
เร่งขยายศักยภาพท่าอากาศยานหลัก สุวรรณภูมิ ดอนเมือง อู่ตะเภา ภูเก็ต เตรียมรับนักท่องเที่ยว 200 ล้านคน
เร่งขยายศักยภาพโครงข่ายขนส่งทางอากาศในท่าอากาศยานหลักสุวรรณภูมิ ดอนเมือง อู่ตะเภา ภูเก็ต รองรับนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก
น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ขณะนี้รัฐบาลได้เร่งขับเคลื่อนการลงทุนในโครงการขยายศักยภาพของท่าอากาศยานระหว่างประเทศ (International Airport) หลักๆ ที่มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้า-ออกจำนวนมาก เช่น ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ดอนเมือง ภูเก็ต และอู่ตะเภา ตามแผนงานที่วางไว้
โดยช่วงก่อนมีโควิด 19 ท่าอากาศยานแต่ละแห่งรองรับผู้โดยสารเกินศักยภาพอยู่มากทั้งสุวรรณภูมิ ดอนเมืองและภูเก็ต และตามคาดการณ์ของ กพท.ในปีหน้าจำนวนนักท่องเที่ยวก็จะกลับไปเท่ากับช่วงก่อนมีโควิด19 รัฐบาลโดยกระทรวงคมนาคมจึงให้ความสำคัญกับการเร่งรัดการขยายศักยภาพท่าอากาศยานระหว่างประเทศต่อเนื่อง และมีเป้าหมายระยะยาวในการพัฒนาโครงข่ายคมนาคมทางอากาศให้สามารถรองรับผู้เดินทางตามประมาณการของสมาคมการขนส่งทางอากาศระหว่างประเทศ (IATA) ที่คาดว่าจะมีผู้เดินทางเข้าประเทศไทยแตะ 200 ล้านคนต่อปีในปี 2574
โครงการขยายศักยภาพท่าอากาศยานระหว่างประเทศของรัฐบาล มีดังนี้
โครงการพัฒนาท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ระยะที่ 2 ประกอบไปด้วยการก่อสร้างอาคารเทียบเครื่องบินรองหลังที่ 1 (SAT-1) ซึ่งขณะนี้ก่อสร้างเสร็จเรียบร้อยแล้ว กระทรวงคมนาคมมีกำหนดจะเปิดให้บริการในปี 2566 นี้ ซึ่งอาคาร SAT-1 จะทำให้ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิรองรับผู้โดยสารได้ถึง 60 ล้านคนต่อปีจากปัจจุบัน 45 ล้านคนต่อปี การพัฒนาทางวิ่งเส้นที่3 ขณะนี้อยู่ระหว่างการก่อสร้างมีกำหนดแล้วเสร็จปี 2567 จะทำให้ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิมีศักยภาพรองรับเที่ยวบินเป็น 94 เที่ยวบินต่อชั่วโมง จากปัจจุบัน 2 ทางวิ่งรองรับได้อยู่ 68 เที่ยวบิน/ชั่วโมง
โครงการพัฒนาท่าอากาศยานดอนเมือง ระยะที่ 3 ได้รับอนุมัติจาก ครม. ไปเมื่อวันที่ 29 พ.ย.2565 ดำเนินการก่อสร้างระหว่างปี 2566-72 ประกอบด้วยการก่อสร้างหลายส่วน อาทิ อาคารผู้โดยสารหลังที่3 อาคารเทียบเครื่อง ทางขับ หลุมจอด คลังสินค้า ตลอดจนโครงสร้างพื้นฐานด้านงานสนับสนุน เช่น อาคารจอดรถ อาคารสำนักงาน ถนนภายในท่าอากาศยาน อาคารบำรุงรักษาและพื้นที่พักขยะ ระบบระบายน้ำ อาคารดับเพลิงและกู้ภัย เป็นต้น โดยโครงการนี้จะเพิ่มขีดความสามารถรองรับผู้โดยสารเป็น 40 ล้านคน จากปัจจุบันรองรับได้ 30 ล้านคน
นอกจากนี้ยังมีโครงการพัฒนาท่าอากาศยานอู่ตะเภา เพื่อรองรับกิจกรรมทางเศรษฐกิจในพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) มีแผนการพัฒนารวม 4 ระยะ โดยจะสิ้นสุดระยะที่ 4 ที่รองรับผู้โดยสารได้ 60 ล้านคนต่อปี ในปี 2598 สำหรับระยะที่ 1 ที่มีกำหนดการก่อสร้างแล้วเสร็จในปี 2567 จะรองรับผู้โดยสารได้ปีละ 15.9 ล้านคน และโครงการพัฒนาท่าอากาศยานภูเก็ต ระยะที่ 2 เพื่อขยายขีดความสามารถให้รองรับผู้โดยสารจากเดิม 12.5 ล้านคนต่อปี เป็น 18 ล้านคนต่อปี ประกอบไปด้วยการขยายอาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศ ขยายหลุมจอดอากาศยาน ลานจอด รวมถึงขีดความสามารถของระบบสาธารณูปโภค ขณะนี้บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด(มหาชน) อยู่ระหว่างเตรียมจ้างที่ปรึกษาเพื่อออกแบบรายละเอียดโครงการ
อีกทั้ง รัฐบาลยังได้จัดทำนโยบายด้านการบินพลเรือนของประเทศ พ.ศ. 2565-2580 เพื่อวางกรอบในการจัดทำแผนด้านการบินพลเรือนของประเทศที่มีประสิทธิภาพ เกิดการบูรณาการการทำงานของหน่วยงาน นำไปสู่การเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันด้านการบินของประเทศ โดยร่างนโยบายได้ผ่านการอนุมัติจาก ครม. แล้ว เมื่อวันที่ 7 ก.พ. 2566 ประกอบด้วยนโยบาย 3 ด้าน ได้แก่ ด้านเศรษฐกิจการบิน ด้านโครงสร้างพื้นฐาน และด้านมาตรฐานการบิน
#TheStructureNews
#โครงการขยายศักยภาพท่าอากาศยานระหว่างประเทศ #สมาคมการขนส่งทางอากาศระหว่างประเทศ
ซาอุฯ มีความต้องการ อาหารและยาจากไทยมาก ‘นลินี’ เผย ‘อย. ซาอุฯ’ ลดค่าธรรมเนียมให้สินค้าไทย พร้อมลดเวลาขอขึ้นทะเบียนให้เร็วขึ้น
ไทยแลนด์ ฮาลาลวัลเลย์ ‘เศรษฐา’ เคาะแผนพัฒนาอุตสาหกรรมฮาลาลไทย 1,230 ล้านบาท ตั้งเป้าสร้าง GDP 5.5 หมื่นล้าน จ้างงานแสนตำแหน่งต่อปี
“ชะลอม” โลโก้ APEC 2022 ฝีมือนิสิตสถาปัตย์ จุฬาฯ สะท้อนความเป็นไทยเข้ากับอัตลักษณ์ของเอเปคได้อย่างกลมกลืน
ศิราวุธ ภุมมะกสิกร
อดีตวิศวกรโครงการ ระดับผู้จัดการ จบปริญญาตรีวิศวกรรมเครื่องกล จาก พระจอมเกล้าธนบุรี และ โท ด้าน Advanced Manufacturing Engineering จาก University of South Australia มีความสนใจในเรื่องประวัติศาสตร์ การเมือง และสวัสดิการสังคม