แบนส่งออกแร่แรร์เอิร์ธ มาเลเซียกำลังพิจารณาห้ามส่งออกแรร์เอิร์ธ โดยหวังกระตุ้นอุตสาหกรรมภายในประเทศ
นายกรัฐมนตรีอันวาร์ อิบราฮิม กล่าวเมื่อวานนี้ (11 ก.ย.) ว่ามาเลเซียกำลังพิจารณาแบนการส่งออกแร่แรร์เอิร์ธ (Rare Earth) เพื่อปกป้องผลประโยชน์ของชาติ ส่งผลให้มาเลเซียกลายเป็นประเทศล่าสุดที่จำกัดการขนส่งแร่สำคัญ
ข้อมูลจากการสำรวจทางธรณีวิทยาของสหรัฐอเมริกาในปี 2019 เผยว่ามาเลเซียมีปริมาณสำรองของแร่หายากเพียงราวๆ 30,000 ตัน ขณะที่จีนเป็นแหล่งแร่แรร์เอิร์ธขนาดใหญ่ที่สุดในโลก โดยมีปริมาณมากถึง 44 ล้านตัน ทั้งนี้ แร่แรร์เอิร์ธใช้กันอย่างแพร่หลายในชิ้นส่วนเซมิคอนดักเตอร์ ยานพาหนะไฟฟ้า และอุปกรณ์ทางทหาร
การตัดสินใจดังกล่าวเกิดขึ้นในขณะที่ทั่วโลกพยายามลดการพึ่งพาจีน ซึ่งเป็นผู้ผลิตแร่แรร์เอิร์ธอันดับ 1 ของโลก
นายกรัฐมนตรีของมาเลเซีย กล่าวว่า รัฐบาลจะสนับสนุนการพัฒนาอุตสาหกรรมแร่แรร์เอิร์ธในมาเลเซีย และการสั่งห้ามการส่งออกแร่หายากเหล่านี้จะเป็นการรับประกันผลตอบแทนสูงสุดสำหรับประเทศ พร้อมเสริมว่า อุตสาหกรรมแร่แรร์เอิรธ์คาดว่าจะมีส่วนสนับสนุนผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศมากถึง 9.5 พันล้านริงกิต (ราว 7.24 หมื่นล้านบาท) ในปี 2025 และสร้างงานเกือบ 7,000 ตำแหน่ง
“การทำแผนที่ของแหล่งแร่แรร์เอิร์ธและรูปแบบธุรกิจที่ครอบคลุม ทั้งธุรกิจต้นน้ำ – ปลายน้ำ จะได้รับการพัฒนาเพื่อรักษาห่วงโซ่คุณค่า (Value Chain) ของแร่แรร์เอิร์ธในประเทศ” อันวาร์ กล่าว
การสั่งห้ามของมาเลเซียอาจส่งผลกระทบต่อการขายไปยังจีน ซึ่งนำเข้าแร่แรร์เอิร์ธจากประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ประมาณ 8% ระหว่างเดือนมกราคม-กรกฎาคม 2023 ตามข้อมูลศุลกากรของจีน
(1 = 7.62 บาท)