
ใครจะรับผิดชอบ? ‘TDRI’ กังวลรัฐบาลเก็บภาษีเพิ่ม 5.36 แสนล้าน อุดหนี้เงินกู้เงินดิจิทัลไม่ได้
15 พ.ย. 66 ดร.สมชัย จิตสุชน ผู้อำนวยการวิจัยด้านการพัฒนาอย่างทั่วถึง สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (TDRI) โพสต์เฟสบุ๊ควิจารณ์นโยบายแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาทของรัฐบาล โดยคำนวณว่ารัฐบาลจำต้องเก็บเงินภาษีเพิ่มให้ได้ถึง 5.36 ล้าน เพื่อชดเชยดอกเบี้ยเงินกู้ไม่ได้ โดยมีข้อความว่า
สิ่งหนึ่งที่รัฐบาล ‘พร่ำ‘ บอกอย่างเชื่อมั่นมาตลอดจนกล้าตัดสินใจกู้เงินจำนวนมหาศาลนี้ คือการแจกเงินดิจิทัลเป็นการแก้ปัญหาการขยายตัวทางเศรษฐกิจที่ต่ำกว่าศักยภาพอย่างเบ็ดเสร็จ และระบุตัวเลขว่าเงินที่แจกจะทำให้เศรษฐกิจไทยโต 5% หรือมากกว่าต่อเนื่องกันหลายปี (ซึ่งสูงกว่าการประมาณการทั่วไปกรณีไม่มีโครงการนี้ประมาณ 1.5-2%)
ผลสืบเนื่องคือวินัยการคลังไม่สูญเสีย เพราะรัฐบาลจะมีรายได้ภาษีเพิ่มขึ้นมากจากเศรษฐกิจที่ขยายตัวสูงและต่อเนื่อง และรายได้ที่เพิ่มนี้เพียงพอสำหรับการใช้หนี้สาธารณะที่เพิ่มขึ้น 5 แสนล้านได้ภายในอายุรัฐบาลด้วย ไม่ทิ้งให้เป็นภาระของประชาชนและของรัฐบาลชุดต่อไป
ผมลองทำตัวเลขและพบว่าจริงอย่างที่ตัวแทนรัฐบาลพูด คือรัฐบาลจะชำระหนี้ได้ภายใน 4 ปีจริง ดังตารางที่ใส่ตัวเลขคร่าว ๆ ข้างล่าง ว่ารายได้ภาษีในระยะ 3-4 ปีที่รัฐบาลนี้จะบริหารเพิ่มขึ้นถึง 5.36 แสนล้าน พอจ่ายหนี้ก้อนนี้พร้อมดอกเบี้ย (ที่รัฐบาลประมาณไว้ 3.8 หมื่นล้านบาท) หากนับถึงรายได้ภาษีที่อาจเพิ่มขึ้นกว่านี้อีกถ้าโครงการนี้ทำให้เงินเฟ้อสูงกว่าที่ผมสมมติไว้ในตารางเพียงเล็กน้อย
ผมคิดว่า เพื่อแสดงความรับผิดชอบต่อ ‘ความเชื่อ‘ ตัวเอง และที่สำคัญความรับผิดชอบต่อการเอาเงินของประชาชนมาใช้ ผมอยากเสนอว่า (credit ความคิด อ. สมเกียรติ Somkiat Tangkitvanich)
- รัฐบาลกู้ตามที่ตั้งใจ และพรรคร่วมรัฐบาลยกมือผ่าน พรบ. กู้เงินนี้ (เพราะนโยบายตัวเองไม่ถูกกระทบเนื่องจากงบประมาณไม่ถูกตัดรอนมาใช้คืนเงินกู้นี้)
- รัฐบาลทำบัญชีเงินกู้ก้อนนี้แยกต่างหากจากหนี้สาธารณะทั้งหมดที่มีก่อนหน้า
- รัฐบาลจัดสรรงบประมาณมาชำระหนี้ก้อนนี้ทั้งต้นและดอก โดยยังคงต้องชำระหนี้ก้อนเดิมไม่ต่างไปจากเดิม (ห้ามลด) ซึ่งทำได้สบาย ๆ เพราะรัฐบาลจะมีรายได้ภาษีเพิ่มขึ้นเพียงพอตามที่คำนวณไว้นี้
อาจมีคำถามว่าหากรายได้ภาษีส่วนเพิ่มไม่มากเท่าที่รัฐบาลพยายามชวนเชื่อ ใครจะรับผิดชอบ ผมคิดเราคงไม่สามารถเรียกร้องให้ผู้บริหารพรรคเอาเงินตัวเองมาชำระส่วนที่ขาดได้ แต่ขอให้เป็นความรับผิดชอบทางการเมืองของพรรคแกนนำ และเป็นบทเรียนให้ประชาชนผู้เลือกตั้งต่อไป
(แต่ด่านแรกคงต้องทำให้พรรคร่วมเชื่อตัวเลขนี้ก่อน จะได้สบายใจว่าโครงการของตัวเองไม่ถูกตัดทอน)
ที่มา: เฟสบุ๊ค Somchai Jitsuchon