รู้หรือไม่ว่า America ก่อตั้งขึ้นมาได้เพราะ Fake News ที่ไร้จรรยาบรรณ

ปี 1763 ชาวอาณาอเมริกันเข้าใจว่าตนเองจะได้พักผ่อนหลังอังกฤษและฝรั่งเศสเซ็นสัญญาสงบศึกต่อกัน แต่แล้วพวกเขาก็ต้องสะดุ้งเมืองอังกฤษประกาศพระราชกฤษฎีกาปี 1763 ซึ่งทำให้อิสรภาพในการปกครองตนเองของพวกเขาหายไป และตามต่อด้วยพระราชบัญญัติอากรแสตมป์ 1765 ที่เริ่มเก็บภาษีจากชาวอาณานิคม

ความคิดของชาวอาณานิคมในเวลานั้น แยกออกเป็น 2 ฝ่าย ฝ่ายที่สนับสนุนอังกฤษเห็นว่า ราชสำนักอังกฤษเป็นผู้ลงทุนบุกเบิกดินแดน และทำสงครามเพื่อยึดครองดินแดน อังกฤษจึงย่อมมีสิทธิที่จะควบคุมปกครอง และเก็บภาษี ในขณะที่ฝ่ายคัดค้านเห็นว่า การออกกฎหมายใด ๆ ต่ออาณานิคมนั้น สมควรจะมีตัวแทนของอาณานิคมมีส่วนร่วมด้วย

การถกเถียงเยี่ยงปัญญาชนนั้นมีในระดับปัญญาชน ซึ่งนี่เป็นสิ่งที่ควรจะกระทำ แต่ทว่า ในด้านมืดนั้น มีการสร้างข่าวลือ ปล่อยข่าวเท็จ กุ Fake News เพื่อสร้างความเกลียดชังอังกฤษในหมู่ชาวบ้านประชาชน เพื่อสร้างกระแสการกบฏต่อต้านอังกฤษในหมู่มวลชนด้วยเช่นกัน

ในบทความจาก The Washington Post ชื่อ “Fake news? That’s a very old story” ส่วนความคิดเห็น (opinion section) โดย โรเบิร์ท พาร์คินสัน (Robert G. Parkinson) นักวิชาการจากมหาวิทยาลัย Binghamton เขาได้เล่าถึงบทความและรายงานข่าวต่าง ๆ ที่ถูกเขียนขึ้นในยุคการก่อตั้งประเทศสหรัฐอเมริกา จากทั้งบุคคลที่ถูกเรียกว่าเป็น “บิดาผู้ก่อตั้ง” หรือ Founding Fathers ไม่ว่าจะเป็น วิลเลี่ยม ลิฟวิงส์ตัน, เบนจามิน แฟรงคลิน หรือ จอห์น อดัมส์ ซึ่ง พาร์คินสัน ได้ยกตัวอย่างบทความที่ทั้งสามได้เขียนและเผยแพร่ เพื่อเป็นการโจมตีอำนาจรัฐในยุคนั้น นั่นก็คืออำนาจของจักรวรรดิอังกฤษ ไม่ว่าจะเป็นการกล่าวว่ากษัตริย์อังกฤษกำลังส่งทหารมาเข่นฆ่าชาวอาณานิคมอเมริกัน หรือเขียนรายงานปลอมขึ้นมา ว่าทหารท้องถิ่นพบกับซากหัวกะโหลกของชาวอาณานิคม ทั้งที่เป็นเด็ก ผู้หญิง หรือชาวไร่ชาวนา ซึ่งรายงานปลอมนั้นกล่าวว่าชาวอเมริกันพื้นเมืองนั้นได้ทำตามคำสั่งของกษัตริย์อังกฤษ ซึ่งแน่นอนว่าไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด

และต่อมา ในการเลือกตั้งประธานาธิบดีปี 1800 ซึ่งเป็นศึกป้องกันตำแหน่งของจอห์น อดัมส์ ประธานาธิบดีคนที่ 2 กับ โทมัส เจฟเฟอร์สัน มีการใช้ข่าวปลอมเพื่อโจมตีคู่แข่ง หลอกให้ประชาชนหลงเชื่อ ซึ่ง ดร. เซ็ท ไวทซ์ (Seth Weitz, Ph.D.) แห่งวิทยาลัยดาลตันสเตจ ระบุไว้ในบทความ “‘Fake News’ is Rooted in American History (2018)” ว่า อดัมส์ใส่ร้ายเจฟเฟอสันว่า ถ้าเขาชนะ ผู้หญิงทุกคนจะกลายเป็นโสเภณี และการฆาตกรรม การข่มขืน การปล้นชิง และการล่วงประเวณีจะกลายเป็นเรื่องปกติ ในขณะที่เจฟเฟอสันอ้างว่า อดัมส์เป็นพวกอังกฤษต้มตุ๋น โกหก ใจคดและขี้โกง

แจ๊คกี้ แมนสกี้ (Jackie Mansky) เขียนบทความ “The Age-Old Problem of “Fake News” (2018)” ในวารสารสมิทโซเนี่ยน บรรยายถึงการใช้หนังสือพิมพ์โจมตีพรรคการเมืองฝ่ายตรงข้ามในสมัยนั้นเป็นอย่างดี โดยต่างฝ่ายต่างมุ่งเน้นไปที่การกระจายข่าวสารของฝ่ายตนออกไปให้ได้มากที่สุด โดยไม่สนใจถึงความถูกต้องและจริยธรรมเลยแต่อย่างใด

แม้ว่าในปี 1910 อเมริกาจะมีการสร้าง ประมวลจริยธรรมสื่อขึ้นมาก็ตาม แต่มันก็ยังเป็นเพียง “ข้อแนะนำ” หรือ “ข้อควรปฏิบัติ” เท่านั้น ไม่ได้มีตัวบทกฎหมาย หรือมีมาตรการในการลงโทษสื่อที่ทำผิดจริยธรรมสื่อแต่อย่างใด และอเมริกา ยังใช้ข่าวปลอมเหล่านี้ เพื่อหวังผลประโยชน์ทางการเมืองมาตลอด ไม่ว่าจะการใส่ความประธานาธิบดีซัดดัม ฮุสเซ็นของอิรัค ว่าซ่อน “อาวุธทำลายล้างสูง (Weapon of Mass Destruction)” ซึ่ง แม้ภายหลังจากที่อเมริกาเข้ายึดครองอิรักเป็นเวลานับสิบปี ก็ยังไม่เคยค้นหาอาวุธทำมหาประลัยดังกล่าวได้เลย

ที่น่าตลกคือ ในเว็บไซต์ www.ready.gov ของรัฐบาลอเมริกัน จะเห็นได้ว่า ทางการสหรัฐนั้น มีการประกาศถึงแผนการรับมือ “หายนะฝูงซอมบี้” ด้วย

เป็นเอามาก

เราจะเห็นได้เลยว่า ประวัติศาสตร์อเมริกา นับตั้งแต่การเริ่มก่อตั้งประเทศนั้น มีการใช้ข่าวปลอม เพื่อการหวังผลทางการเมืองมาโดยตลอด ประวัติศาสตร์ด้านมืดของอเมริกา ฟ้องถึงตัวตนของความเป็นนักต้มตุ๋นลวงโลกของชาวอเมริกัน

แล้วแบบนี้ เราควรจะไว้เนื้อเชื่อใจอเมริกันได้อีกหรือ ?