News‘พิธา’ ตอบโต้ ‘เมียนมา’ ด้วยภาษาเมียนมา ยืนกรานติดตามสถานการณ์ในเมียนมา แจงความชอบธรรมในการจัดงานเสวนา

‘พิธา’ ตอบโต้ ‘เมียนมา’ ด้วยภาษาเมียนมา ยืนกรานติดตามสถานการณ์ในเมียนมา แจงความชอบธรรมในการจัดงานเสวนา

สืบเนื่องจากกรณีที่กระทรวงการต่างประเทศเมียนมา ออกจดหมายแสดงความไม่พอใจต่อการจัดงานเสวนาของคณะกรรมาธิการความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศ ที่มีนายรังสิมันต์ โรม เป็นประธาน ซึ่งมีเนื้อหาที่เป็นการสนับสนุนกลุ่มต่อต้านรัฐบาลเมียนมา

 

เมื่อวันที่ 5 มี.ค. 2567 นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส. แบบบัญชีรายชื่อ และอดีตหัวหน้าพรรคก้าวไกล ได้โพสต์ข้อความเป็นภาษาเมียนมา ซึ่งระบุดังนี้

 

“เราให้คำมั่นต่อไปว่าเราจะติดตามสถานการณ์ในเมียนมาร์อย่างใกล้ชิดต่อไปภายใต้อำนาจที่ได้รับจากรัฐสภเพื่อช่วยลดความเดือดร้อนของชาวพม่า ไทย และประเทศสมาชิกอาเซียน มีพรมแดนติดกับประเทศเพื่อนบ้าน เรายังหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะได้ร่วมงานกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียอื่นๆ

 

เมียนมาร์ที่สงบสุขและเป็นประชาธิปไตยสอดคล้องกับผลประโยชน์ของชาติไทย ดังนั้น เราจะควบคุมและสนับสนุนนโยบายของไทยที่เกี่ยวข้องกับเมียนมาร์ผ่านอำนาจนิติบัญญัติที่เรามี”

 

ทั้งนี้เมื่อวันที่ 4 มี.ค. 2567 นายพิธาได้โพสต์สื่อโซเชียลมีเดีย โดยมีเนื้อความที่กล่าวถึงกรณีนี้ว่า

 

ผมมองว่าสภาผู้แทนราษฎรไทยนั้นมีความชอบธรรมในการจัดงาน  เพราะเป็นตัวแทนฝ่ายนิติบัญญัติของประชาชนชาวไทย สภาฯเป็นพื้นที่ ที่สามารถเป็นสะพานเชื่อมสำหรับการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นที่หลากหลาย มีความครอบคลุม โปร่งใส  และปลอดภัย สำหรับผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย (stakeholders) ต่าง ๆ

 

ผลกระทบจากสถานการณ์ในเมียนมา ล้วนส่งผลกระทบทั้งทางตรง และทางอ้อมมายังประเทศไทย เรามีชายแดนติดประเทศเมียนมากว่า 2,400 กิโลเมตร ครอบคลุม 7 จังหวัด เราจึงเป็นผู้มีส่วนได้ส่วนเสียที่สำคัญที่สุด และมีปัญหาต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับสถานการณ์ในเมียนมา ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง แก๊งคอลเซ็นเตอร์ ปัญหาฝุ่น PM 2.5 ที่มาจากไฟป่าและการเผาในพื้นที่เกษตรกรรมในเมียนมา 

 

ปัญหาการขาดแคลนแรงงานที่ผู้ประกอบการไทยยังต้องการ ปัญหาผู้อพยพจากสงครามการสู้รบบริเวณชายแดน ปัญหาด้านสาธารณสุข ฯลฯ ดังนั้น การที่รัฐสภาไทย สามารถเปิดพื้นที่เสวนาที่ปลอดภัย เพื่อช่วยกันแลกเปลี่ยนถึงแนวทางแก้ไขปัญหาสถานการณ์ในเมียนมาได้นั้น จึงเป็นความชอบธรรมที่เป็นผลประโยชน์โดยตรงต่อราชอาณาจักรไทย และประชาชนชาวไทย 

 

รัฐสภาไทยเองก็มีหน้าที่เป็นตัวแทนของภาคประชาชน และพูดคุยแทนประชาชน และเราในฐานะฝ่ายค้านก็มีทำหน้าที่ตรวจสอบและเสนอแนะการทำงานของรัฐบาล

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    คุกกี้ที่มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้งานเว็บไซต์ได้อย่างเป็นปกติ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณ เพื่อให้เราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมและความสนใจของคุณ

บันทึกการตั้งค่า