ต่างชาติที่มีคู่รักเป็น ‘ปาเลสไตน์’ ต้องรายงานสถานะต่อกองทัพอิสราเอล
รัฐบาลอิสราเอลออกข้อบังคับใหม่ที่จะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 5 ก.ย. โดยระบุให้ชาวต่างชาติที่มีความสัมพันธ์เชิงชู้สาวกับชาวปาเลสไตน์ที่อาศัยอยู่ในเขตเวสต์แบงก์ที่ถูกยึดครอง จะต้องแจ้งกระทรวงกลาโหมอิสราเอล หากความสัมพันธ์ของพวกเขาเริ่มจริงจัง เช่น มีแผนว่าจะ อยู่กินด้วยกัน หมั้นหมายกัน แต่งงานกัน หรือจะขยายระยะเวลาพำนักในอิสราเอล
เอกสารข้อบังคับดังกล่าว ซึ่งมีความยาว 97 หน้า ระบุถึงขั้นตอนการเดินทางเข้ามาและพำนักอยู่ของชาวต่างชาติในดินแดนปาเลสไตน์ที่อิสราเอลควบคุมอยู่ ถูกร่างโดยหน่วยงานของกระทรวงกลาโหมสำหรับกิจการพลเรือนปาเลสไตน์ (COGAT) เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา
แต่การบังคับใช้ข้อบังคับดังกล่าว ต้องเผชิญกับความล่าช้าหลายประการเนื่องจากความท้าทายทางด้านกฎหมาย
หนังสือพิมพ์ไทม์สออฟอิสราเอล รายงานว่า ชาวต่างชาติ รวมถึงลูกหลานชาวปาเลสไตน์ที่อาศัยอยู่ต่างประเทศที่จดทะเบียนสมรสกับผู้มีถิ่นที่อยู่ในเวสต์แบงก์ จะไม่สามารถขอวีซ่าเมื่อเดินทางมาถึงอิสราเอลได้อีกต่อไป
โดยจะต้องยื่นคำขออนุญาตเข้าเมืองล่วงหน้าอย่างน้อย 45 วัน นอกจากนี้ยังมีข้อกำหนดเพิ่มเติมสำหรับคู่รักที่พบรักกันที่อิสราเอล ดังนี้
“ถ้าความสัมพันธ์เริ่มขึ้นหลังจากที่ชาวต่างชาติมาถึงอิสราเอลแล้ว ต้องแจ้งเจ้าหน้าที่ COGAT เป็นลายลักษณ์อักษร ภายใน 30 วัน นับจากวันที่เริ่มต้นความสัมพันธ์” ทั้งนี้ ‘วันที่เริ่มต้นความสัมพันธ์’ หมายถึงวันหมั้น วันแต่งงาน หรือวันที่เริ่มอยู่กินด้วยกัน
นอกจากนี้ คู่รักจะต้อง แจ้งสถานะการเป็นคู่รักกับทางการปาเลสไตน์ภายในระยะเวลา 90 วัน ซึ่งหากไม่มีการดำเนินการแจ้งภายในระยะเวลาที่กำหนดจะถูกเนรเทศทันที ทั้งนี้ ชาวต่างชาติจะต้องเดินทางออกจากอิสราเอลหลังจากอยู่อาศัย 27 เดือน และห้ามเดินทางกลับเข้ามาอย่างน้อย 6 เดือน
เจ้าหน้าที่ของ COGAT กล่าวว่า โครงการ ‘นำร่องสองปี’ มีวัตถุประสงค์เพื่อทำให้ขั้นตอนการเดินทางเข้าเขตเวสต์แบงก์ “มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น และเหมาะสมกับสภาพที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา”
สายลับจีนใน Twitter FBI แจ้งเตือนอดีตไปยังบริษัททวิตเตอร์ ด้านวุฒิสภาเตรียมออกกฎหมายควบคุม
ศิราวุธ ภุมมะกสิกร
อดีตวิศวกรโครงการ ระดับผู้จัดการ จบปริญญาตรีวิศวกรรมเครื่องกล จาก พระจอมเกล้าธนบุรี และ โท ด้าน Advanced Manufacturing Engineering จาก University of South Australia มีความสนใจในเรื่องประวัติศาสตร์ การเมือง และสวัสดิการสังคม