ปัญหาภายใน พรรครวมไทยสร้างชาติ ที่อาจจะเป็นตัวแปรสำคัญในรัฐบาลเศรษฐา
เมื่อวันที่ 4 พ.ค. 2567 น.ส. วาสนา นาน่วม ผู้สื่อข่าวอาวุโส นสพ.บางกอกโพสต์ และน.ส.บุญระดม จิตรดอน ผู้สื่อข่าวอาวุโส สายทำเนียบรัฐบาล ร่วมจัดรายการ “ลับลวงพราง” ตอน “ปัญหาภายในของพรรครวมไทยสร้างชาติ”
น.ส.บุญระดมกล่าวว่าภายในพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) มีการเปลี่ยนตัวผู้อำนวยการพรรค ซึ่งจากเดิมเป็นคนสนิทของนายทุนของพรรค เป็นคนของนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรค ทำให้มีการตีความว่านายพีระพันธุ์มีปัญหากับนายทุนของพรรค
อีกทั้งในการประชุมพรรคที่ผ่านมา ทำให้มีการมองว่าหัวหน้าพรรค มีความขัดแย้งกับเลขาธิการพรรค (นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์) หรือไม่ เนื่องจากนายพีระพันธุ์ขอให้มีการย้ายที่ประชุมใหม่ จากสถานที่เดิมที่นายเอกนัฎกำหนดเอาไว้
และมีกระแสข่าวออกมาว่านายทุนของพรรคให้การสนับสนุนนายเอกนัฎมากกว่านายพีระพันธุ์ อีกทั้งในพรรคมีการจับกลุ่มกัน ซึ่ง น.ส. บุญระดมระบุว่าใครจะไม่อยากอยู่กับนายทุนพรรค
อีกทั้งตัวนายพีระพันธุ์เองก็มีปัญหาส่วนตัว มีบุคลิกที่เข้ากับใครก็ลำบาก ทำให้มีกระแสข่าวว่านายพีระพันธุ์กำลังถูกโดดเดี่ยว จะทำงานก็ลำบาก ทำให้นายพีระพันธุ์มีปัญหามาก และไม่รู้ว่าอนาคตของพรรคจะเป็นอย่างไรต่อ
“พรรคนี้กำลังกลายเป็นตัวแปรที่สำคัญสำหรับรัฐบาลเหมือนกันนะ ซึ่งเราก็ไม่รู้ว่ากับ 36 เสียงที่มีสำหรับพรรค รวมไทยสร้างชาติมันจะก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงกับรัฐบาลหรือเปล่า ? กับรัฐบาลที่มีอยู่ 314 เสียง” น.ส. บุญระดมกล่าว
น.ส.วาสนา และ น.ส. บุญระดมกล่าวถึงนายพีระพันธุ์ว่าเป็นคนที่มีปัญหาเรื่องบุคลิกลักษณะ เป็นคุณชายในทางการเมือง บางทีก็ดูน่ารัก บางทีก็คุย แล้วแต่อารมณ์ แต่ว่าโดยส่วนใหญ่แล้วนายพีระพันธุ์ไม่ค่อยจะเอาตัวมาให้นักข่าวเห็น เป็นคนที่ไม่ค่อยจะเสวนากับใคร เวลาที่คุยด้วย
ลักษณะบุคลิกภายนอกเหมือนเป็นคนถือตัว แต่จริง ๆ แล้วอาจจะไม่ใช่คนถือตัวก็ได้ อาจจะเป็นมิตรกับทุกคนก็ได้ เพียงแต่ว่ายังไม่ได้สนิทด้วยเลยไม่รู้ว่าจริง ๆ แล้วนายพีระพันธุ์เป็นคนอย่างไร
น.ส. บุญรอดยกตัวอย่างตัวเองว่า ถ้าไม่ใช่คนที่ไม่รู้จักด้วย ก็ไม่รู้ว่าจะคุยอะไร ซึ่งไม่ได้หมายความว่าเราหยิ่ง แต่เราไม่รู้จะคุยอะไร แต่พอรู้จักแล้วก็พูดไม่หยุด ซึ่งนายพีระพันธุ์อาจจะเป็นแบบนั้นด้วยก็ได้
“เวลาทำข่าวคุณพีระพันธุ์จะรู้สึกว่า โอ้โห้! เราแม่งวรรณะจัณฑาลเลย แกแบบต้องเป๊ะ ต้องพูดดี ๆ ต้องสุภาพเยอะ ๆ ไม่ใช่จะไปคุยแบบปกติไม่ได้ ต้องแบบสุภาพมาก ๆ” น.ส. วาสนากล่าว