ยื่นหนังสือถึงนายกฯ สอบ “ปลัด มท.” หลังสั่ง “ภูเก็ต” ถอนตัวเสนอเป็นเจ้าภาพ Specialised Expo 2028 ส่อกระทำการเกินอำนาจหน้าที่และฝ่ามติคณะรัฐมนตรี
“ปลัดเชียงใหม่” ยื่นหนังสือถึงนายกรัฐมนตรี จี้ตรวจสอบข้าราชการระดับสูงกระทรวงมหาดไทยส่อกระทำการเกินอำนาจหน้าที่และฝ่ามติคณะรัฐมนตรี กรณีสั่งการในที่ประชุมผู้บริหารให้จังหวัดภูเก็ตถอนตัวจากการเสนอตัวเป็นเจ้าภาพจัดงาน Specialised Expo 2028 ทั้งที่ ครม.อนุมัติงบประมาณ 4,180 ล้านบาท ให้ดำเนินการ
นายบุญญฤทธิ์ นิปวณิชย์ ปลัดอำเภอสันทราย จังหวัดเชียงใหม่ ในฐานะประธานสหพันธ์ปลัดอำเภอแห่งประเทศไทย (ส.ปอ.ท.) ยื่นหนังสือถึง พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี โดยจัดส่งผ่านทางไปรษณีย์ เพื่อเสนอแนะและขอให้ตรวจสอบการปฏิบัติหน้าที่ของข้าราชการระดับสูงของกระทรวงมหาดไทยว่าเป็นการกระทำเกินขอบเขตอำนาจหน้าที่ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบหรือไม่อย่างไร กรณีสั่งการในการประชุมผู้บริหารกระทรวงมหาดไทยให้จังหวัดภูเก็ตถอนตัวจากการเสนอตัวเป็นเจ้าภาพจัดงาน Specialised Expo 2028 ซึ่งคณะรัฐมนตรีได้มีมติให้ความเห็นชอบหลักการให้ประเทศไทยเสนอตัวเป็นเจ้าภาพจัดงานดังกล่าวตั้งแต่เมื่อปลายปี 2564 16 พ.ย. 64 และอนุมัติกรอบวงเงินงบประมาณให้ 4,180 ล้านบาท ซึ่งเลขาธิการคณะรัฐมนตรีได้แจ้งมติคณะรัฐมนตรีให้สำนักงบประมาณทราบแล้ว
ทั้งนี้ การขอร้องให้จังหวัดภูเก็ตถอนตัวออกจากการเสนอตัวเป็นเจ้าภาพงาน Specialised Expo 2028 ของประเทศไทย อาจส่งให้เกิดความเสียหายต่อการเสนอตัวของประเทศไทยเพื่อขอเป็นเจ้าภาพการจัดงานดังกล่าว เนื่องจากการเสนอตัวเป็นเจ้าภาพเป็นไปตามมติคณะรัฐมนตรี พร้อมอนุมัติกรอบวงเงินประมาณให้ 4,180 ล้านบาทแล้ว
นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรีได้เน้นย้ำความพร้อมในการเสนอตัวเป็นเจ้าภาพในทุกมิติ โดยเฉพาะการสร้างความเชื่อมั่นในนามรัฐบาลไทยต่อประเทศสมาชิก 170 ประเทศ รวมถึงรัฐบาลยังได้เชิญชวนให้ประชาชนชาวภูเก็ตและคนไทยทั่วประเทศร่วมกันสนับสนุนให้จังหวัดภูเก็ตให้เป็นเจ้าภาพการจัดงานดังกล่าว
ทั้งนี้ หากจังหวัดภูเก็ตได้ขอถอนตัวตามที่ได้แจ้งในการประชุม จะก่อให้เกิดผลความเสียหายต่อภาพลักษณ์ของประเทศ ความเชื่อมั่นของรัฐบาล คณะรัฐมนตรี ต่อนานาชาติจำนวน 170 ประเทศ รวมถึงความเสียหาย ด้านเศรษฐกิจ และการจ้างงาน ซึ่งโฆษกรัฐบาลได้เคยแจ้งประโยชน์ที่ประเทศไทยจะได้รับจากการเป็นเจ้าภาพจัดงานว่า คาดว่าจะเกิดเงินสะพัดเกือบ 50,000 ล้านบาท สร้างงานกว่า 100,000 อัตรา ตลอดจนทำให้สูญเสียงบประมาณของประเทศที่ได้ใช้ไปแล้วเกี่ยวกับการเสนอตัวเป็นเจ้าภาพ
สำหรับการยื่นหนังสือในครั้งนี้นั้น นายบุญญฤทธิ์ระบุว่า เพื่อขอให้นายกรัฐมนตรีพิจารณาตรวจสอบถึงการปฏิบัติหน้าที่ราชการดังกล่าว ว่าจะถือเป็นการกระทำนอกขอบเขตแห่งอำนาจหรือโดยปราศจากอำนาจหรือไม่ หรือจะเป็นการปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ที่เป็นการฝ่าฝืนต่อวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง (มติคณะรัฐมนตรี) หรือไม่ อันเป็นการปฏิบัติหน้าที่หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบทำให้เกิดความเสียหายต่อผู้หนึ่งผู้ใดหรือไม่ และหากประเทศไทยต้องยกเลิกการเสนอตัวการเป็นเจ้าภาพการจัดงาน Specialised Expo 2028 ความเสียหายจากกรณีดังกล่าวต้องมีผู้ใดรับผิดชอบบ้าง จึงอยากขอให้นายกรัฐมนตรีได้สั่งการแก้ไขยับยั้งความเสียหายดังกล่าวซึ่งอาจเกิดขึ้นจากกรณีดังกล่าวต่อไป
นอกจากนี้ ประธานสหพันธ์ปลัดอำเภอแห่งประเทศไทยยังแสดงความเห็นกรณีปลัดกระทรวงมหาดไทยพูดจาเชิงดูถูกเหยียดหยามผู้ใต้บังคับบัญชาและสถาบันการศึกษา ด้วยถ้อยคำหยาบคายในการประชุมผู้บริหารส่วนราชการกระทรวงมหาดไทยว่า เป็นการกระทำที่ฝ่าฝืนรัฐธรรมนูญและพระราชบัญญัติข้าราชการพลเรือน ซึ่งโดยหลักแล้วข้าราชการพลเรือนต้องปฏิบัติตัวให้สุภาพ และเท่าที่ทราบเบื้องต้นทางผู้ที่เกี่ยวข้องได้รับความเสียหายโดยตรงได้มีการร้องเรียนให้ตรวจสอบแล้ว
ทั้งนี้ ทาง ส.ปอ.ท.จะได้มีการติดตามตรวจสอบต่อไปว่าการลงโทษใดๆ หรือไม่อย่างไร เพราะข้าราชการระดับสูงควรจะต้องเป็นแบบอย่างที่ดีให้แก่ข้าราชการทั่วไปและประชาชน โดยเฉพาะอย่างยิ่งกระทรวงมหาดไทยที่ได้เคยมีการสั่งการไปยังทุกอำเภอ และตำบลให้เป็นแบบอย่างที่ดี ซึ่งเห็นว่านายกรัฐมนตรีควรจะต้องมีการพิจารณาตรวจสอบและดำเนินการต่อไปด้วย เพราะการพูดดังกล่าวเป็นการพูดในการประชุมส่วนราชการจึงเป็นเหมือนการสั่งการที่ถือได้ว่าเป็นการปฏิบัติหน้าที่ราชการไปแล้ว แม้ว่าจะมีการขอโทษแล้วแต่ก็เป็นคนละส่วนกัน
นอกจากการกล่าวดูถูกเหยียดหยามข้าราชการแล้ว ก่อนหน้านี้ ได้มีการเผยแพร่คลิปวิดีโอ ซึ่งนายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวในที่ประชุมทางวิดีโอคอนเฟอร์เรนซ์ ตำหนิจังหวัดภูเก็ตถึงการวางแผนการบริหารจัดการขยะของจังหวัดภูเก็ต และฝากไปบอกผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ตว่าปลัดกระทรวงมหาดไทย ชื่อสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ขอร้องให้ถอนตัวออกจากการเสนอตัวเป็นเจ้าภาพจัดงาน Specialised Expo 2028 ของจังหวัดภูเก็ต ในปี 2571 โดยจะทำหนังสือแจ้งนานาชาติให้ ว่าภูเก็ตไม่ควรเป็นเจ้าภาพ เพราะไม่ได้ดูแลสิ่งแวดล้อม และยังไม่ได้บริหารจัดการให้คนในจังหวัดได้ตื่นตระหนกตกใจกับภาวะโลกร้อน และมีวัฒนธรรมของการเป็นคนที่จะช่วย Change for Good เกิดขึ้น
เถกิงชี้จับตา “รวมไทยสร้างชาติ” เจาะ ปชป.หวังตั้งขุมกำลังในภาคใต้ แนะเขี่ยพวกคิดแต่เพื่อตัวเองออกให้ห่างพรรค
ชวนไข แย่ง ‘ประธานสภา’ เหตุเพราะอันดับ 1-2 อยู่ขั้วเดียวกัน ชี้ ประธานสภา ต้องวางตัวเป็นกลาง เลือกปฏิบัติไม่ได้ เพราะมีฝ่ายตรวจสอบ
Here We Go 86 ส่องปัญหาเยาวชนในประเทศไทย มองไกลให้ทะลุถึงปัญหาความขัดแย้งในอิสราเอล ที่อาจมีอิหร่านให้ความช่วยเหลืออยู่เบื้องหลัง
ศิราวุธ ภุมมะกสิกร
อดีตวิศวกรโครงการ ระดับผู้จัดการ จบปริญญาตรีวิศวกรรมเครื่องกล จาก พระจอมเกล้าธนบุรี และ โท ด้าน Advanced Manufacturing Engineering จาก University of South Australia มีความสนใจในเรื่องประวัติศาสตร์ การเมือง และสวัสดิการสังคม