
ประท้วงใหญ่สุดในประวัติศาสตร์ ชาวอิสราเอลกว่า 5 แสนคนร่วมประท้วงใหญ่ ค้านรัฐบาลออกกฎหมายให้ฝ่ายการเมือง มีอำนาจแต่งตั้งผู้พิพากษาในชั้นศาล
ชาวอิสราเอลประท้วงต่อเนื่องเป็นสัปดาห์ที่ 10 เพื่อต่อต้านแผนปฏิรูประบบตุลาการของรัฐบาลที่ให้อำนาจฝ่ายการเมืองแต่งตั้งศาลได้ ซึ่งเสี่ยงพาประเทศเข้าสู่ระบอบเผด็จการอย่างเต็มรูปแบบ
เมื่อวันที่ 11 มี.ค 2566 ชาวอิสราเอลกว่า 500,000 คน รวมตัวกันประท้วงครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์อิสราเอล เพื่อต่อต้านแผนปฏิรูประบบตุลาการของรัฐบาลฝ่ายขวาจัดของนายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ที่มีเป้าหมายเพื่อให้รัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งมีอำนาจชี้ขาดต่อการเลือกผู้พิพากษา และจำกัดความสามารถของศาลฎีกาในการวินิจฉัยชี้ขาดผู้บริหารหรือล้มกฎหมาย
โดยกลุ่มผู้ประท้วงมองว่าแผนปฏิรูปดังกล่าวจะเป็นการบ่อนทำลายระบบการตรวจสอบและถ่วงดุลของประเทศ และจะทำให้อิสราเอลเข้าสู่ระบอบเผด็จการอย่างเต็มรูปแบบ ขณะที่ผู้ประท้วงบางคนมองว่าจะช่วยให้นายกฯ หลุดรอดจากคดีคอร์รัปชันได้
ทั้งนี้ เนทันยาฮู ได้ออกมาปฏิเสธว่าแผนปฏิรูประบบตุลาการในครั้งนี้ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการพิจารณาคดีคอร์รัปชันของตนแต่อย่างใด
ขณะที่ประธานาธิบดีอิสแซก เฮอร์ซอก ของอิสราเอล ซึ่งมีบทบาทส่วนใหญ่ในด้านพิธีการ ได้เรียกร้องให้รัฐบาลยุติการออกกฎหมาย เมื่อวันที่ 6 มี.ค. ที่ผ่านมา โดยให้เหตุผลว่าเป็น “ภัยคุกคามต่อรากฐานของระบอบประชาธิปไตย”