บราซิลประท้วงเดือด ผู้ชุมนุมฝ่ายขวาบุกทำลายทำเนียบรัฐบาล หลังไม่พอใจผลการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา
ประธานาธิบดีลูอิซ อินาซิโอ ลูลา ดา ซิลวาของบราซิล เดินทางไปสำรวจความเสียหายของทำเนียบ หลังจากที่กลุ่มผู้สนับสนุนอดีตประธานาธิบดีฌาอีร์ โบลโซนาโร หัวรุนแรงหลายพันคนบุกเข้าไปก่อการจลาจลในอาคารรัฐสภา อาคารศาลฎีกา และปิดล้อมทำเนียบประธานาธิบดี เมื่อวันที่ 8 มกราคม ที่ผ่านมา
โดยเหตุประท้วงในครั้งนี้เกิดขึ้นเพียง 1 สัปดาห์หลังจากที่ประธานาธิบดีลูอิซ อินาซิโอ ลูลา ดา ซิลวา สาบานตนเข้ารับตำแหน่ง ในขณะที่อดีตประธานาธิบดีโบลโซนาโร ผู้นำฝ่ายขวาจัด เจ้าของฉายา ‘ทรัมป์แห่งบราซิล’ ประกาศไม่ยอมรับความพ่ายแพ้ในการเลือกตั้งเมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา
ประธานาธิบดีลูลา กล่าวหาอดีตประธานาธิบดีโบลโซนาโร ว่าเป็นผู้สนับสนุนการก่อเหตุจลาจลทางการเมืองในครั้งนี้ พร้อมกับประกาศกฤษฎีกาเพื่อใช้อำนาจของรัฐบาลกลางเข้าควบคุมสถานการณ์ และเรียกผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุจลาจลในครั้งนี้ว่าเป็น “พวกป่าเถื่อน นีโอฟาสซิสต์ และพวกคลั่งไคล้” พร้อมให้คำมั่นว่าจะลงโทษผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องทั้งหมดด้วย
ด้านอดีตประธานาธิบดีโบลโซนาโร ที่ได้บินออกนอกประเทศก่อนวันเข้ารับตำแหน่งของประธานาธิบดีลูลาเพียง 2 วัน และขณะนี้อยู่ในรัฐฟลอริดา สหรัฐฯ โพสต์ถึงเหตุจลาจลผ่านทวิตเตอร์ส่วนตัว โดยระบุว่า
“การเดินขบวนอย่างสันติภายใต้กฎหมาย เป็นส่วนหนึ่งของระบอบประชาธิปไตย” “อย่างไรก็ตาม การบุกรุกและทำลายอาคารสาธารณะดั่งเช่นเหตุจลาจลที่เกิดขึ้นในวันนี้ และการประท้วงครั้งใหญ่ที่นำโดยฝ่ายซ้ายในปี 2556 และ 2560 ถือเป็นข้อยกเว้น”
อย่างไรก็ตาม อดีตประธานาธิบดีโบลโซนาโรได้หยุดประณามกลุ่มผู้ประท้วงและหันไปตำหนิประธานาธิบดีลูลาแทน หลังจากที่ประธานาธิบดีลูลาอ้างว่าเขามีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุจลาจลในครั้งนี้ โดยระบุว่า
“ตลอดเวลาที่ผมดำรงตำแหน่งประธานาธิบดี ผมได้ปฏิบัติตามหลักสี่ประการของรัฐธรรมนูญอันได้แก่ ‘เคารพและปกป้องกฎหมาย ประชาธิปไตย ความโปร่งใส และเสรีภาพอันศักดิ์สิทธิ์ของเรา’ มาโดยตลอด” “ผมขอปฏิเสธข้อกล่าวหาที่ไม่มีมูลความจริงจากหัวหน้าฝ่ายบริหารคนปัจจุบันของบราซิล”
#TheStructureNews
#Brazil #Bolsonaro #Lula
ไทยออยส์ X กรุงไทย ลดความเสี่ยงด้านการเงิน เชื่อมโยง ESG มุ่งสู่เป้าหมายการลดคาร์บอน
กมธ. เศรษฐกิจ EU ระบุ ‘จีน’พิสูจน์ให้เห็นชัดเจนว่า ‘ประชาธิปไตย’ ไม่จำเป็นต่อความสำเร็จทางเศรษฐกิจ
“การออกใบสั่ง…ต้องเป็นการจับเพื่อทำให้วินัยการจราจรนั้นดีขึ้น” พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ วันที่ 7 ต.ค. 66 “การออกใบสั่ง…ต้องเป็นการจับเพื่อทำให้วินัยการจราจรนั้นดีขึ้น” พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ วันที่ 7 ต.ค. 66
ศิราวุธ ภุมมะกสิกร
อดีตวิศวกรโครงการ ระดับผู้จัดการ จบปริญญาตรีวิศวกรรมเครื่องกล จาก พระจอมเกล้าธนบุรี และ โท ด้าน Advanced Manufacturing Engineering จาก University of South Australia มีความสนใจในเรื่องประวัติศาสตร์ การเมือง และสวัสดิการสังคม