ฝีดาษลิงระบาดหนัก! แพทย์เตือน ผู้ป่วยในไทยสูงเป็นอันดับ 2 ของโลก หมอยงชี้ วัคซีนป้องกันยังมีราคาแพง
วันที่ 8 ก.ย. 66 พลตรีหญิง ปริยนันทน์ จารุจินดา ผู้อำนวยการสถาบันพยาธิวิทยา ศูนย์อำนวยการแพทย์พระมงกุฏเกล้า เปิดเผยว่า ปัจจุบันนี้จำนวนผู้ป่วยโรคฝีดาษลิง (Monkeypox หรือ Mpox)ในประเทศไทยสูงเป็นอันดับที่ 2 ของโลก เป็นรองเพียงสิงคโปร์เท่านั้น
ด้าน นพ.ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิก ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ระบุว่าประเทศไทยจำนวนผู้ป่วยเพิ่มมากขึ้นอย่างรวดเร็วในช่วงเดือนมิถุนายน ถึงปัจจุบันหลังจากมีการจัดงาน prime festival โดยมีสาเหตุของการระบาดดังนี้
1 ความรุนแรงของโรคนี้มีความรุนแรงน้อยมาก ในบางรายขึ้นตุ่มไม่กี่ตุ่ม หรือไม่ทราบดังนั้นจำนวนหนึ่งจะไม่ได้เข้าสู่กระบวนการรักษา และสามารถแพร่กระจายโรคต่อไปได้
2 การระบาดมีความสัมพันธ์กับเพศสัมพันธ์ โดยเฉพาะในกลุ่มชายรักชาย เช่นเดียวกับ HIV ก็ยากที่จะควบคุมหรือกำจัดให้หมดไป แต่ Mpox ดีกว่า HIV ตรงที่โรคหายขาดไม่เรื้อรัง
3 การป้องกันด้วยวัคซีน วัคซีนที่ใช้อยู่ในปัจจุบันใช้ป้องกันฝีดาษคน เมื่อนำมาป้องกันฝีดาษ Mpox ประสิทธิภาพในการป้องกันลดลง ไม่ได้ 100% แบบการปลูกฝีป้องกันฝีดาษ ดังนั้นผู้ที่ฉีดวัคซีนแล้วก็ยังเป็นโรคได้
4 วัคซีนที่ใช้อยู่ในปัจจุบันมีราคาแพงมาก ประเทศกำลังพัฒนาไม่สามารถที่จะนำมาใช้ได้
5 แหล่งแรงโรค อยู่ในสัตว์ตระกูลหนูหรือฟันแท้ จะเห็นได้จากการระบาดเมื่อ 20 ปีก่อนในอเมริกามีการนำเอาหนู Giant Gambian rat นำเข้าไปในอเมริกาและไปเลี้ยงรวมกับ แพรี่ด็อก เชื้อได้ข้ามไปสู่แพรี่ด็อกและเข้ามาสู่คน ทำให้เกิดการระบาดมากกว่า 40 คน
6 ประเทศกำลังพัฒนาที่มีสุขอนามัยไม่ดี เชื้อ Mpox อาจหลุดลงไปและไปสู่สัตว์พันธุ์แท้โดยเฉพาะหนู ที่จะเป็นแหล่งเพราะพันธุ์ของโรค และอาจจะแพร่พันธุ์ไปสู่สัตว์อื่น จะยิ่งทำให้ยากในการควบคุม
การดูแลป้องกันลดการแพร่กระจายในประเทศกำลังพัฒนา จะต้องออกแรงมากกว่าประเทศพัฒนาแล้วด้วยสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรที่จำกัด
ด้านนายสุนทร สุนทรชาติ ผู้อำนวยการสำนักอนามัย (สนอ.) กทม. กล่าวว่าหากมีผื่น หรือตุ่มขึ้นบริเวณอวัยวะเพศ ทวารหนัก ปาก หรือตามร่างกาย และมีประวัติสัมผัสใกล้ชิด สัมผัสแนบชิด หรือมีเพศสัมพันธ์กับผู้สงสัยฝีดาษลิง หรือผู้ป่วยฝีดาษลิง ให้สังเกตตนเองภายหลังสัมผัสผู้ป่วยภายใน 21 วัน
หากมีอาการ ไข้ ปวดศีรษะ ปวดเมื่อย ต่อมน้ำเหลืองโต มีผื่น หรือตุ่มน้ำ หรือตุ่มหนองขึ้นบริเวณอวัยวะเพศ หรือทวารหนัก หรือบริเวณรอบ ๆ ตามมือ เท้า หน้าอก ใบหน้า หรือบริเวณปาก ให้รีบเข้ารับการตรวจที่โรงพยาบาลทันที โดยแจ้งอาการและประวัติเสี่ยงประกอบการวินิจฉัย