เปลี่ยนชื่อทะเลสาปสงขลา สส. ประชาธิปัตย์เสนอเปลี่ยนชื่อ ‘ทะเลสาบสงขลา’ ให้มีความเป็นสากลเป็นชื่อ ‘ไทยลากูน’
เมื่อวันที่ 8 ม.ค. 2567 นายร่มธรรม ขำนุรักษ์ ส ส.พัทลุง พรรคประชาธิปัตย์ นำเสนอรายงานการลงพื้นที่ตรวจสอบปัญหาที่เกิดขึ้นบริเวณพื้นที่ลุ่มน้ำทะเลสาบสงขลา และลุ่มน้ำทะเลสาบอื่นๆ ที่อยู่ในพื้นที่ จ.พัทลุง สงขลา และนครศรีธรรมราช ของกรรมาธิการการที่ดิน ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สภาผู้แทนราษฎรโดยเฉพาะการบุกรุกที่ดินของกลุ่มนายทุน ปัญหาการทำประมง ปัญหาการใช้พื้นที่เลี้ยงควายน้ำหรือควายปลัก ปัญหาการตื้นเขินของน้ำ และการใช้พื้นที่ร่วมกันเพื่อการท่องเที่ยว
นายร่มธรรมกล่าวว่า ประชาชนชาวพัทลุงเรียกพื้นที่ลุ่มแม่น้ำทะเลสาปสงขลาว่า “ทะเลสาบพัทลุง” ซึ่งทะเลสาบดังกล่าวมีความโดดเด่น เป็นทะเลสาบแห่งเดียวที่มีทั้งน้ำจืด น้ำเค็ม และน้ำกร่อย จึงอยากจะเปลี่ยนชื่อเรียกให้มีความเป็นสากลให้เป็นชื่อ “ไทยลากูน” เพื่อให้หลายฝ่ายเข้าใจถึงบริบทระบบนิเวศ และความสำคัญของพื้นที่
ทะเลสาปแห่งนี้มีทรัพยากรธรรมชาติที่สำคัญเช่น ป่าพรุควนขี้เลี่ยน ป่าพรุควนเคร็ง รวมถึงสัตว์หายากในท้องทะเลสาบคือ ปลาโลมาอิรวดี ซึ่งประชาชนรอบ ๆ พื้นที่ทะเลสาบใช้ทำการเกษตร ทำการประมง และการปศุสัตว์ แต่ในปัจจุบันทรัพยากรธรรมชาติเสื่อมโทรมลงอย่างเห็นได้ชัด จากปัญหาการบุกรุกพื้นที่ ปัญหาการประมงผิดกฎหมาย พื้นที่ซับซ้อนระหว่างที่ดินของชาวบ้านกับที่ดินของรัฐ ปัญหาน้ำเสียที่ทิ้งจากชุมชนและโรงงานอุตสาหกรรมรอบๆทะเลสาบ
“ทะเลสาบสงขลา หรือที่เราอยากเรียกกันว่า ไทยลากูน มีศักยภาพมากมายที่จะพัฒนาโดยเฉพาะการท่องเที่ยวแบบอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและเชิงนิเวศ ที่จะสร้างรายได้ให้แก่พี่น้องประชาชนแบบยั่งยืนต่อไป” นายร่มธรรม กล่าว
“ติ่งส้มนี่ หยาบคายสุดๆ เสนอความคิดอะไรไม่ได้เลย ต้องด่ากันหยาบคายด้วยหรือครับ พิธาจะเป็นนายกฯ แบบห้ามวิจารณ์กันเลยใช่มั้ย ประเทศนี้มันคงจะเดินหน้ากันต่อไปแบบน่ากลัวน่าดู” – ดวงฤทธิ์ บุนนาค แกนนำกลุ่ม CARE คิด เคลื่อน ไทย ทวิตเตอร์, 9 ก.ค. 66
เลี่ยงภาษีหรือไม่ ? ชูวิทย์ หอบเอกสารร้องเรียนอธิบดีสรรพากร ‘แสนสิริ’ ซื้อที่ดินแปลงเดียวผู้ขาย 12 คน เชื่อ มีเจตนาช่วยผู้ขายเลี่ยงภาษี 512 ล้าน
