
ลดการพึ่งพาดอลลาร์สหรัฐฯ มาเลเซียเริ่มผลักดันให้คู้ค้ารับเงิน ‘ริงกิต’ ในการค้าขายระหว่างประเทศมากขึ้น
นายกรัฐมนตรีอันวาร์ อิบราฮิม ของมาเลเซียกล่าวเมื่อวานนี้ (10 ต.ค.) ว่ามาเลเซียต้องการให้ประเทศคู่ค้ายอมรับการชำระเงินสกุลริงกิตมากขึ้น โดยถือเป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์ในการพยุงค่าเงินริงกิตและลดการพึ่งพาเงินดอลลาร์สหรัฐฯ
นายกรัฐมนตรีอันวาร์ ระบุว่ามาเลเซียได้ทำข้อตกลงกับไทย อินโดนีเซีย และจีนซึ่งเป็นประเทศคู่ค้ารายใหญ่ที่สุดของมาเลเซีย ในเรื่องการส่งเสริมการใช้สกุลเงินท้องถิ่นในการทำการค้าและการลงทุนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
“เราต้องการยกระดับการใช้สกุลเงินท้องถิ่นในการทำการค้ากับจีน… หรือลดการพึ่งพาเงินดอลลาร์ (de-dollarisation) ซึ่งการยุติการพึ่งพาเงินดอลลาร์สหรัฐนั้นเป็นเรื่องยาก แต่มาเลเซียจะดำเนินการอย่างแข็งร้าวมากขึ้นในการใช้เงินริงกิต” อันวาร์ กล่าวต่อรัฐสภา
ความเคลื่อนไหวดังกล่าวเกิดขึ้นท่ามกลางการอ่อนค่าลงอย่างต่อเนื่อง (ใกล้ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์) ของเงินริงกิตเมื่อเทียบกับดอลลาร์ โดยริงกิตสูญเสียมูลค่าไปแล้วประมาณ 7.6% จากช่วงต้นปีเมื่อเทียบกับดอลลาร์
นายกรัฐมนตรีอันวาร์ อ้างว่าการดิ่งลงของค่าเงินริงกิตมีสาเหตุส่วนใหญ่มาจากปัจจัยภายนอก เช่น การพุ่งขึ้นของอัตราดอกเบี้ยสหรัฐฯ พร้อมเสริมว่า มาเลเซียจะดำเนินการปฏิรูปเชิงโครงสร้าง ซึ่งจะสามารถดึงดูดการลงทุนและกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยปัจจัยดังกล่าวจะช่วยหนุนค่าเงินท้องถิ่นไปด้วย
นายกรัฐมนตรีอันวาร์ มีกำหนดนำเสนองบประมาณประจำปี 2567 ในวันศุกร์นี้ (13 ต.ค.) โดยมีการคาดการณ์กันว่ารัฐบาลจะปรับลดเงินอุนหนุนคนรวย และให้การสนับสนุนเพิ่มเติมแก่กลุ่มผู้มีรายได้น้อย ท่ามกลางเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวและภาวะตึงเครียดทางการคลัง