
บริษัทยักษ์ใหญ่ญี่ปุ่นเล็งลงทุนในไทยเพิ่ม ชี้เห็นความได้เปรียบของไทย ด้านแหล่งวัตถุดิบ-อาหาร-พลังงาน
กลุ่มเอกชนยักษ์ใหญ่ในญี่ปุ่นหลายราย สนใจเตรียมแผนที่จะลงทุนในไทยเพิ่มเติมเร็วๆ นี้ หลังเห็นความได้เปรียบของไทยในเรื่องแหล่งวัตถุดิบ อาหาร-พลังงาน
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์กล่าวภายหลังหารือร่วมกับนายซูซูกิโยชิฮิสะ และดร.ซูซูกิ จุน ประธานคณะกรรมการการค้าและเศรษฐกิจญี่ปุ่น–ไทย (Japan –Thailand Trade and Economic Committee) ภายใต้สมาพันธ์ธุรกิจญี่ปุ่น (เคดันเรน) เพื่อหารือกรอบความร่วมมือเศรษฐกิจการค้าระหว่างไทย-ญี่ปุ่น
ซึ่งญี่ปุ่นมีความสำคัญทางเศรษฐกิจการค้าและการลงทุนกับไทย โดยญี่ปุ่นมาลงทุนในอาเซียนราว 14,846 บริษัท ซึ่งมาลงทุนในไทยถึง 6,000 บริษัท และคาดว่าจะมีมากขึ้นในอนาคต ญี่ปุ่นถือเป็นคู่ค้าสำคัญลำดับที่ 3 ของไทย รองจากจีนกับสหรัฐฯ ปี 2565 มีมูลค่าการค้าร่วมกันถึง 2 ล้านล้านบาท และไทยส่งออกไปญี่ปุ่นปีที่แล้ว 8.55 แสนล้านบาท ญี่ปุ่นจึงถือเป็นตลาดใหญ่ตลาดหนึ่งของไทย
ทั้งนี้ ความร่วมมือระดับทวิภาคี มีกรอบ JTEPA (ความตกลงหุ้นส่วนเศรษฐกิจไทย-ญี่ปุ่น) ซึ่งเป็นความตกลงการค้าเสรี หรือ FTA ที่ภาคเอกชนทั้งสองฝ่ายจะใช้ประโยชน์ในการลดภาษี เปิดตลาดการค้าบริการและการลงทุนระหว่างกัน ส่วนในระดับพหุภาคี ไทยกับญี่ปุ่น เป็นสมาชิก RCEP (ความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค) ซึ่งปัจจุบันเป็น FTA ที่ใหญ่ที่สุดในโลก
อีกทั้งไทย-ญี่ปุ่นกำลังเดินหน้าขับเคลื่อน RCEP ไปด้วยกัน เพื่อให้ได้รับประโยชน์ทางการค้าการลงทุนสูงสุด และมีกรอบความร่วมมือทางเศรษฐกิจอินโด-แปซิฟิก (IPEF) ซึ่งไทยกับญี่ปุ่นเป็นหุ้นส่วนสำคัญ และยังมีเอเปคที่เป็นสมาชิกร่วมกันในระดับความร่วมมือที่ใกล้ชิดทั้งระดับทวิภาคีและพหุภาคีอีกด้วย
นอกจากนี้ ยังมีทั้ง EEC (โครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก) และเขตเศรษฐกิจอื่นๆ ที่ญี่ปุ่นสามารถเลือกลงทุนในไทยผ่านสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน หรือ BOI ซึ่งจะเป็นกลไกหลักให้ความดูแลสนับสนุน รวมทั้งญี่ปุ่นยังมองว่าไทยมีศักยภาพด้านการเป็นแหล่งวัตถุดิบสำคัญทางการผลิต และเป็นส่วนหนึ่งของห่วงโซ่การผลิตให้กับญี่ปุ่น ทั้งเรื่องอาหาร อุตสาหกรรมและอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง
ที่ผ่านมา ญี่ปุ่นนำเข้าไก่จากไทยเป็นอันดับ 1 ปีละกว่า 3 สามแสนตัน รวมทั้งวัตถุดิบชีวภาพที่เอาไปทำพลังงานในญี่ปุ่น โดยจากนี้ทางญี่ปุ่นจะมาประชุมกับ กกร.ของไทย(คณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน) ซึ่งจะเป็นประโยชน์ในการส่งเสริมความร่วมมือระหว่างเอกชนไทยกับญี่ปุ่นให้ใกล้ชิดกันมากยิ่งขึ้นด้วย