นาวาโท พิชิตชัย เถื่อนนาดี อดีตผู้บังคับการเรือหลวงสุโขทัยกล่าวภายหลังการประกาศลาออกเพื่อแสดงความรับผิดชอบ วันที่ 9 เม.ย. 2567
ในระหว่างการแถลงข่าวผลการสอบสวนของคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงกรณีเรือหลวงสุโขทัยอับปาง เมื่อวันที่ 9 เม.ย. 2567 ซึ่งมีผลสรุปว่าเป็นเหตุสุดวิสัยจากการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศอย่างฉับพลัน และเลวร้ายเกิดกว่าที่ได้พยากรณ์อากาศไว้ก่อนออกเรือ ประกอบกันการตัดสินใจที่ผิดพลาดของผู้บังคับการเรือในการนำเรือฝ่าแนวคลื่นจนทำให้ตัวเรือเสียหาย และอับปางในที่สุด
นาวาโทนาวาโท พิชิตชัย เถื่อนนาดี อดีตผู้บังคับการเรือหลวงสุโขทัยได้ชี้แจงว่าตนเองขอยอมรับในความผิดพลาดจากการตัดสินใจที่ไม่รอบคอบ และถึงแม้ว่าจะไม่มีการสั่งลงโทษถึงขั้นให้ออกจากราชการ แต่นาวาโทพิชิตชัยยังยืนกรานที่จะแสดงความรับผิดชอบที่จะขอลาออก
ในช่วงท้ายของการแถลงข่าว นาวาโทพิชิตชัยได้ถือโอกาสกล่าวชี้แจงอีกครั้งว่า “ในส่วนประเด็นที่เกี่ยวข้องกับผม จากที่ท่านผู้บังคับบัญชาท่านชี้แจงมา การใช้ดุลยพินิจต่าง ๆ ของผมเป็นไปตามที่ได้ชี้แจงไปเป็นตามนั้นจริง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของกำลังพลก็ดี การแก้ไขปัญหา การตัดสินใจนำเรือกลับสัตหีบก็ดี อยู่ภายใต้การใช้ดุลยพินิจและคำสั่งการของผมแต่เพียงผู้เดียว
ซึ่งในเรื่องของความปลอดภัยไม่ว่าจะเดินเรือ หรือปฏิบัติการอย่างไรก็แล้วแต่ ผู้บังคับการเรือมีอำนาจตัดสินใจแต่เพียงผู้เดียว ผู้อื่นไม่สามารถมาแทรกแซงการปฏิบัติหรือสั่งการเป็นอย่างอีกได้ นั่นหมายความว่า สิ่งต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น ณ ขณะนั้นอยู่ภายใต้การประเมินสถานการณ์และตัดสินใจขอผมแต่เพียงผู้เดียว
ความยุติธรรมต่าง ๆ ในวันนี้ผมยอมรับ และเห็นเป็นทิศทางเดียวกับที่ผู้บังคับบัญชาได้สอบสวนและสรุปมา ในโทษต่าง ๆ ก็ดี หรือสาเหตุต่าง ๆ ก็ดี ขอยืนยันตรงนี้เลยว่า ผมมิใช่เป็นเหยื่อของความอยุติธรรม และขอยืนยัน ณ ที่นี้เลยว่าทุกอย่างที่กองทัพเรือได้ทำการสอบสวนมา ถูกต้อง ไม่มีการปกปิด ไม่มีการดำเนินการอื่นใดที่ผิดไปจากความจริงทั้งสิ้น
และผมก็ขอยอมรับในสิ่งที่เกิดขึ้น เพราะเราเป็นผู้บังคับบัญชา เราต้องรับผิดมาก่อนรับชอบ นี่เป็นสิ่งที่เรายึดกันมาตลอดครับ”