หนุนแผนการจัดซื้อเครื่องบินรบ ‘วิโรจน์’ ชมแผนจัดซื้อ ทอ. โปร่งใส รอบคอบ ก่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด จ่อแก้กฎหมายหนุนอุตสาหกรรรมป้องกันประเทศ

เมื่อวันที่ 29 ก.พ. 2567 นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ส.ส. แบบบัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการการทหาร สภาผู้แทนราษฎร ได้รับเชิญให้เข้าร่วมบรรยายเรื่อง “บทบาท กมธ.การทหาร กับการพัฒนากองทัพอากาศ” ในงาน RTAF Symposium การสัมมนาเชิงวิชาการ Road Map To Unbeatable Air Force ของกองทัพอากาศ (ทอ.)

นายวิโรจน์กล่าวว่า บทบาทของ กมธ. ทหาร คือการเป็นโซ่ประสานความสัมพันธ์อันดีระหว่างพลเรือนกับกองทัพ ซึ่งที่ผ่านมา เมื่อกองทัพจะจัดซื้อจัดจ้างอะไร ก็จะใช้หลักวิศวกรรมหรือหลักความมั่นคงภายในประเทศในการตัดสินใจ และก็จะได้คำตอบว่ามีความจำเป็นอย่างยิ่ง

เช่นถ้า ทอ. ไม่มีเครื่องบินรบ ไม่มีการลงทุนภาคพื้น หรืออุปกรณ์ส่วนประกอบต่อเนื่องในการปฏิบัติหน้าที่ น่านฟ้าของประชาชนคนไทย ก็จะมีอุปสรรคไปด้วย หรือภารกิจการบรรเทาสาธารณภัย ที่เกิดประโยชน์กับพลเรือนโดยตรง ก็จะมีอุปสรรคไปด้วย

อย่างไรก็ดี เมื่อประชาชนมีความเคลือบแคลงใน กมธ.การทหาร ก็จะมาทำให้คลี่คลาย ให้ทั้งกองทัพและพลเรือนเข้าใจกัน โดยยึดหลักเหตุและผล

นายวิโรจน์กล่าวชื่นชมผู้บัญชาการ ทอ. ที่ให้ความร่วมมือกับ กมธ. ทหารในการชี้แจงตอบข้อสงสัยได้เป็นอย่างดีเลิศ มีความโปร่งใสสูงมาก ทำให้ กมธ. สามารถสื่อสารกับประชาชนได้อย่างตรงไปตรงมา ตามข้อมูลที่กองทัพให้มา ทำให้ความกังวลใจได้รับการคลี่คลายลง

“ผมได้มีโอกาสได้คุยกับนายทหารอากาศหลายท่าน ตั้งแต่ระดับต้นจนถึงระดับสูง ผมเชื่อว่าด้วยบุคลากรที่เรามีอยู่ มีความแข็งแรง แข็งขัน มีทักษะ ความตั้งใจสูงมาก ถ้ามีอุปกรณ์ที่ทันสมัย มีประสิทธิภาพสูงขึ้นท ก็จะทำให้กองทัพอากาศสามารถปฏิบัติหน้าที่เพื่อประชาชนคนไทยได้เต็มที่” นายวิโรจน์ กล่าว

นายวิโรจน์กล่าวว่า ตนเองเห็นด้วยกับ Offset Policy ที่เหมาะสมและเป็นจริง และดีใจที่ได้รับฟังแผนการจัดซื้อเครื่องบินรบที่กำลังวางแผนอย่างรอบคอบ เพื่อให้ประชาชนคนไทยได้ประโยชน์สูงสุด โดยไม่ใช่เพียงแค่การซื้อเครื่องบินผ่านตัวแทน แล้วได้เพียงเครื่องบินกลับมา

แต่จะได้รับการถ่ายทอดเทคโนโลยี มีการต่อรองเพื่อให้ได้สิทธิที่กองทัพอากาศยืนได้ด้วยปีกของตัวเอง เช่น การดัดแปลง การพัฒนาซอฟต์แวร์เพื่อใช้ในการเชื่อมโยงยุทธภัณฑ์และยุทโธปกรณ์ที่เรามีอยู่ ไม่ต้องพึ่งพิงหรือต้องขออนุญาตผ่านกระบวนการที่ไร้ประสิทธิภาพจากประเทศผู้ผลิต และอาจก่อให้เกิดประโยชน์ทางการค้าและการลงทุนได้

นายวิโรจน์กล่าวว่า งานวิจัยของกองทัพเอง ก็เกิดประโยชน์ต่อภาคอุตสาหกรรมอื่นๆ หรือภาคพลเรือนอื่นๆ เช่น เทคโนโลยีอวกาศยาน อีกทั้งยังนำมาใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อประชาชนได้ และเชื่อว่าอาจเกิดมากกว่าและบ่อยกว่า เช่น การบรรเทาสาธารณภัย แก้ปัญหาไฟป่า น้ำท่วม ในการแก้ปัญหาจุดที่สำคัญได้รับผลกระทบสูงสุดก่อน เป็นต้น

อีกทั้งการจัดซื้อจัดจ้างของกระทรวงกลาโหมเอง ควรจะมีการลดอุปสรรคที่เป็นการกีดขวางอุตสาหกรรมภายในประเทศ ซึ่ง กมธ. จะเข้ามาดูในเรื่องทีโออาร์ที่ไม่เป็นธรรม และจะแก้กฎหมายที่เกี่ยวข้อง ในการสร้างสภาพบังคับเพื่อจูงใจการพัฒนาอุตสาหกรรมป้องกันประเทศ 

เช่น พ.ร.บ.ส่งเสริมวิทยาศาสตร์การวิจัยและนวัตกรรม พ.ร.บ.โรงงานผลิตอาวุธของเอกชน พ.ร.บ.ส่งเสริมการใช้ประโยชน์งานวิจัยและนวัตกรรม พ.ร.บ.อาวุธปืน พ.ร.บ.เทคโนโลยีป้องกันประเทศ เพื่อแก้ไขกฎระเบียบที่เป็นการกีดกันการเติบโตและการแข่งขัน รวมทั้งเสริมมาตรการทางภาษีเพื่อส่งเสริมผู้ผลิตภายในประเทศอีกด้วย