NewsExxon ลุยผลิตแร่ลิเธียม โดยตั้งเป้าเป็นผู้ผลิตลิเธียมชั้นนำสำหรับแบตเตอรี่ EV ผ่านการขุดเจาะแร่ลิเธียมในรัฐอาร์คันซอ

Exxon ลุยผลิตแร่ลิเธียม โดยตั้งเป้าเป็นผู้ผลิตลิเธียมชั้นนำสำหรับแบตเตอรี่ EV ผ่านการขุดเจาะแร่ลิเธียมในรัฐอาร์คันซอ

เอ็กซอน โมบิล (Exxon Mobil) ประกาศเมื่อวันจันทร์ (13 พ.ย.) ว่าบริษัทตั้งเป้าที่จะเป็นผู้ผลิตลิเธียมสำหรับแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้า (EV) ชั้นนำของโลก ผ่านทางการขุดเจาะแร่ลิเธียมในรัฐอาร์คันซอ

 

เมื่อต้นปีที่ผ่านมา Exxon ได้ซื้อพื้นที่ทางธรณีวิทยาขนาด 120,000 เอเคอร์ (ประมาณ 303,600 ไร่) ทางตอนใต้ของรัฐอาร์คันซอ ที่เรียกว่า Smackover Formation ซึ่งอุดมไปด้วยแร่ลิเธียม โดย เอ็กซอน จะเริ่มการผลิตลิเธียมเกรดแบตเตอรี่ที่ไซต์ดังกล่าวอย่างเร็วที่สุดภายในปี 2570 และตั้งเป้าที่จะจัดหาแร่ให้เพียงพอสำหรับการผลิตรถยนต์ไฟฟ้า 1 ล้านคันต่อปี ภายในปี 2573

 

Exxon ระบุในแถลงการณ์ว่า ทางบริษัทกำลังเจรจากับผู้ที่อาจเป็นลูกค้าในอนาคต (potential customers) เช่น ผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าและแบตเตอรี่

 

ความเคลื่อนไหวดังกล่าวมีขึ้นในขณะที่บรรดาบริษัทน้ำมันยักษ์ใหญ่ กำลังเผชิญกับแรงกดดันด้านการจัดการกับเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ โดยในขณะที่ Shell และ BP มุ่งเน้นไปที่พลังงานหมุนเวียน เช่น พลังงานลมและแสงอาทิตย์ ด้าน Exxon ได้ลงทุน 1.7 หมื่นล้านดอลลาร์ (ราว 6.13 แสนล้านบาท) จนถึงปี 2570 เพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก โดยมุ่งเน้นไปที่การดักจับคาร์บอน ไฮโดรเจน และเชื้อเพลิงชีวภาพ

 

แดน อัมมาน ประธาน ExxonMobil Low Carbon Solutions กล่าวกับ CNBC ว่าการเพิ่มการผลิตลิเธียมในประเทศมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการเปลี่ยนผ่านพลังงาน (energy transition) โดย Exxon มองว่าลิเธียมเป็นการลงทุนที่ยาวนานหลายทศวรรษและมีศักยภาพในการเติบโตสูง ในขณะที่สหรัฐฯ หันมาใช้ยานพาหนะไฟฟ้า กันมากขึ้น

 

สหรัฐฯ พึ่งพาการนำเข้าลิเธียมจากอาร์เจนตินาและชิลีเพื่อตอบสนองความต้องการภายในประเทศ แม้ว่าสหรัฐฯ จะมีแหล่งแร่ลิเธียมที่ใหญ่ที่สุดในโลกก็ตาม โดยปัจจุบันสหรัฐฯ มีการดำเนินการผลิตลิเธียมเชิงพาณิชย์เพียงแห่งเดียวในรัฐเนวาดา

 

ตามรายงานที่เผยแพร่เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ของ ลิ-บริดจ์ (Li-Bridge) ซึ่งเป็นกลุ่มอุตสาหกรรมแบตเตอรี่ที่ได้รับการสนับสนุนจากกระทรวงพลังงานสหรัฐฯ ระบุว่า ความต้องการแบตเตอรี่ลิเธียมคาดว่าจะเพิ่มขึ้น 6 เท่าในสหรัฐฯ ภายในปี 2573 ในขณะที่ประชาชนในประเทศหันมาใช้ยานพาหนะไฟฟ้ากันมากขึ้น ทั้งนี้ จากจำนวนรถยนต์บนท้องถนนในสหรัฐฯในปัจจุบัน มีเพียง 1% ที่เป็นรถยนต์พลังงานไฟฟ้า

 

Cox Automotive รายงานเมื่อเดือนตุลาคมว่า ยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าในสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 50% ในไตรมาสที่ 3/2566 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว 


(1 ดอลลาร์ = 36.10 บาท)

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    คุกกี้ที่มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้งานเว็บไซต์ได้อย่างเป็นปกติ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณ เพื่อให้เราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมและความสนใจของคุณ

บันทึกการตั้งค่า