Here We Go (77) จับตาสถานการณ์การเมืองของไทย กับบทละครจัดตั้งรัฐบาลฉากใหม่ ที่ประชาชนต้องอดใจรออีกนาน

ได้เห็นภาพข่าวต่อเนื่องที่ในหลวงทรงพระราชทานความช่วยเหลือในทุกทางอย่างทันทีแก่ชาวบ้านผู้ประสบภัยเหตุโกดังพลุระเบิดที่บ้านมูโนะ อ.สุไหงโกลก จ.นราธิวาส ทั้งพระราชทานสิ่งของจำเป็น เงินสงเคราะห์จากมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ โรงครัวพระราชทาน 

รวมถึงให้องคมนตรีและนายกรัฐมนตรีคุณประยุทธ์ติดตามสถานการณ์ความเดือดร้อนเพื่อจะได้ส่งความช่วยเหลือได้ต่อเนื่อง ทรงพระราชทานกำลังใจแก่ผู้เดือดร้อน และเจ้าหน้าที่ทุกหมู่เหล่าที่เข้าให้ความช่วยเหลือ ชวนให้เหล่าประชาชนร่วมกันเป็นจิตอาสาแบ่งปันความช่วยเหลือ ช่วยดูแลประชาชน เพื่อให้เกิดเป็นพลังความรัก ความสามัคคีของคนในพื้นที่และคนในชาติ ทำให้เห็นถึงความเป็นศูนย์รวมจิตใจของคนในชาติอย่างแท้จริง 

ในยามที่ประชาชนเดือดร้อนไม่ว่าเรื่องเล็กหรือใหญ่ ความช่วยเหลือจากพระองค์มาก่อนใครเสมอ เร็วกว่าหน่วยราชการที่ติดขัดเรื่องระเบียบทำให้ล่าช้า เร็วกว่าภาคเอกชนที่ต้องรอผู้บริหารอนุมัติจัดเตรียม และเร็วกว่านักการเมืองจากทุกพรรคซึ่งจนถึงทุกวันนี้ยังไม่เห็นความช่วยเหลือใดๆ เพราะมัวแต่คิดถึงประโยชน์ทางการเมืองของตัวเองมาก่อนสิ่งอื่นใด มิหนำซ้ำบางพรรคยังอ้างที่จะเข้ามาจัดวางพระราชอำนาจของพระมหากษัตริย์ใหม่อีกด้วยซ้ำ ถึงตอนนี้ลองนึกดูให้ดีว่าสถาบันไหนควรที่จะต้องถูกปฏิรูปก่อน 

ผ่านไปมาแถวรัฐสภาหลายครั้งในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาได้แต่คอยมองหานายกรัฐมนตรีคนที่ 30 ของประเทศหลายครั้งแต่ก็ยังไม่ได้เห็นเสียที ซ้ำร้ายคุณวันนอร์มาประกาศเลื่อนกำหนดวันลงคะแนนรับรองนายกรัฐมนตรีออกไปจนกว่าศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำวินิจฉัยชัดเจนเสียอีก เลยยังไม่มีความแน่นอนว่า ใครจะเข้ามาทำหน้าที่แทนคุณประยุทธ์ 

เงื่อนไขทางการเมืองเปลี่ยนไปทุกวัน พรรคเพื่อไทยในฐานะพรรคอันดับ 2 ที่ได้รับสิทธิเสนอผู้ที่จะมาเป็นนายกรัฐมนตรีและเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลคิดว่าจะมีอำนาจต่อรองมากกว่าพรรคอื่นๆ ไปๆ มาๆ ชักจะแย่เพราะเหลือเสียงเพียงแค่ 141 เสียง แม้จะดึงพรรคภูมิใจไทยมาร่วมเสียงก็ยังไม่พอ ครั้นจะรวมกับพรรคพลังประชารัฐ พรรครวมไทยสร้างชาติ ก็ติดตรงที่ว่าที่นายกของพรรคเพื่อไทยเคยประกาศว่าจะไม่รวมกับพรรค 2 ลุง แถมยังเคยประกาศว่าจะแก้มาตรา 112 อีกด้วยจะกลับลำอย่างไร จะแก้ตัวกับแฟนคลับอย่างไร 

อาการที่ไปทวงเสียงสนับสนุนจากพรรคก้าวไกลให้ลงคะแนนสนับสนุนนายกรัฐมนตรีจากพรรคเพื่อไทยแบบต่างตอบแทน แสดงให้เห็นถึงความไม่แน่ใจในเสียงจาก สว. อาการของคุณโทนี่ที่บอกว่าถูกหมอเรียกตรวจร่างกายจนต้องประกาศเลื่อนวันกลับไทยเองแสดงให้เห็นว่าการต่อรองจัดตั้งรัฐบาลยังตกลงกันไม่ได้ 

อีกมุมหนึ่งแสดงให้ถึงความรักลูกอุ๊งอิ๊งเป็นที่สุด ไม่ต้องการให้ออกมารับแทนพ่อกลัวจะเสียคำพูดจากก่อนหน้านี้ จากนี้คุณโทนี่และคนหลังบ้านคงต้องลงมือดีลเองถ้าอยากให้เรื่องจบและไม่เสียอำนาจต่อรองมากไปกว่านี้ 

พรรคก้าวไกลเป็นอีกพรรคหนึ่งที่หยุดนิ่งไม่ได้ ไม่เช่นนั้นจะหมายถึงการยอมรับความพ่ายแพ้ทางการเมืองทันที ความเป็นพรรคที่ได้รับเลือกมาเป็นอันดับหนึ่งแต่กลับไม่ได้รับตำแหน่งสำคัญใดๆเลย พลาดจากตำแหน่งประธานรัฐสภา พลาดจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี และกำลังจะพลาดไปเป็นฝ่ายค้านในอีกไม่ช้าและอาจจะพลาดตำแหน่งผู้นำฝ่ายค้านอีกด้วย 

ต้องยอมรับข้อเท็จจริงอย่างหนึ่งว่าสาเหตุที่เกิดขึ้นเพราะทำตัวเองแท้ๆ ตำแหน่งนายกรัฐมนตรีถ้าไม่เสนอคนที่มีมลทินขึ้นมาปัญหาก็น่าจะน้อยกว่านี้ เหมือนเสนอสินค้ามีตำหนิมาให้เลือกใครเขาจะซื้อ การหยุดนิ่งยอมจำนนจึงเท่ากับยอมรับชะตากรรมโดยปริยาย หลังจากนี้พรรคก้าวไกลจะต้องใช้โอกาสในสภาสร้างบทบาทในฐานะ

พรรคอันดับหนึ่งที่ประชาชนเลือกเข้ามาแต่กลับเป็นผู้ถูกย่ำยีจากพรรค การเมืองต่างขั้ว ฟ้องต่อประชาชนในทุกโอกาส การประชุมรัฐสภาที่ผ่านมาพรรคก้าวไกลได้แสดงให้เห็นแล้วว่าจะยังคงวนเวียนอยู่เรื่องเดียวคือการเสนอคุณพิธาเป็นนายกรัฐมนตรี เพื่อย้ำให้เห็นประชาชนเห็นว่าพรรคไม่ได้รับความเป็นธรรม 

หรือมองอีกมุมหนึ่งได้ว่าไม่จำเป็นต้องให้ความสำคัญกับศาลรัฐธรรมนูญ หากเป็นแบบนี้คาดเดาได้เลยว่า การประชุมรัฐสภาครั้งต่อๆไปพรรคก้าวไกลก็จะเสนอญัตติเรื่องเดียว กันนี้อีก ซึ่งก็จะทำให้การประชุมไม่สามารถเดินหน้าไปเรื่องอื่นๆได้ ต้อง ดูว่าอาจารย์วันนอร์ จะทำอย่างไรกับบทบาทของว่าที่พรรคฝ่ายค้านที่เริ่มทำหน้าที่ซ้อมตีรวนการประชุมตั้งแต่วันแรกๆเลยทีเดียว

สำหรับคุณพิธาเมื่อเข้าสภาไม่ได้แล้ว ช่วงนี้คงต้องขยันเดินสายไปโชว์ตัวกระตุ้นอารมณ์แฟนคลับ อาศัยที่กระแสความนิยมยังไม่จาง เหล่าด้อมสงสารเห็นใจถูกมองว่าเป็นคนถูกกระทำ คุณพิธาถือเป็น influencer ทางการเมืองสามารถสร้างยอดติดตามได้ทั้งโลก Online และ On ground ได้อย่างดี ทำควบคู่ไปกับการสร้างประเด็นในสภา 

มองว่าพรรคก้าวไกลเริ่มเตรียมระดมคนสนับสนุนกิจกรรมทางการเมืองแล้วหากในอนาคตอาจถูกข้อกล่าวหาโทษรุนแรงเพิ่มเติม แต่หากต้องตกไปทำหน้าที่ฝ่ายค้านก็คงเป็นการหาเสียงตั้งแต่บัดนี้เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการเลือกตั้งครั้งหน้าแล้วเช่นกัน

พรรคร่วมสายอนุรักษ์อีกฟากหนึ่งกำลังประคองพรรคให้อยู่ในอาการ “นิ่งเสียตำลึงทอง” จับมือกันให้มั่น ไม่แตกแถว ไปไหนไปกัน ยิ่งนานวันตบะยิ่งแก่กล้าจะทำให้อำนาจต่อรองมากขึ้น  เว้นแต่พรรคประชาธิปัตย์ที่ประกาศต่อสาธารณะเสมอว่าเป็นสถาบันการเมือง ยังหาความลงตัวเรื่องหัวหน้าพรรคไม่ได้ อำนาจต่อรองในทางการเมืองเลยไม่เกิด คอการเมืองคงต้องคอยลุ้นว่าระหว่างตำแหน่งหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์กับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีใครจะเกิดก่อนกัน

สรุปปิดท้ายฝ่าย สส.อาทิตย์นี้ เป็นอันว่าประเทศไทยยังไม่ได้นายกรัฐมนตรี สาเหตุด้วยข้อกฎหมายและแกนนำจัดตั้งรัฐบาลเปลี่ยนมือจากพรรคก้าวไกลไปเป็นพรรคเพื่อไทย ดูความเป็นไป ปัจจัยแวดล้อม ท่าทีของแกนนำของพรรคต่างๆ และ สว. 

การจะได้นายกรัฐมนตรีมาจัดตั้งรัฐบาลไม่ใช่เรื่องง่าย พรรคเพื่อไทยมีปัญหาเรื่องตัวบุคคลที่จะมาเป็นนายก และยังมีปัญหาเรื่องหาเสียงสนับสนุนไม่พอทั้งจาก สส. และ สว. เพราะคุณสมบัติส่วนตัวของผู้ที่อยู่ในบัญชีรายชื่อเป็นนายกและนโยบายพรรคที่ไม่อยากร่วมมือกับพรรคของสองลุง รวมถึงถูกตั้งข้อสงสัยเรื่องความสัมพันธ์กับพรรคก้าวไกล 

ส่วนพรรคก้าวไกลถูกฉีก MOU แต่ก็ยังหวังจะมีโอกาสกลับมาจัดตั้งรัฐบาล เพราะพรรคเพื่อไทยอาจไปไม่รอด อาจตัดสินใจกลับมาร่วมมือกับก้าวไกลอีกครั้ง ส่วนพรรคภูมิใจไทย พลังประชารัฐ รวมไทยสร้างชาติ ชาติไทยพัฒนา ยังเป็นพันธมิตรที่ดีต่อกัน รอเวลา รอโอกาส ยิ่งยืดเยื้อยิ่งมีอำนาจต่อรอง ยังหวังที่จะเห็นคุณอนุทินหรือคุณประวิตรเป็นนายก แล้วพรรคประชาธิปัตย์หายไปไหน ไม่อยู่เป็นพันธมิตรด้วยหรือ ประชาธิปัตย์ต้องคิดมากกว่าเพื่อนเพราะเป็นช่วงตกต่ำอย่างที่สุด ทั้งเคยลั่นวาจาไม่ร่วมกับเพื่อไทย การฟื้นฟูพรรคเป็นพันธกิจสำคัญที่สุด จึงอาจเลือกเป็นฝ่ายค้าน ซึ่งจะดีต่อพรรคมากกว่าไปร่วมมือกับเพื่อไทย 

มองไปที่ สว.บ้าง ถ้าประมวลจากท่าทีที่ผ่านมาอาจพูดได้ว่า สว. ไม่รับพรรคก้าวไกลอย่างสิ้นเชิง พอยอมรับพรรคเพื่อไทยได้ แต่ขอพิจารณาตัวบุคคลที่เสนอชื่อมาเหมาะสมหรือไม่ สว. มีท่าทีสนับสนุนภูมิใจไทยและพลังประชารัฐมากกว่า แต่คงไม่ใช่เงื่อนไขที่จะเข้าไปเกี่ยวข้องกับกระบวนการจัดตั้งรัฐบาล ปัจจัยเหล่านี้ทำให้การจัดตั้งรัฐบาลเป็นไปอย่างต้องใช้เวลาและต้องมีการเจรจาต่อรองในหลายเรื่อง

มีเรื่องฝากให้ทุกคนที่เข้ามาอ่าน เชื่อว่าทุกคนห่วงประเทศไทย อยากเห็นความสงบเรียบร้อย ไม่ต้องทะเลาะเบาะแว้งอย่างเอาเป็นเอาตาย ไม่อยากให้เกิดความขัดแย้งแตกแยกจนต้องใช้กำลังแก้ปัญหาต่อกัน จะได้ทำมาหากินได้อย่างปกติ สุขบ้างทุกข์บ้าง ก็ปล่อยให้เป็นไปตามวิถีชีวิตของปุถุชน แต่การเมืองวันนี้เข้ามามีอิทธิพลต่อความเป็นไปของบ้านเมืองอย่างมากมาย 

การเมืองที่มีการแข่งขันกันสูงมากๆ ใช้เครื่องมือทำลายล้างกันแม้ยังไม่ถึงขั้นใช้อาวุธประหัตประหาร แต่เครื่องมืออื่นๆ ที่นำมาใช้กันได้ทำลายความรู้สึกที่ดีต่อกันให้ค่อยๆ จางหายไป คำพูดคำจา คำถากถาง ดูหมิ่นเหยียดหยาม ข่มขู่คุกคาม ถ่ายทอด อบรม สั่งสอนให้ความรู้สึกเกลียดชัง เอาชนะ อยู่เหนือความรักและความปรารถนาดีระหว่างพ่อแม่พี่น้อง พี่ป้าน้าอา 

ความรู้สึกเช่นว่านี้กำลังจางหายไปทีละน้อย ถ้าเราไม่ดึงกลับมา ในไม่ช้าเราอาจได้มีชีวิตอยู่ในท่ามกลางความรู้สึกเกลียดชัง ผู้มีอำนาจคือหัวใจของการสร้างสังคม ประเทศไทยต้องได้ผู้มีอำนาจทางการเมืองที่มีคุณธรรม มีความรักปรารถนาดีต่อทุกฝ่าย ไม่มุ่งแต่สร้างความเกลียดชัง เอาความเกลียด ความโกรธมาเป็นพลังในการปกครองบ้านเมืองหรือแสวงหาอำนาจเพื่อเข้ามาบริหารบ้านเมือง สิ่งใดที่เป็นรากฐานของบ้านเมืองต้องรักษาและทำให้มั่นคงแข็งแรง คนไทยเราถึงจะมีชีวิตอยู่ได้อย่างมีความสุข