เผยวีรกรรมของกำลังพล ร.ล. สุโขทัย เลือกที่จะช่วยกันกู้เรือก่อนที่จะไปหยิบฉวยเสื้อชูชีพของตัวเอง ยอมแช่น้ำ ถูกไฟดูดเพื่อกู้สถานการณ์ แม้ผู้การฯ สั่งให้ขึ้นก็ไม่ปฏิบัติตาม
ในระหว่างการแถลงข่าวผลการสอบสวนของคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงกรณีเรือหลวงสุโขทัยอับปาง เมื่อวันที่ 9 เม.ย. 2567 ได้มีข้อซักถามจากผู้สื่อข่าวเกี่ยวกับสาเหตุที่กำลังพลบางส่วนไม่ได้สวมเสื้อชูชีพนั้น นาวาโทนาวาโท พิชิตชัย เถื่อนนาดี อดีตผู้บังคับการเรือหลวงสุโขทัยได้ชี้แจงว่า
“ในส่วนประเด็นของเสื้อชูชีพนะครับ เพื่อที่จะให้เป็นความเข้าใจโดยตรงกันทั้งหมด อย่างที่ผู้บังคับบัญชาท่านชี้แจงมาแล้วว่ามีครบ แต่เมื่อขณะเกิดเหตุ กำลังพล เมื่อเกิดสถานการณ์วิกฤติ กำลังพลส่วนใหญ่ด้วยความรักความผูกพันกับเรือมาค่อนข้างนาน 50% อยู่เรือมากกว่า 10 ปี
ณ ขณะนั้นแม้แต่กระทั่งตัวผมเอง ผมมุ่งเน้นไปที่การแก้ปัญหา หลายคนที่บอกแล้วให้ไปใส่เสื้อชูชีพ แต่เค้ามุ่งเน้นที่จะแก้ปัญหาตรงนั้นก่อนข้างหน้าโดยที่ไม่สนใจเรื่องพวกนี้ อาจจะพูดได้ว่าเค้ายอมเอาน้ำออกจากเรือ เอาน้ำออก ช่วยกันก่อน มากกว่าที่จะไปดูเรื่องส่วนตัวที่จะต้องไปห้องไปเอาชูชีพที่ตรงนั้น เค้ามุ่งเน้นไปที่ตรงนั้น (การแก้ไขสถานการณ์) กัน
วีรกรรมต่าง ๆ เหล่านี้มันชัดในหลายอย่างที่เกิดขึ้นในวันนั้น อย่างเช่นไฟดูดก็ดี บางคนผมสั่งกับปากว่าให้ขึ้นมาไม่ต้องอยู่แล้ว เค้าไม่ยอมขึ้นเค้ายอมที่จะโดนไฟดูดเพื่อที่จะจับเอาเครื่องสูบน้ำเครื่องที่อยู่ตรงนั้นให้มันมั่นคง ไม่ล้ม ไม่โคลงเคลง เค้ายอมที่จะทำอย่างนั้นแม้แต่กระทั่งผมสั่งเอง
สถานการณ์ ณ ขณะนั้นเรามุ่งเน้นไปที่การแก้ปัญหาในภาวะขณะนั้นมากกว่าที่จะสนใจเรื่องส่วนตัว เอาง่าย ๆ กันในภาษาอย่างนี้เลยครับ เรามุ่งอย่างนี้มากกว่า
เมื่อประกาศให้ออกมาภายนอกตัวเรือจึงพบว่าหลายคน แม้แต่กระทั่งประจำเรือเองที่มีชูชีพเนี่ยก็ไม่ได้หยิบขึ้นมาตามที่ผู้บังคับบัญชาตามที่ท่านได้ชี้แจงไว้คือมันลงไปเอาไม่ได้แล้ว
ซึ่งประเด็นนี้ขอให้ทุกท่านเข้าใจตรงกันว่ามันมีเพียงพอ แต่เกิดจากปัจจัยหลายอย่างและภาวะชุลมุน ณ ขณะนั้น ทำให้เราไม่สามารถลงไปเอามาได้ทั้งหมดทุกคน”