระทบอย่างหนักจากวิกฤตผู้อพยพเข้าเมือง
ยกเลิกงาน T-Pop หลังกรรมการนำเงินไปใช้จนหมด พบเป็นอดีตแกนนำกลุ่ม ‘นักเรียนเลว’ ที่รณรงค์สิทธิมนุษยชนและต่อต้านคอรัปชั่น
ศิราวุธ ภุมมะกสิกร
อดีตวิศวกรโครงการ ระดับผู้จัดการ จบปริญญาตรีวิศวกรรมเครื่องกล จาก พระจอมเกล้าธนบุรี และ โท ด้าน Advanced Manufacturing Engineering จาก University of South Australia มีความสนใจในเรื่องประวัติศาสตร์ การเมือง และสวัสดิการสังคม