
โลกหวั่นราคาข้าวพุ่งอีกหลังอินเดียสั่งระงับส่งออกข้าวครั้งใหญ่หลังเจอมรสุมทำให้พืชผลเสียหาย
อินเดียซึ่งเป็นประเทศผู้ส่งออกข้าวรายใหญ่ที่สุดของโลก ประกาศระงับการส่งออกข้าวขาวที่ไม่ใช่ข้าวบาสมาติ เมื่อวานนี้ (20 ก.ค.) โดยจะมีผลบังคับใช้ทันที หลังราคาขายปลีกข้าวในอินเดียพุ่งขึ้น 3% ในช่วงเดือนที่ผ่านมา เหตุฝนมรสุมตกหนักทำให้พืชผลเสียหายจำนวนมาก
โดยทางการอินเดียชี้แจงว่า มาตรการระงับการส่งออกข้าวนั้น เพื่อให้แน่ใจว่ามีข้าวขาวที่ไม่ใช่ข้าวบาสมาติเพียงพอสำหรับการบริโภคภายในประเทศ และแก้ปัญหาราคาข้าวในประเทศที่พุ่งขึ้นถึงร้อยละ 11.5 ในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา
การประกาศของอินเดียทำให้โลกกังวลว่าอาจทำให้ราคาอาหารทั่วโลกปรับตัวสูงขึ้นอีก เนื่องจากอินเดียครองส่วนแบ่งตลาดข้าวโลกถึงกว่า 40% ในขณะที่ประเทศผู้ส่งออกอื่นๆ ไม่มีข้าวในสต๊อกเพียงพอที่จะชดเชยการขาดแคลน
หมวดหมู่ข้าวขาวและข้าวหักที่ไม่ใช่ข้าวบาสมาติ คิดเป็นประมาณ 10 ล้านตันจากทั้งหมด 22 ล้านตันของการส่งออกข้าวของอินเดียในปีที่แล้ว รัฐบาลยังชี้แจงเพิ่มเติมด้วยว่า ข้าวนึ่งซึ่งคิดเป็น 7.4 ล้านตันของการส่งออกในปี 2565 ไม่รวมอยู่ในคำสั่งห้าม
ทั้งนี้ ความเคลื่อนไหวดังกล่าวแสดงให้เห็นถึงความอ่อนไหวของรัฐบาลภายใต้การนำของนายกรัฐมนตรี นเรนทระ โมดี ต่อภาวะเงินเฟ้อด้านอาหารก่อนการเลือกตั้งทั่วไปในปีหน้า
รัฐบาลโมดีได้ขยายการห้ามส่งออกข้าวสาลีเพิ่มเติม หลังจากที่ได้ควบคุมการส่งออกข้าวในเดือนกันยายน 2565 นอกจากนี้ยังจำกัดการส่งออกน้ำตาลในปีนี้เนื่องจากผลผลิตอ้อยลดลง ขณะที่กฤษณะ เรา (Krishna Rao) ประธานสมาคมผู้ส่งออกข้าวแห่งอินเดีย กล่าวว่าอินเดียจะส่งผลกระทบต่อตลาดข้าวทั่วโลกด้วยความเร็วที่สูงกว่ากรณีของสงครามรัสเซีย-ยูเครน
ข้าวเป็นอาหารหลักของประชากรกว่า 3 พันล้านคนทั่วโลก และสภาพอากาศแบบเอลนีโญมักทำให้ปริมาณน้ำฝนลดลงในแถบเอเชีย ซึ่งคิดเป็น 90% ของพื้นที่ปลูกข้าวทั่วโลก ในขณะที่ราคาข้าวทั่วโลกกำลังลอยตัวอยู่ที่ระดับสูงสุดในรอบ 11 ปี
“การห้ามส่งออกอย่างกระทันหันจะสร้างความเจ็บปวดอย่างมากให้กับผู้ซื้อ ซึ่งไม่สามารถแทนที่การขนส่งจากประเทศอื่นได้”
“ในขณะที่ไทยและเวียดนามไม่มีข้าวในสต๊อกเพียงพอที่จะชดเชยการขาดแคลน แต่ผู้ซื้อชาวแอฟริกันจะได้รับผลกระทบมากที่สุดจากการตัดสินใจของอินเดีย… หลายประเทศจะเรียกร้องให้นิวเดลีดำเนินการจัดส่งอีกครั้ง ทั้งนี้ ผู้ซื้อข้าวรายใหญ่รายอื่นๆ ของอินเดีย ได้แก่ เบนิน เซเนกัล ไอวอรีโคสต์ โตโก กินี บังกลาเทศ และเนปาล” ประธานสมาคมผู้ส่งออกข่าวแห่งอินเดีย ระบุ
ในสัปดาห์นี้ ราคาข้าวที่ส่งออกจากเวียดนาม ซึ่งเป็นผู้ส่งออกรายใหญ่อันดับ 3 ของโลก รองจากอินเดียและไทย พุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบกว่าทศวรรษ เนื่องจากความกังวลด้านอุปทานที่เพิ่มขึ้นจากปรากฏการณ์เอลนีโญ
โดยข้าวหัก 5% ของเวียดนามเสนอขายอยู่ที่ 515-525 ดอลลาร์ (17,675-18,018 บาท) ต่อตัน ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2554 ขณะที่ข้าวนึ่งหัก 5% ของอินเดียอยู่ใกล้จุดสูงสุดในรอบ 5 ปี ที่ 421-428 ดอลลาร์ (14,449-14,689 บาท) ต่อตัน
ผู้ค้าข้าวชาวยุโรปรายหนึ่งกล่าวว่า ผู้ซื้ออาจหันไปซื้อข้าวไทยและเวียดนามแทน แต่ปลายข้าว 5% ของพวกเขาอาจมีราคาสูงถึง 600 ดอลลาร์ (20,592 บาท) ต่อตัน ขณะที่ผู้ค้าข้าวอีกรายหนึ่งกล่าวว่า จีนและฟิลิปปินส์ซึ่งโดยทั่วไปซื้อข้าวจากเวียดนามและไทย จะต้องจ่ายในราคาที่สูงขึ้นมาก
(1 ดอลลาร์ = 34.32 บาท)