ครั้งแรกในอีสาน คณะแพทย์ มข. รักษาโรคหนังแข็ง ซึ่งเคยเป็นโรคที่ต่อให้มีเงินก็รักษาไม่ได้ ด้วยการปลูกถ่ายโลหิตของผู้ป่วยเองจนหายดีเป็นปกติ

เมื่อวันที่ 22 ก.พ. 2567 โรงพยาบาลศรีนครินทร์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น แถลงข่าวความสำเร็จในการรักษาโรคหนังแข็ง ด้วยวิธีปลูกถ่ายเซลล์ต้นกำเนิดเม็ดเลือด รายแรกของภาคอีสาน 

โดย รศ.นพ.อภิชาติ จิระวุฒิพงศ์ คณบดีคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น กล่าวว่าในอดีตที่ผ่านมานั้น การรักษาโรคหนังแข็งนั้น ต่อให้มีเงินก็รักษาไม่ได้ แต่ในปัจจุบันคณะแพทยศาสตร์ ได้นำเอาเทคโนโลยีทางการแพทย์มาประยุกต์ใช้และพัฒนา และการปลูกถ่ายเซลล์ต้นกำเนิดเม็ดเลือด นับเป็นวิธีรักษาที่มีประสิทธิภาพสูง ทั้งในปัจจุบันและในอนาคต

ศ.พญ.ชิงชิง ฟูเจริญ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคข้อและรูมาติสซั่ม แพทย์เจ้าของไข้ กล่าวว่า โรคหนังแข็ง (Scleroderma ) เป็นโรคที่เกิดจากระบบภูมิคุ้มกันทำงานผิดปกติ กระตุ้นให้เซลล์ร่างกายผลิตเส้นใย คอลลาเจนออกมาอย่างต่อเนื่องและกระตุ้นการสร้างพังผืด 

ส่งผลให้พังผืดไปเกาะตามอวัยวะส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย เกิดผิวหนังตึงแข็ง บริเวณใบหน้า นิ้วมือ นิ้วเท้า แขนขา หน้าอก หน้าท้อง และลามไปถึงอวัยวะภายในได้ มีอันตรายถึงขั้นพิการหรือเสียชีวิต

สำหรับนางสาวธนวรรณ โตภูเขียว ซึ่งเป็นผู้ที่ได้รับการรักษาในครั้งนี้นั้น มีอาการป่วยมาตั้งแต่อายุ 14 ปี และในขณะที่มีอายุ 18 ปี ในเดือน ม.ค. 2565 มีภาวะพังผืดลามไปที่ปอด ผิวหนังแข็งตึง จึงเริ่มทำการรักษา ด้วยการการปลูกถ่ายเซลล์ต้นกำเนิดเม็ดเลือดของตนเอง

หลังรับการรักษา 14 วัน ผู้ป่วยมีผิวนุ่มขึ้น และในเดือนที่ 3 ข้อต่อดีขึ้นจนสามารถเหยียดนิ้วมือ ข้อศอก และแขน ได้สะดวก และสีผิวกลับเป็นปกติอย่างเห็นได้ชัด การทำงานของอวัยวะภายในคงที่ อาการของผู้ป่วยดีขึ้นตามลำดับ สามารถช่วยเหลือตนเองได้และกลับมาใช้ชีวิตประจำวันได้เป็นปกติ

ถือได้ว่าเป็นรายแรกของภาคอีสาน และเป็นผู้ป่วยที่มีอายุน้อยที่สุดด้วย และจะยังมีการติดตามอาการผู้ป่วยอย่างต่อเนื่อง และคาดว่าจะสามารถหายขาดจากโรคหนังแข็งได้ภายในระยะเวลาประมาณ 2 ปี

ด้าน น.ส. ธนวรรณ ผู้เข้ารับการรักษากล่าวว่า ที่ผ่านมาต้องขาดเรียนหลายครั้งเนื่องด้วยอาการป่วย แต่หลังเข้ารับการรักษามีอาการดีขึ้นตามลำดับ สามารถใช้ชีวิตได้เกือบปกติ ทำกิจกรรมกับเพื่อนได้มากขึ้น

“อยากขอบคุณโรงพยาบาลและทีมแพทย์ที่มอบชีวิตใหม่ให้หนู และขอเป็นกำลังใจให้ทุกคนที่ป่วยเป็นโรคหนังแข็งนี้ ให้สู้ต่อไป อย่ายอมแพ้ เพราะยังมีทีมแพทย์ที่จะช่วยรักษาให้ผู้ป่วยมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น สู้ ๆ อย่าท้อนะคะ” น.ส. ธนวรรณกล่าว