Here We Go (8)

อัปเดตประเทศไทย 13 เมษายน 65

สัปดาห์นี้มีเรื่องชวนติดตามและชวนคิดพอสมควร ทั้งในบ้านเราและในต่างประเทศ การเมือง บ้านเราเหมือนไม่มีอะไร แต่ก็มีบางสิ่งที่ต้องอ่านต้องฟังต้องดูบ้างตามสมควร สภาใกล้เปิดสมัย ประชุม ผลประโยชน์ของนักการเมืองยังจัดสรรไม่ลงตัว กฎหมายสองฉบับเรื่องการเลือกตั้งกับ เรื่องพรรคการเมืองที่อยู่ในวาระ 2 มีการร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญในประเด็นเรื่องบัตรสองใบขัด รัฐธรรมนูญปี 60 ไปแล้ว

ศาลท่านยังไม่ได้วินิจฉัยว่าจะรับคำร้องหรือไม่ มีอีกหลายประเด็นที่ยัง ตกลงกันไม่ได้ เช่น การตั้งพรรคการเมือง คุณสมบัติของผู้ก่อตั้งพรรค กระบวนการในการบริหาร จัดการพรรค ฝ่ายสภาผู้แทนอยากได้สิ่งที่ทำง่ายๆ ไม่ยุ่งยาก ส่วนฝ่ายวุฒิสภายึดความเคร่งครัด ในการกำกับ ประธานกรรมาธิการต้องใช้ฝีมือ ออกแรงให้หนักขึ้น หากอยากให้การพิจารณาในวาระ 2 แล้วเสร็จก่อนเปิดสมัยประชุมในวันที่ 22 พฤษภาคม นี้

วันที่ 10 เมษายน ที่ผ่านมา คนเสื้อแดงจัดงานรำลึก 12 ปีที่ความเป็นธรรมยังไม่ปรากฎ มีคนมา พอสมควร คนชื่อเต้นเป็นพระเอกบนเวที มาครั้งนี้ดูเหมือนต้องการดึงเหตุวันที่ 10 เมษายน มาประกาศความเป็นผู้นำที่ไม่เคยทอดทิ้งคนเสื้อแดง เรียกร้องความเป็นธรรมที่คนเสื้อแดงควรจะได้

ที่น่าสนใจก็คือ เกิดคำถามทั้งในโลกจริงและโลกเสมือนจริง แล้วความเป็นธรรมของคนไม่มีสีเสื้อล่ะ คนที่อยู่อยู่บ้านทำมาหากินอย่างสงบแต่ได้รับความเดือดร้อน ภาษีที่เสียไปต้องเอาไปซ่อมแซม ตึกรามบ้านช่องที่ถูกเผา ลูกที่กำพร้าพ่อไม่ใช่เฉพาะคนเสื้อแดง ลูกเมียของทหารที่ถูกอาวุธสงคราม ถล่มในวันนั้นตายเจ็บไปกี่คน คนเหล่านี้ไม่เคยออกไปเรียกร้องขอความเป็นธรรมทั้งที่พวกเขา เดือดร้อนโดยไม่ได้ออกไปสร้างความวุ่นวายอะไรแม้แต่น้อย

ความขัดแย้งทางการเมืองที่แก้ไขด้วย การปลุกเร้าอารมณ์คน จนกลายเป็นม็อบ แล้วนำม็อบนั้นมาใช้เป็นเครื่องมือทางการเมือง คนที่ทำ แบบนี้ควรได้รับความเป็นธรรมอย่างไร นายเต้นมาในงานอย่างศักดินา มีรถคันใหญ่ มีผู้คุ้มกัน เพราะเคยเป็นเสนาบดี ได้สายสะพายสองเส้น เมียก็ได้ไปด้วยหนึ่งเส้น ใส่สายสะพายถ่ายรูปโก้ แล้ว คนไทยได้อะไรบ้างจากวันที่ 10 เมษายน ปีนี้

การหาเสียงผู้ว่า กทม. มีสีสันมากขึ้นทุกวัน โพลทุกสำนักบอกว่าชัชชาตินำ บางสำนักบอกว่า อัศวินขึ้นมาลำดับสองแล้ว ส่วนชัชวีร์และวิโรจน์ตกลงไป ว่ากันว่าชัชชาติมีเงาของเพื่อไทยทาบอยู่ และผูกกันไว้ด้วย ส.ก. ทำให้พบเห็นปรากฎการณ์เพื่อไทยกับก้าวไกลที่สู้กันละเอียดทุกเม็ด

เวที วันที่ 10 เมษายน เมื่อเร็วๆ นี้ ต่างก็จัดคนไปร่วมด้วย ไปร่วมไม่ได้ก็ขอพูดเอาใจสักนิดนึง ช่างไม่คิดถึงใจของคนกรุงเทพที่ไม่มีสีเสื้อเสียเลย เวทีผู้ว่า กทม. มีเสน่ห์ขนาดสามารถดึงเอา ลุงสุรชัย ณ เจแปน กับเจ๊ช่อมาเถียงกันได้อย่างเจ็บแสบมันได้อารมณ์ แถมได้ดูมวยคู่คำผกากับ เจ๊ช่อ เพิ่มมาอีกหนึ่งคู่ ต้องบอกว่าด่าได้ชัดเจนถูกใจคนฟัง คู่กรณีทุกคนต่างมีเงาของการเมืองทาบทับให้เห็นการเมืองหลังฉากทั้งสิ้น

ว่ากันว่าคนกรุงเทพเกือบ 30 % ที่ยังไม่ตัดสินใจเลือกใคร คือ ผู้ชี้ชะตาตัวเต็งทั้งหลาย คนกลุ่มนี้ไม่มีสีเสื้อ รักสงบ ทำมาหากิน ใช้ชีวิตเรียบง่ายพอเพียง ลองไปแอบถามดูจะรู้ว่าทิศทางลงคะแนนจะไปที่เบอร์ใด

โฉบไปดูต่างประเทศบ้าง สงครามในยูเครนเข้าสู่เดือนที่สอง ความสูญเสียทางกายภาพที่คน ทั้งโลกเห็น ยูเครนพังยับเยิน ตึกรามบ้านช่องในหลายเมืองพังทลายย่อยยับ เป็นสิบ ๆ ปีกว่าจะฟื้น กลับคืน ชีวิตผู้คนหลายล้านต้องอพยพไปอยู่ประเทศอื่น รัสเซียลงโทษยูเครนครั้งนี้อย่างไม่ปราณี รัสเซียสูญเสียเฉพาะชีวิตทหารและยุทโธปกรณ์ ยังไม่เห็นความสูญเสียของพลเรือนทั้งบ้านเรือน ชีวิตผู้คนพลเรือน เนื่องจากยูเครนและพันธมิตรยังไม่เลือกใช้ปฏิบัติการรุกกลับทางทหาร แต่ความ เสียหายทางเศรษฐกิจ ชีวิตความเป็นอยู่มีอยู่ไม่น้อยเพราะถูกแซงชั่นหลายเรื่องด้วยกัน บทเรียนใน ยูเครนน่าจะเป็นสิ่งเตือนใจผู้คนทั้งโลก สงคราม ความรุนแรง ไม่เคยปราณีผู้ใด ไม่ว่าจะเกิดเพราะ ความขัดแย้งภายในหรือความขัดแย้งระหว่างประเทศ มนุษย์ไม่เคยมีความสุขจากสิ่งเหล่านั้น มีแต่ ผู้นำที่กดปุ่มก่อสงครามความรุนแรงที่เดือดร้อนน้อยที่สุด

สงครามในยูเครนทำให้เราได้เห็นการรบสมัยใหม่ ที่ไม่ได้อยู่เฉพาะในสมรภูมิการรบด้วยกำลังทหาร การต่อสู้ทางเศรษฐกิจ การเมือง ข้อมูลข่าวสาร การจารกรรม การปฏิบัติการลับทุกรูปแบบ และการใช้ข้อกฎหมาย สหรัฐและเนโต้ยึดนโยบายไม่ใช้กำลังทหารต่อรัสเซีย จึงหันไปใช้การสู้รบ ทุกรูปแบบที่กล่าวไว้ข้างต้น ไม่ชนะวันนี้ แต่ชีวิตต้องลำบากในวันหน้า นี่คือทิศทางที่สหรัฐใช้ จัดการต่อปูติน การทำลายปูตินที่ไม่ได้ทำลายชีวิต แต่ทำลายการดำรงชีวิต และการอยู่ในอำนาจให้ พังทลายย่อยยับในวันข้างหน้า แล้วก็อย่าคิดว่าปูตินจะอยู่เฉย ปูตินทำทั้งสองอย่างได้เวลาเดียวกัน รบด้วยกำลังทหาร และทำสงครามรูปแบบอื่นเช่นที่สหรัฐและเนโต้กระทำต่อเขา รอดูผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีฝรั่งเศส เมื่อ 10 เมษายน นายมาครง โปรตะวันตก แต่นางมารีน เลอแปง คู่แข่งสนิทสนมกับปูติน กว่าข้อเขียนนี้จะถูกนำไปเผยแพร่ เราคงทราบผลแล้ว ปูตินจะช่วยเลอแปงโค่นมาครงได้สำเร็จหรือไม่

การสังหารหมู่ที่เมือง Bucha ใกล้กรุงคีฟ (ออกเสียงตามชาวยูเครน) ต้องยอมรับว่าเกิดขึ้นจริง ทั้งหลักฐานจากภาพถ่าย การเข้าไปตรวจสอบพื้นที่ขององค์กรต่าง ๆ และสื่อมวลชน เพียงแต่ยัง ตอบคำถามชัด ๆ ไม่ได้ว่าใครกระทำ ขณะนี้ทั้งรัสเซียและยูเครน กองหนุน ต่างฝ่ายต่างกล่าวหากัน เป็นผู้ลงมือสังหารหมู่พลเรือนหลายร้อยคนเหล่านั้น สหรัฐและพันธมิตรเห็นเป็นโอกาสที่กุมสภาพ องค์การระหว่างประเทศส่วนใหญ่ไว้ได้ ใช้กรณีเมือง Bucha มัดตราสังปูตินให้จงได้ด้วยข้อหา อาชญากรสงคราม ก่อการสังหารหมู่ ละเมิดสิทธิมนุษยชน อดีตรัฐมนตรียุติธรรมและมหาดไทยของ เยอรมันยื่นฟ้องต่อศาลอาชญากรรมระหว่างประเทศไปแล้ว การเดินหน้าเรื่องนี้เกิดขึ้นพร้อม ๆ กับหน่วยข่าวกรองเยอรมัน หรือ BND ปล่อยข่าวว่าสามารถดักฟังการสื่อสารของทหารรัสเซียติดต่อเรื่องการลงมือสังหารหมู่ในเมืองนี้ หลักฐานชิ้นนี้คงถูกนำไปใช้ในศาล ส่วนรัสเซียก็ไม่ได้อยู่เฉยอีกเหมือนกัน ถ้าใครติดตามเรื่องนี้ จะเห็น Page หรือแพลตฟอร์มอื่นทั้งในต่างประเทศและในไทย เผยแพร่กรณีเมือง Bucha เป็นคุณ แก่รัสเซีย ทั้งภาพถ่าย การเรียงลำดับวันที่เวลาของเหตุการณ์ ว่ากันว่ารัสเซียลงทุนหลายร้อยล้าน เพื่อทำให้แนวรบด้านข้อมูลข่าวสารสามารถรับมือกับสหรัฐและพันธมิตรได้อย่างสมน้ำสมเนื้อ

มีอีกหลายเรื่องที่น่าสนใจของการสู้กันระหว่างสองฝ่ายในสงครามยูเครน การขับไล่นัการทูต ของกันและกันหลายสิบคนในห้วงที่ผ่านมา คนในวงการรู้ดีว่าคนที่ถูกขับออก พวกนี้ไม่ใช่นักการทูต แต่เป็นพวกสายลับที่เข้าไปล้วงตับของอีกฝ่าย ที่ไม่น่าเชื่อคือมันมีจำนวนมากมายขนาดนี้เลยหรือ แผ่นดินยุโรปมันเต็มไปด้วยสายลับเดินกันขวักไขว่เหมือนในหนังจริงจริง แล้วในกรุงเทพบ้านเราล่ะ มันจะเยอะเช่นนี้ไหม ถ้าจะให้เดาก็ต้องตอบว่าเยอะมั้ง พวกเขาอาจจะไม่ได้ทำอะไรต่อประเทศไทย แต่ความที่เป็นเสรี ไม่เข้มงวด พวกเขาคงชอบที่จะใช้บ้านเราเป็นเวทีฟาดฟันกัน สมควรศึกษาเพื่อ มาเล่าสู่กันฟังต่อไป

โดย : แกงส้ม