Here We Go 44
อยากให้ติดตามข่าวคุณประยุทธ์ไม่อยู่ ไปร่วมการประชุมสุดยอดอาเซียนสหภาพยุโรปที่ประเทศเบลเยี่ยม ที่ตั้งใจจะไปต่อยอด Bangkok Goals ว่าด้วยเศรษฐกิจ BCG ที่เพิ่งถูกนำเสนอไปเมื่อตอนการประชุมผู้นำ APEC 2022 สดๆ ร้อนๆ ที่กรุงเทพฯ
ซึ่งตรงกับที่กลุ่มสหภาพยุโรปกำหนดเป็นข้อริเริ่มที่เรียกว่า Global Gateway สำหรับสนับสนุนการลงทุนด้านคมนาคม พลังงานสะอาด ดิจิทัล สุขภาพ และการศึกษา ด้วยมูลค่ารวมประมาณ 3 แสนล้านบาท
ดูแล้วไทยก็อยู่ในความสนใจของกลุ่มประเทศยุโรปพอสมควรโดยเฉพาะการลงทุนด้านสุขภาพ เพราะผลจากการสำรวจล่าสุด ประเทศที่น่าใช้ชีวิตหลังเกษียณจากการทำงานของนิตยสารระดับโลกอย่างอินเตอร์เนชั่นแนล ลิฟวิ่ง เดือนธันวาคม 65 ไทยติดอันดับที่ 11 ของโลก และเป็นอันดับ 1 ของเอเชีย
เขาใช้ดัชนีวัดหลายตัวที่สำคัญ 2 ตัวคือ การดูแลเรื่องสุขภาพ และการใช้ชีวิตอย่างมีเสรีภาพ มีความปลอดภัยด้านชีวิต ทรัพย์สิน ความมั่นคงทางเศรษฐกิจการเงิน สถิติตัวเลขเหล่านี้ต่างประเทศเขาเก็บข้อมูลต่อเนื่อง มีหลักฐานอ้างอิง ต่างจากนักการเมืองไทยบางคนที่นึกจะยกบางเรื่องมาต่อว่ารัฐบาล ไม่เคยมีข้อมูลใดๆ มาอิงมาอ้าง
———-
จับตาฤดูกาล ส.ส.ย้ายพรรค
———-
การเมืองนอกสภาน่าจะเงียบช่วงที่คุณประยุทธ์ไม่อยู่ แต่ไม่เป็นเช่นนั้นกลับเกิดเหตุการณ์ฝุ่นตลบฟุ้งกระจายจากการที่ ส.ส.ต่างคนต่างวิ่งหาพรรคสังกัดกันใหม่
งูเห่าจากบางพรรคเริ่มแสดงตัว พร้อมจะทิ้งรังเก่าไปอยู่รังใหม่ ไม่สนว่าทางพรรคเดิมจะลงโทษอย่างไร บางคนพร้อมที่จะยื่นใบลาออกจากสมาชิกแม้จะต้องพ้นสภาพ ส.ส.ก็ตาม คงเห็นว่าอายุสภาอยู่อีกไม่นาน เวลาที่เหลือลงไปหาเสียงทำคะแนนในพื้นที่น่าจะดีกว่า
อย่าง ส.ส.ของพรรคก้าวไกล บางคนที่เตรียมจะลาออกเพราะ อยู่ไปก็ไม่สามารถทำหน้าที่ ส.ส.ของประชาชนได้ แสดงความเห็นสะท้อนความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนในสภาไม่ได้
ต้องทำตามบทที่ผู้มีอิทธิพลนอกสภาของพรรคที่ไม่ได้เป็น ส.ส.สั่งลงมา ให้พูดแต่เรื่องแก้รัฐธรรมนูญ แก้มาตรา 112 ปฏิรูปสถาบันพระมหากษัตริย์ มีแต่ ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อเท่านั้นที่ได้สิทธิพูด ไม่สนใจ ส.ส.เขตที่เขาอยากจะพูดเรื่องปัญหาปากท้องในพื้นที่
เวลาหาเสียงก็ไม่รู้จะไปเอาคะแนนจากไหน พรรคมัวแต่ไปทำเรื่องที่ไม่เป็นคะแนนในเขต คนที่หาเสียงเกาะติดในพื้นที่มานานก็ไม่ส่งลงเลือกตั้ง ไปเอาแกนนำม็อบติดคดีติดศาลมาลงแทน คนแบบนี้ใครจะเลือก นโยบายแบบนี้พรรคไหนจะชวนไปร่วมงานด้วย
หัวหน้าพรรคจะเดินไปทางไหนต้องคอยฟังคำสั่งการจากกลุ่มนักวิชาการจากโลกโซเชียล คอยดูให้ดียังมี ส.ส.เขตของก้าวไกลอีกหลายคนที่จะไม่ทนกับความอึดอัดเตรียมย้ายพรรคหนี ถ้าทนแรงเสียดทานไม่ไหวอาจเกิดรายการเผาบ้านก่อนย้าย
———-
พรรคเล็กดิ้นรนเพื่อรวมตัวกัน
———-
อีกหลายพรรคที่ต้องปรับตัวให้เข้ากับกติกาเลือกตั้งใหม่แบบหาร 100 พรรคเล็กพรรคน้อยต้องยุบไปรวมกับพรรคใหญ่ พรรคเกือบใหญ่ก็ต้องไปหาทางรวมๆ กันเพื่อให้ใหญ่กว่าเดิม ที่ว่าใหญ่คือต้องมีทั้งคะแนนจาก ส.ส.เขตเลือกตั้งและคะแนนจากบัญชีรายชื่อไม่เช่นนั้นไม่ได้ประโยชน์
เหมือนอย่างพรรคสร้างอนาคตไทยของคุณสมคิด ขาด ส.ส.เขตเลือกตั้ง อยากจะชวนพรรคไทยสร้างไทยของคุณหญิงสุดารัตน์มารวม แต่ก็ยังตกลงกันไม่ได้ว่าใครหรือพรรคไหนต้องเป็นหลักเป็นรอง
มันส่งผลกระทบต่อการเสนอชื่อบุคคลของพรรคที่จะให้เป็นนายกรัฐมนตรี เรียกว่าต่างคนต่างใหญ่ต้องการเป็นเบอร์ 1 เท่านั้น การแสวงจุดร่วมจึงไม่เกิด
ต้องดูว่าพรรคสร้างอนาคตไทยจะแก้ไขจุดอ่อนเรื่องพื้นที่เลือกตั้งของพรรคอย่างไร อาจต้องไปหาพรรคขนาดกลางเล็กที่มีพื้นที่ในมือ และแกนนำพรรคไม่ได้เป็นบิ๊กเนมเท่าคุณสมคิดเข้ามารวมแทน คงได้เห็นเร็วๆ นี้ เวลาเหลือน้อยเต็มที
ส่วนพรรคคุณหญิงสุดารัตน์ภาษีดีกว่านิดหน่อย มีคะแนนนิยมในพื้นที่อีสานและ กทม.อยู่บ้าง คะแนนจากบัญชีรายชื่อน่าจะได้พอสมควร แต่หากอยู่เดี่ยวๆ จำนวนอาจจะน้อยกว่าที่พรรคประเมินไว้
อาจต้องหาตัวช่วยบ้าง ไม่เช่นนั้นอาจมีจำนวน ส.ส.ไม่พอเสนอชื่อเป็นนายกรัฐมนตรีเหมือนกัน ไม่แน่ว่าพรรคคุณหญิงอาจได้รับเทียบเชิญเปิดดีลใหม่อีกครั้ง
———-
ประชาธิปัตย์กับการแพ้ภัยตัวเอง
———-
พรรคที่น่าเห็นใจคือพรรคประชาธิปัตย์ มีแต่เลือดไหลออก พร้อมกับการปล่อยข่าวว่าคณะกรรมการบริหารพรรคจะลาออกเพราะต้องการเปลี่ยนตัวหัวหน้าพรรค ซึ่งเป็นไปได้ยากเนื่องจากกรรมการบริหารพรรคชุดนี้เป็นคนที่หัวหน้าพรรคไว้วางใจทั้งสิ้น
หากภายในพรรคยังมีปัญหาขัดแย้งแบบนี้เลือดคงไหลออกตลอดเวลา จากพรรคที่เคยใหญ่จะกลายเป็นพรรคเล็กไป อาจจะไม่ได้เห็น ส.ส.พรรคนี้ในภาคเหนือและภาคอีสาน
อีกอันเกิดจากคนทำพื้นที่ต่างทยอยย้ายไปอยู่พรรคอื่น ภาคใต้ก็ไม่เหมือนเดิมอีก ที่ว่ากันว่าส่งเสาไฟฟ้าก็ได้รับเลือกเพราะ ส.ส.ของพรรคที่มีบารมีในพื้นที่ต่างลาออกไปลงแข่งแทน เป็นเรื่องของการแพ้ภัยตัวเองของประชาธิปัตย์
ทั้งที่มีผลงานในการร่วมรัฐบาลโดดเด่น เช่น ผลักดันนโยบายประกันราคาสินค้าเกษตรหลักๆ ชาวไร่ชาวนาลืมตาอ้าปากได้ ผลักดันการส่งออกสินค้าเกษตรได้มากเป็นประวัติการณ์แม้ในยามวิกฤตโควิด เรื่องทุจริตก็ไม่ปรากฏให้เป็นที่วิจารณ์ ถ้าไม่ใช่ปัญหาภายในก็ไม่รู้ว่าจะไปโทษใครได้อีก…
RCEP ออกผล ครบ 1 ปี การค้าไทยขยายตัว 7.11% มูลค่าการค้ารวม 10 ล้านล้านบาท เพิ่มทางเลือกให้ผู้ส่งออก-นำเข้าสินค้าได้เพิ่มเติมจาก FTA เดิม
การทูตเชิงรุก ‘เศรษฐา’ ชู ‘ทูตการค้า’ เป็นหัวหอกการส่งออก หนุนเกษตรมูลค่าสูง สินค้านวัตรกรรม ส่งเสริม Soft Power ความเป็นไทย
กทพ.จับมือ ‘หัวเว่ย’ วางโครงการสร้าง ‘ทางด่วนอัจฉริยะ’ แห่งแรกในประเทศไทย มุ่งสู่การเป็นศูนย์กลางดิจิทัลแห่งอาเซียน
ศิราวุธ ภุมมะกสิกร
อดีตวิศวกรโครงการ ระดับผู้จัดการ จบปริญญาตรีวิศวกรรมเครื่องกล จาก พระจอมเกล้าธนบุรี และ โท ด้าน Advanced Manufacturing Engineering จาก University of South Australia มีความสนใจในเรื่องประวัติศาสตร์ การเมือง และสวัสดิการสังคม