
เมียนมาแห่ซื้ออสังหาไทย ย้ายทุนหนีความขัดแย้งในประเทศ ช่วยประคองตลาดอสังหาฯ ไทย ‘Sen X’ มียอดขายจากลูกค้าชาวเมียนมา 100 ล้าน ‘อนันดา’ ชี้เป็นความต้องการชั่วคราว
สืบเนื่องจากปัญหาความขัดแย้งภายในประเทศเมียนมา ซึ่งสถานการณ์มีแนวโน้มที่จะบานปลายจนทำให้รัฐบาลเมียนมาประกาศให้มีการบังคับเกณฑ์ทหารแก่พลเรือนชายและหญิงเมื่อวันเสาร์ที่ 10 ก.พ. 2567
เมื่อวันที่ 2 เม.ษ. 2567 นางสุพินท์ มีชูชีพ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เซ็น เอกซ์ จำกัด (มหาชน) หรือ SEN X บริษัทผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ เปิดเผยว่าปัญหาความขัดแย้งเชิงภูมิรัฐศาสตร์ และสงครามเร่งปฏิกิริยาให้มีการทวนกระแสโลกาภิวัตน์ (Deglobalization) มากขึ้น ซึ่งเป็นผลให้เกิดการลงทุน และการซื้ออสังหาริมทรัพย์ในต่างประเทศสูงขึ้นด้วย
ทำให้ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์มีการปรับตัวหันไปให้ความสำคัญกับลูกค้าชาวต่างชาติมากขึ้นเพื่อระบายสต็อกที่มีอยู่ ในขณะที่ลูกค้าชาวไทยที่มีกำลังซื้ออ่อนแอ
นางสุพินท์เปิดเผยว่าในช่วงเวลานี้ในตลาดคอนโดมิเนียมระดับราคา 2-4 ล้านบาท มีลูกค้าชาวเมียนมาเพิ่มขึ้นถึง 2 เท่าตัว โดยส่วนใหญ่เป็นผู้ปกครองชาวเมียนมาที่ส่งบุตรหลานเข้ามาเรียนหนังสือในประเทศไทย โดยเฉพาะย่านรามคำแหง และ บางนา และกำลังขยายไปโซนพระราม 9
เนื่องจากนักศึกษาชาวเมียนมาเข้ามาเรียนในมหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ (ABAC) เป็นจำนวนมาก และทำเลดังกล่าวมีความสะดวกในการเดินทางไปศึกษา ในขณะกลุ่มลูกค้าที่เดินทางมาเพื่อการรักษาตัวในกรุงเทพฯ นิยมโซนสุขุมวิท ซึ่งมีระดับราคาสูง
ทั้งนี้ในไตรมาส 1/2567 มีลูกค้าชาวเมียนมาเข้ามาซื้ออสังหา ฯ กับ Sen X แล้วกว่า 100 ล้านบาท และคาดว่าจะมีนักลงทุนชาวเมียนมาเข้ามาซื้อเพิ่มอีก 30% ซึ่งทางบริษัทเริ่มทำตลาดในเมียนมามาตั้งแต่ปี 2566 แล้ว โดยเล็งเห็นถึง “โอกาส” ทั้งในกลุ่มผู้ปกครองที่ส่งบุตรหลานเข้ามาเรียนหนังสือ ในประเทศไทย
และกลุ่มคนที่เข้ามารักษาตัวในโรงพยาบาลไทย โดยเฉพาะกรุงเทพฯ เนื่องจากการซื้อคอนโดฯ มีข้อดีมากกว่าการเช่าโรงแรม หรือเซอร์วิสอาพาร์ตเมนต์ เนื่องจากห้องอาจจะเต็ม อีกทั้งชาวเมียนมาชอบการประกอบอาหารเอง การซื้อคอนโดฯ จึงตอบโจทย์มากกว่า
นางสุพินท์กล่าวมาในขณะที่ค่าเงินจ๊าดของเมียนมามีความผันผวนสูง และร่วมลงต่ำสุดในรอบ 10 ปี ทำให้นักลงทุนชาวเมียนมาเริ่มมองหาประเทศที่มีระดับความเชื่อมั่นที่สูงกว่า โดยมีประเทศไทยเป็นหนึ่งในประเทศเป้าหมายผ่านการซื้ออสังหาริมทรัพย์
ด้านนายประเสริฐ แต่ดุลยสาธิต ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายงานธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ บริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่าปี 2566 อนันดามียอดขายลูกค้าชาวต่างชาติถึง 7,000 ล้านบาท โดยลูกค้าชาวเมียนมาครองสัดส่วนการซื้อในเป็นอันดับ 3 ถึง 10%
และชาวเมียนมายังคงมีความต้องการเพิ่มสูงขึ้น สะท้อนศักยภาพของไทยในการเป็น โกลบอล พรอพเพอร์ตี้ อย่างไรก็ดีความต้องการของชาวเมียนมาเป็นเพียง “ความต้องการชั่วคราว” เพื่อหลีกเลี่ยงการถูกเกณฑ์ทหาร เช่นเดียวกับในกลุ่มชาวไต้หวันที่เข้ามาเพื่อหลีกเลียงความขัดแย้งระหว่างจีน-ไต้หวัน
อย่างไรก็ดีกลุ่มลูกค้าหลักของตลาดอสังหาฯไทยยังคงเป็นจีน เพราะถึงแม้ว่าเศรษฐกิจของจีนจะอ่อนแอ แต่ก็ยังมีเงิน และการหลั่งไหลเข้ามาในตลาดอสังหาไทยฯ ของกลุ่มชาวต่างชาติ ได้เข้ามาช่วยพยุงตลาดได้พอดี จนทำให้ตัวเลขของปี 2566 ไม่ติดลบ ในขณะที่กำลังซื้อในประเทศอ่อนแอ