Newsกอบศักดิ์ระบุเงินเฟ้อไทยดีขึ้น ชี้แบงค์ชาติสามารถปรับขึ้นดอกเบี้ยได้ แต่ควรทำแบบค่อยเป็นค่อยไปไม่เร่งรีบ

กอบศักดิ์ระบุเงินเฟ้อไทยดีขึ้น ชี้แบงค์ชาติสามารถปรับขึ้นดอกเบี้ยได้ แต่ควรทำแบบค่อยเป็นค่อยไปไม่เร่งรีบ

ดร.กอบศักดิ์ ภูตระกูล ประธานสภาธุรกิจตลาดทุนไทย (FETCO) เปิดเผยผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว วันที่ 8 ส.ค. โดยระบุว่า

จบยุคดอกเบี้ยต่ำของไทย สัปดาห์นี้จะเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของเศรษฐกิจไทย ยุคดอกเบี้ยต่ำเตี้ยติดดินที่เกิดขึ้นมาหลายปีจะจบยุค เป็นจุดเริ่มต้นของการปรับขึ้นดอกเบี้ยกลับไปสู่ปกติ ที่ผู้ฝากเงิน (โดยเฉพาะผู้เกษียณอายุ กินดอก) จะเริ่มยิ้มได้ ส่วนผู้กู้ยืม ต้องเริ่มบริหารต้นทุนด้านการเงิน ต้องระมัดระวังในการสร้างหนี้ เพราะหนทางข้างหน้าจะท้าทายขึ้น ภาระหนี้ของทุกคนจะเริ่มเพิ่มขึ้นทำให้ช่วงสบายๆ ของ CFOs สิ้นสุดลง 

ส่วนดอกเบี้ยไทยจะขึ้นเท่าไร ไปจบลงที่ตรงจุดไหน ในช่วงต่อไปนั้น ก็คงต้องรอคณะกรรมการนโยบายการเงินตัดสินใจ โดยมีปัจจัยหลักที่จะเป็นหัวใจสำคัญในการกำหนดดอกเบี้ยต่อไปคือ “แนวโน้มของเงินเฟ้อ” ที่ธนาคารกลางประเทศต่างๆ ทั่วโลก ต้องแข่งกันปรับขึ้นดอกเบี้ยในช่วง 6 เดือนแรก ก็เพราะเงินเฟ้อ

สำหรับไทยในช่วงต่อไป ก็เช่นกัน ส่วนภาระดอกเบี้ยของทุกคนจะเพิ่มแค่ไหน จะขึ้นกับว่า เงินเฟ้อทำตัวดีแค่ไหน ในประเด็นนี้ ต้องถือว่าเป็น “ข่าวดี” ที่ไทยกำลังจะปรับขึ้นดอกเบี้ย ในช่วงเงินเฟ้อกำลังแผ่วลงบ้าง

เดือนล่าสุด (กรกฏาคม) เป็นครั้งแรกของปี ที่เงินเฟ้อลดลงเมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า จากที่เคยเพิ่มขึ้นต่อเนื่องอย่างน่ากังวลใจจากเดือนก่อนหน้า (MoM) เฉลี่ยเดือนละ +0.9% มาตลอด

เทียบกับปีก่อนหน้า (YoY) เงินเฟ้อไทยเดือนนี้ก็ลดลงเช่นกัน อยู่ที่ +7.61% จาก +7.66% ในเดือนก่อนหน้า

แม้จะลดลงเพียงนิดเดียว แต่ก็ยังน่าดีใจ เพราะภาพจำของทุกคนสำหรับครึ่งแรกของปีคือ เงินเฟ้อพุ่งทะยาน สูงแล้ว สูงอีก ไม่รู้จะไปจบที่ตรงไหน 

แต่เดือนนี้ มีข่าวดีเล็กๆ เรื่องราคาสินค้าต่างๆ พร้อมกันหลายจุด โดยเมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า

เงินเฟ้อทั่วไป -0.16% ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) -1.3% ดัชนีราคาก่อสร้าง -0.7% จะมีก็เพียงเงินเฟ้อพื้นฐานที่ยังบวกเพิ่มอีก +0.5% จากการที่ราคาของสินค้าต่างๆ เริ่มปรับตัวขึ้น จากราคาหมวดพลังงาน และการขนส่ง ที่เพิ่มขึ้นมากในช่วงที่ผ่านมา 

หากเราไปดูรายละเอียดขององค์ประกอบสำคัญของเงินเฟ้อ จะพบว่าที่ดีขึ้นคือ 

หมวดที่ไม่ใช่อาหาร +7.6% ลดลงจาก +8.5% 

– พลังงาน +33.8% ลดลงจาก +40.0%

– พาหนะการขนส่ง +10.2% ลดลงจาก 14.8%

ซึ่งสะท้อนราคาน้ำมันโลกที่ปรับตัวดีขึ้น ในช่วงที่ผ่านมา

ส่วนหมวดที่แย่ลง ก็คือ 

หมวดอาหารและเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ +8.0% เพิ่มขึ้นจาก +6.4% 

– เนื้อสัตว์ เป็นไก่ สัตว์น้ำ +13.7% จาก 13.0%

– ผัก ผลไม้ +5.8% จาก 0.4%

– อาหารบริโภค-ในบ้าน +8.7% จาก +7.3%

– อาหารบริโภค-นอกบ้าน +8.4% จาก 6.5%

ซึ่งสะท้อนถึงภาระต้นทุนที่เพิ่มขึ้นในช่วงที่ผ่านมา ที่กดดันให้ทุกคนต้องปรับเพิ่มราคาสินค้าต่างๆ เพื่อส่งผ่านภาระบางส่วนให้แก่ผู้บริโภค  

อย่างไรก็ตาม การที่จะวิเคราะห์แนวโน้มการขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลาง เราต้องเข้าใจว่า สำหรับธนาคารกลางประเทศต่างๆ แล้ว ที่สำคัญไปยิ่งกว่าเงินเฟ้อเดือนล่าสุด ก็คือ “แนวโน้ม หรือ outlook” ในระยะต่อไป ของเงินเฟ้อ เพราะฝันร้ายที่สุดของธนาคารกลาง ก็คือ เอา “เงินเฟ้อในระยะยาว” ไม่อยู่ 

.

ซึ่งในประเด็นนี้ จะเอาอยู่ หรือเอาไม่อยู่ มีปัจจัยสำคัญประมาณ 4 เรื่อง ที่ต้องจับตามองอย่างใกล้ชิด เพราะปัจจัยเหล่านี้จะกำหนดแนวโน้มของเงินเฟ้อในในช่วงต่อไป ได้แก่

  1. ราคาน้ำมันโลก 
  2. ราคา Commodities โลก โดยเฉพาะหมวดโลหะ อาหาร
  3. ค่าเงิน เพราะเรานำเข้าวัตถุดิบและสินค้า
  4. ราคาค่าจ้าง โดยเฉพาะราคาค่าจ้างขั้นต่ำ และเงินเดือน

สำหรับสี่ปัจจัยหลักนี้ เราเริ่มเห็น ราคาน้ำมันโลก ราคาโลหะโลก ราคาอาหารบางชนิดเริ่มดีขึ้น (จากความกลัว Global Recessions) ทำให้เงินเฟ้อของไทยเริ่มนิ่งขึ้นเช่นกัน 

นอกจากนี้ค่าเงินบาทที่เริ่มปรับตัวดีขึ้นบ้างก็ช่วยเช่นกัน ซึ่งหากราคาน้ำมันและ Commodities โลกอยู่ในระดับนี้ต่อไป เงินเฟ้อไทยก็น่าจะเริ่มลดลงในช่วงปลายปี แล้วจะถูกกระทบอีกครั้ง จากการปรับขึ้นราคาค่าจ้างขั้นต่ำ เพื่อให้ลูกจ้างอยู่ได้ แต่ผลกระทบที่เกิดขึ้น ก็น่าจะบริหารจัดการได้  

ทั้งหมดนี้ การที่เงินเฟ้อทั่วไปของไทยปรับตัวดีขึ้น ไม่พุ่งทะยาน ลดลงเล็กน้อย และมีแนวโน้มลดลงในช่วงต่อไป จะช่วยให้การขึ้นดอกเบี้ยของแบงก์ชาติสามารถทำแบบค่อยเป็นค่อยไปได้ สามารถคอยดูสถานการณ์ ไม่ต้องเร่งร้อน ถูกกดดันเหมือนกับเฟด หรือธนาคารกลางประเทศอื่นๆ 

 

#TheStructureNews

#กอบศักดิ์ภูตระกูล #เงินเฟ้อ #ดอกเบี้ย #ท่องเศรษฐกิจกับดรกอบ

อ้างอิง :

https://www.facebook.com/100057945673869/posts/pfbid022sYjdLEBjrGybunPDtBecEp46UERDCHrR3Q4qT24p6hEZqUPwkdQsobcXRxzeHkPl/

อดีตวิศวกรโครงการ ระดับผู้จัดการ จบปริญญาตรีวิศวกรรมเครื่องกล จาก พระจอมเกล้าธนบุรี และ โท ด้าน Advanced Manufacturing Engineering จาก University of South Australia มีความสนใจในเรื่องประวัติศาสตร์ การเมือง และสวัสดิการสังคม

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    คุกกี้ที่มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้งานเว็บไซต์ได้อย่างเป็นปกติ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณ เพื่อให้เราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมและความสนใจของคุณ

บันทึกการตั้งค่า