ตาลีบัน ผิดสัญญา! สั่งผู้หญิงต้องคลุมบูร์กาห้ามทำงานและห้ามเรียนมัธยม

รัฐบาลตาลีบันของอัฟกานิสถาน ออกคำสั่งให้ผู้หญิงต้องปกปิดใบหน้าให้มิดชิดในที่สาธารณะ และยังแนะนำด้วยว่า ‘หากเป็นไปได้ผู้หญิงไม่ควรออกจากบ้านเลย’ โดยอ้างว่าเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดในการรักษากฎหมายชารีอะห์ในเรื่องการสวมใส่ฮิญาบ

โดยก่อนหน้านี้ รัฐบาลตาลีบันได้ลิดรอนสิทธิผู้หญิงโดยห้ามไม่ให้ผู้หญิงเดินทางระยะไกลคนเดียว, ห้ามไม่ให้ผู้หญิงทำงานในสายงานอื่นนอกจากสายงานด้านสุขภาพและการศึกษา, ห้ามไม่ให้ผู้หญิงเรียนระดับมัธยม และห้ามไม่ให้ผู้หญิงประท้วงอีกด้วย

ซ้ำร้ายไปกว่านั้น ประกาศคำสั่งนี้ยังแต่งตั้งให้ญาติชายของผู้หญิงเป็นผู้บังคับใช้กฎใหม่นี้อีกด้วย โดยหากผู้หญิงมีการเปิดเผยใบหน้าในที่สาธารณะ ญาติชายจะต้องโทษทั้งปรับทั้งจำ หรือหากญาติชายเป็นข้าราชการ จะต้องโดนไล่ออก

เชอร์ มูฮัมหมัด เจ้าหน้าที่กระทรวงศีลธรรมและความชั่วร้าย กล่าวในการประชุมในกรุงคาบูลว่า “เพื่อรักษาเกียรติยศของผู้หญิงชาวอัฟกัน ทุกคนต้องสวมฮิญาบ และฮิญาบที่ดีที่สุดคือ ‘แชโดร์’  ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของประเพณีที่พวกเราเคารพ” และ “สำหรับผู้หญิงที่ไม่ได้แก่หรือเด็กเกินไปจะต้องปิดใบหน้าด้วย ยกเว้นแค่ส่วนตา” เท่านั้น

ด้านชาฮาร์ซาด อัคบาร์ อดีตหัวหน้ากรรมาธิการสิทธิมนุษยชน ซึ่งได้ถูกเนรเทศและปัจจุบันอาศัยอยู่ต่างประเทศ ทวีตถึงประกาศคำสั่งนี้ว่า “คนทั้งโลกเป็นผู้สังเกตการณ์ถึงความเจ็บปวดของเรา ต่อการกดขี่ผู้หญิงของตาลีบัน”

“ผู้หญิงอัฟกานิสถานต้องทนทุกข์ และเจ็บปวดแสนสาหัสเหลือเกิน หัวใจฉันแทบจะระเบิด มีความเกลียดชังและโกรธแค้นอย่างท่วมท้นเหลือเกินต่อตาลีลัน ‘ศัตรูของผู้หญิง’ และศัตรูของอัฟกานิสถานและมนุษยชาติ”

ทั้งนี้ ตาลีบันเคยให้คำมั่นว่าตัวเองได้เปลี่ยนไปแล้วจากช่วง 2 ทศวรรษที่ผ่านมา นับตั้งแต่ที่ตาลีบันได้ยึดครองอัฟกานิสถานในช่วงยุค 90 ตอนปลาย ซึ่งได้กีดกันผู้หญิงจากการทำงานและการศึกษาเกือบทั้งหมด

แต่นับจากที่ตาลีบันก้าวเข้าสู่อำนาจเมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ทางรัฐบาลตาลีบันกลับเพิ่มข้อจำกัดด้านสิทธิสตรีรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ ซึ่งชี้ให้เห็นว่าคำกล่าวอ้างว่าตัวเองได้เปลี่ยนไปแล้วเป็นเพียง ‘ลมปาก’ ที่ออกมา เพื่อหลอกให้สหรัฐฯ ถอนทหารออกจากอัฟกานิสถานเท่านั้นเอง