Net Zero กับ Carbon Footprint สิ่งที่ผู้ประกอบการไทยต้องตระหนัก ก่อนสินค้าไทยจะถูกกีดกันในปี 2023
เมื่อเราพูดถึงเรื่องโลกร้อน หรือ “NetZero” หรือ “การลดคาร์บอนให้เป็นศูนย์” ที่องค์กรยักษ์ใหญ่หลายแห่งต่าง ออกมาขยับขับเคลื่อนในเรื่องนี้อย่างเข้มข้น หนึ่งองค์กรที่เห็นนั้นคือ GC ที่ออกมาขับเคลื่อนอย่างจริงจัง เพื่อต้องการสร้างการรับรู้ และชวนให้ทุกคนมาร่วมไม้ร่วมมือ
สอดคล้องกับทที่เราอยากบอกคุณว่า “ถ้าคุณไม่เริ่มทำตั้งแต่วันนี้ ในอนาคตธุรกิจคุณอาจอยู่ยาก” หรือ “ในปีหน้า (2023) สินค้าของคุณอาจแข่งขันไม่ได้อีกต่อไปในตลาดใหญ่อย่างยุโรป”
———-
สหภาพยุโรปกับ CBAM ที่จะกระทบไทยในปีหน้า
———-
เมื่อเดือนธันวาคมปี 2019 ทางสหภาพยุโรป หรือ EU ได้ออกแผน ‘การปฏิรูปสีเขียว’ (European Green Deal) โดย EU ตั้งเป้าว่าประเทศในกลุ่มสมาชิกจะต้องลดปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกให้ได้ 60% ภายในปี 2030 และทำให้การปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นศูนย์ (Climate Neutral) ภายในปี 2050
จากยุทธศาสตร์ดังกล่าว ทำให้ EU กลายเป็นทวีปที่เอาจริงกับเรื่องการลดการปล่อยคาร์บอน ทั้งในภาคอุตสาหกรรม สินค้า และบริการ
โดยในปี 2021 รัฐสภายุโรปได้ผ่านมาตรการ Carbon Border Adjustment Mechanism (CBAM) หรือ มาตรการปรับคาร์บอนก่อนเข้าพรมแดน โดยวางแผนการบังคับใช้ในปี 2023 หรือในปีหน้าที่กำลังจะมาถึงในอีกไม่กี่เดือนนี้
ซึ่งหมายความว่าในปีหน้า หากสินค้าไทยตัวไหน ไม่ผ่านมาตรฐานการลดการปล่อยคาร์บอนที่ EU กำหนดไว้ ก็จะโดนมาตราภาษีที่สูงมาก จนกระทบต่อต้นทุนการแข่งขันในตลาดยุโรป และทำให้ผู้นำเข้า หันไปหาผู้ปะรกอบการที่ทำได้ตามมาตรฐานแทน ซึ่งเท่ากับเป็นการกีดกันทางการค้าโดยอ้อมนั่นเอง
———-
ฉลากคาร์บอน (Carbon Label) มาตรฐานใหม่ที่จะมาคู่กับ ISO
———-
ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา เราเริ่มเห็น ‘ฉลากคาร์บอน’ (Carbon Label) ที่ติดอยู่บนสินค้าต่างๆ ในร้านค้า เพื่อบอก Carbon Footprint หรือ ปริมาณก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่เกิดขึ้นจากกระบวนการผลิตทั้งหมด ว่าในแต่ละขั้นตอนการผลิต มีการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ออกมาจำนวนเท่าใด
ซึ่งในอนาคตหากผู้ผลิตสินค้ารายใด ไม่สามารถทำ Carbon Footprint ให้อยู่ในเกณฑ์ที่ประเทศต้นทางรับได้ สินค้าเหล่านั้นก็จะถูกปฏิเสธในการนำเข้า และผู้นำเข้าก็จะหันไปหาผู้ส่งออกรายใหม่ที่สามารถตอบโจทย์การลดคาร์บอนที่ทางการกำหนดไว้ได้แทน
และกระบวนการผลิตที่ว่านั้น ครอบคลุมในหลายมิติทั้งการผลิตตัวสินค้า หีบห่อ บรรจุภัณฑ์ที่ใช้ ไปจนถึงขั้นตอนการกำจัดของเสียที่เกิดจากกระบวนการผลิต หรือการขนส่ง
———-
Net Zero อยู่ใกล้ตัวกว่าที่คุณคิด
———-
หลังจากที่ได้อ่านบทความนี้มาจนถึงตรงนี้ ทุกท่านคงได้ทราบแล้วว่าตั้งแต่ปี 2023 เป็นต้นไป หากเราไม่ใส่ใจกับเรื่องการลดการปล่อยคาร์บอน โอกาสที่สินค้าไทยจะโดนกำแพงภาษีและการกีดกันทางการค้า จากประเด็น Carbon Footprint นั้น ถือเป็นเรื่องใกล้ตัวมาก
ดังนั้นเรื่อง Net Zero จึงไม่ใช่แค่ “แคมเปญรักษ์โลก” ที่เป็น CSR ของบริษัทใหญ่แบบที่เราเคยเข้าใจกันอีกต่อไป แต่มันคือจุดเริ่มต้นของมาตรฐานการค้าที่กำลังจะเกิดขึ้นในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า
การกำหนดวิสัยทัศน์เพื่อมุ่งเป้าสู่ Net Zero ของ บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ GC จึงถือเป็นการประกาศว่า บริษัทที่ใหญ่และมีมูลค่ามากที่สุดของประเทศไทย กำลังทำตัวเป็นเรือธงที่จะพาประเทศปรับตัวและมุ่งไปสู่ศึกครั้งใหม่ที่คนไทยต้องรับมือในอนาคต
ซึ่งในงาน GC Symposium 2022 ที่ผ่านมา GC ได้แสดงให้เราเห็นแล้วว่าประเด็น Net Zero อยู่ใกล้ตัวในทุกมิติชีวิตของเราทั้งในปัจจุบัน และอนาคต
ดังนั้นวันนี้ถึงเวลาแล้ว ที่เราจะต้องเริ่มเข้าใจว่า “Net Zero” คือเกมใหม่ของโลกใบนี้ ที่กำลังจะมาถึงตัวเราในไม่ช้า และหากเราไม่เริ่มต้นที่จะปรับตัวตั้งแต่วันนี้ เราอาจถูกทิ้งไว้ข้างหลังโดยไม่รู้ตัวในอีกไม่ช้า
บทความโดย กิตติธัช ชัยประสิทธิ์
ไม่ได้ขอลดค่าไฟ โฆษกรัฐบาลแจง Google-Microsoft-Tesla ขอให้ รัฐบาลไทยจัดหาพลังงานสะอาด
EU ร้องแบนบริษัท 5G ของจีน เจ้าหน้าที่ระดับสูง EU เรียกร้องให้ประเทศสมาชิก แบน Huawei และ ZTE จากเครือข่าย 5G
เตรียมปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ สุชาติคุยนายกฯ ขอปรับ 1 ต.ค. เผยคุยสภาแรงงาน-นายจ้างแล้ว
ศิราวุธ ภุมมะกสิกร
อดีตวิศวกรโครงการ ระดับผู้จัดการ จบปริญญาตรีวิศวกรรมเครื่องกล จาก พระจอมเกล้าธนบุรี และ โท ด้าน Advanced Manufacturing Engineering จาก University of South Australia มีความสนใจในเรื่องประวัติศาสตร์ การเมือง และสวัสดิการสังคม