หมดยุคแล้วอดีตผู้นำอังกฤษชี้ยุคที่ชาติตะวันตก ครอบงำโลก ‘กำลังจะสิ้นสุดลง’

อดีตนายกรัฐมนตรีอังกฤษ โทนี่ แบลร์ กล่าวในการบรรยายประจำปีที่มูลนิธิ Ditchley เมื่อวันเสาร์ (16 ก.ค.) ที่ผ่านมาว่า สงครามยูเครนแสดงให้เห็นว่า ความมีอิทธิพลเหนือกว่าของชาติตะวันตก ทั้งทางด้านการเมืองและเศรษฐกิจ กำลังจะสิ้นสุดลง

ในขณะที่จีนก้าวขึ้นสู่สถานะมหาอำนาจร่วมกับรัสเซีย ซึ่งถือเป็นจุดเปลี่ยนครั้งสำคัญที่สุดในรอบหลายศตวรรษ เทียบได้กับการสิ้นสุดของสงครามโลกครั้งที่ 2 และการล่มสลายของสหภาพโซเวียต เพียงแต่คราวนี้ชาติตะวันตกไม่ได้ผงาดขึ้นมานำเหมือนกับที่ผ่านมา

“โลกจะแบ่งเป็นอย่างน้อง 2 ขั้ว และมีความเป็นไปได้ที่จะมีหลายขั้ว โดยที่การเปลี่ยนแปลงทางภูมิศาสตร์การเมืองครั้งใหญ่ที่สุดของศตวรรษนี้จะมาจากจีน ไม่ใช่รัสเซีย’ ” แบลร์ กล่าว

แบลร์ อธิบายเพิ่มเติมว่า สงครามรัสเซีย-ยูเครนในครั้งนี้ แสดงให้เห็นแล้วว่า ชาติตะวันตกไม่สามารถคาดหวังให้จีนปฏิบัติไปในทิศทางที่เราเห็นสมควรได้

“การขึ้นมาเป็นมหาอำนาจของจีนนั้น เป็นเรื่องที่เป็นไปตามเหตุและปัจจัยและมีความชอบธรรม ไม่ใช่รัสเซีย” แบลร์กล่าว

อย่างไรก็ตาม แบลร์ เน้นย้ำว่า “ชาติตะวันตกไม่ควรปล่อยให้จีนแซงหน้าทางการทหาร โดยระบุว่า ชาติตะวันตกควรเพิ่มการใช้จ่ายด้านการทหาร เพื่อรักษาสถานะความเหนือกว่าทางการทหาร โดยที่สหรัฐฯ และชาติพันธมิตร ควรจะมีความเหนือกว่าทางด้านการทหารอย่างเพียงพอ เพื่อให้สามารถรับมือกับเหตุการณ์ความขัดแย้งในทุกพื้นที่ ที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต”

ประเทศจีนในปี 1979 มีขนาดเศรษฐกิจที่เล็กกว่าอิตาลี แต่หลังจากเปิดประเทศ และมีการปฏิรูปเศรษฐกิจ จีนได้กลายเป็นเศรษฐกิจที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลก โดยคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจของจีน จะแซงหน้าสหรัฐอเมริกาภายในหนึ่งทศวรรษ

ทั้งนี้ ในปัจจุบัน จีนได้ขึ้นแท่นเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยี เช่น ปัญญาประดิษฐ์ เวชศาสตร์ฟื้นฟู พอลิเมอร์นำไฟฟ้า ฯลฯ แซงหน้าสหรัฐฯ และยุโรป เป็นที่เรียบร้อยแล้ว