Uber จับมือ Tesla ดึงคนขับ Uber ให้หันมาใช้ ‘รถยนต์ไฟฟ้า’ (EV) เพิ่มขึ้น เพื่อลดการปล่อยคาร์บอนให้เป็นศูนย์ภายในปี 2030
Uber ผู้ให้บริการเรียกรถยนต์รายใหญ่ของโลก กล่าวกับรอยเตอร์เมื่อวานนี้ (16 ม.ค.) ว่ากำลังทำงานร่วมกับ Tesla เพื่อส่งเสริมการใช้ยานพาหนะไฟฟ้าของคนขับ Uber ในสหรัฐฯ ในขณะที่บริษัทมุ่งสู่การเป็นแพลตฟอร์มที่มีการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์เป็นศูนย์ให้ได้ 100% ในเมืองต่างๆ ในสหรัฐฯ และแคนาดา ภายในปี 2030
Uber มอบข้อเสนอส่วนลดให้กับคนขับสูงสุดถึง 2,000 ดอลลาร์ (ประมาณ 71,079 บาท) สำหรับ Tesla Model 3 โดยคนขับสามารถใช้รหัสอ้างอิงเพื่อซื้อยานพาหนะจากโรงงานของ Tesla โดยตรง หรือจากสินค้าคงคลังที่มีอยู่จนกว่าสินค้าจะหมด
ทั้งนี้ คนขับจะต้องซื้อและรับรถภายในวันที่ 31 มี.ค. และทำรอบให้ได้ 100 เที่ยวภายในวันที่ 15 พ.ค. จึงจะมีสิทธิ์ได้รับส่วนลดดังกล่าว นอกจากนี้ Uber ได้เริ่มกิจกรรมทดลองขับที่โชว์รูมของ Tesla ด้วย
“เรารู้ว่าต้นทุนการเป็นเจ้าของและการเข้าถึงการชาร์จที่สะดวกเป็นอุปสรรคสำคัญสองประการที่ขัดขวางไม่ให้คนขับเลือกใช้รถยนต์ไฟฟ้า และเรากำลังทำงานร่วมกับ Tesla เพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าว” Uber กล่าว
เริ่มต้นที่นิวยอร์กซิตี้ Uber ได้เริ่มแชร์ข้อมูลกับ Tesla เกี่ยวกับจุดที่คนขับต้องการโครงสร้างพื้นฐานสำหรับชาร์จรถยนต์ไฟฟ้ามากที่สุด
ตัวเลขคนขับ ‘Uber’ ในสหรัฐฯ แคนาดา และยุโรป ที่ใช้รถยนต์ไฟฟ้าอยู่ที่ 74,000 ราย ในปีที่แล้ว
(1 ดอลลาร์ = 35.54 บาท)