ArticlesHere We Go 41

Here We Go 41

กระแสความชื่นชมไทยเป็นเจ้าภาพจัดประชุม APEC ยังมีอยู่ต่อเนื่อง และเริ่มออกดอกผลิผลในอันที่จะเป็นประโยชน์ต่อคนไทยในอนาคตบ้างแล้วทั้งในเชิงเศรษฐกิจ อาทิ สภาที่ปรึกษาธุรกิจเอเปคเสนอตั้งกองทุนให้สมาชิกผู้ประกอบการรายย่อยและกลุ่มสตาร์ทอัพ ใช้กู้ในอัตราดอกเบี้ยต่ำสำหรับกระตุ้นเศรษฐกิจ BCG น่าจะทำให้เกิดการกระจายตัวของเม็ดเงินลงสู่ประชาชนฐานรากได้รวดเร็ว 

 

นอกเหนือจากประโยชน์เชิงสังคมและวัฒนธรรมที่ไทยได้รับมาตั้งแต่ช่วงการประชุมจากตัวแทนนำเสนอที่เป็นถึงระดับผู้นำประเทศทั้งหลายทั้งยุโรป สหรัฐ เอเชียและตะวันออกกลาง ที่มาสร้างสีสันให้ไทยช่วงการประชุมแล้ว 

 

ต้องขอชื่นชมคนไทยทุกคนจากทุกสถาบัน ไม่ว่าจะทำหน้าที่อยู่เบื้องหน้าหรืออยู่เบื้องหลังก็ตาม ที่ทำให้ประเทศไทยมีชื่อเสียงได้รับการยกย่องจากทั่วโลก หลังจากนี้หากไทยจะเป็นเจ้าภาพจัดงานระดับโลกใดๆ ก็เชื่อว่างาน APEC จะเป็นผลงานการันตีได้อย่างดี

 

———-
NGO เบื้องหลังม็อบล้ม APEC
———-

ขณะที่กลุ่มต้องการจะฉีกหน้าคุณประยุทธ์ด้วยการทำลายเกียรติภูมิประเทศทั้งที่ออกมาเบื้องหน้าและที่อยู่เบื้องหลัง ก็ต้องเตรียมรับผลของการกระทำอย่างที่เคยกล่าวในตอนที่แล้ว มากบ้างน้อยบ้างตามแต่ข้อกฎหมายจะเขียนเอาไว้ 

 

เด็กและเยาวชนที่เขาเฝ้ามองดูการประชุมยังรู้เลยว่า คนกลุ่มนี้ทำกันอย่างเป็นขบวนการเริ่มจากให้ NGO ต่างประเทศมาชวนให้กลุ่มชาวบ้านที่มีปัญหากับรัฐ รวมกลุ่มกันเดินทางมาประท้วงรัฐบาลที่กรุงเทพฯ ช่วงวันประชุม ยุยงให้นักศึกษาในต่างจังหวัดประท้วงในแต่ละจังหวัดกระจายกันเพื่อจะฟ้องสื่อต่างประเทศว่า ชาวบ้านไม่ได้มีส่วนรู้เห็นหรือได้ประโยชน์จากการประชุม ไปจัดประชุมให้ข้อมูลผิดๆ กับสมาคมผู้สื่อข่าวต่างประเทศบ้าง ไปยื่นหนังสือร้องเรียนกับสถานทูตต่างๆ บ้าง 

 

พอถึงวันจัดประชุมผู้นำก็วางแผน อ้างว่าจะพาผู้ชุมนุมไปยังที่ศูนย์สิริกิติ์พบผู้นำประเทศต่างๆ แต่ดันให้เตรียมอาวุธต่างๆ นานาพกมาด้วย แสดงว่าพร้อมที่จะปะทะกับเจ้าหน้าที่ให้เลือดตกยางออกเพื่อนำภาพนี้ไปออกสื่อต่างประเทศ แสดงให้ทั่วโลกเห็นว่าเจ้าหน้าที่ไทยทำร้ายคนไทยกันเอง 

 

ถามว่า NGO ต่างประเทศได้อะไร ตอบว่าก็เอาภาพเหล่านี้ไปขอรับเงินสนับสนุนจากองค์กรต่างๆ อีกชั้นหนึ่ง สรุปคนไทยตีกันเอง เจ็บทั้งสองฝ่าย แต่ NGO คอยรับเงินสนับสนุน ถ้าไม่เชื่อลองไปหารายงานประจำปีของ NGO อ่านดูจะได้รู้เช่นเห็นประเทศของ NGO เหล่านี้ เขายังบอกว่าทำแบบนี้ไม่ต้องกลัวความผิด เพราะรัฐบาลไทยกลัว NGO ไม่อยากมีเรื่องด้วยเกรงใจต่างประเทศ 

 

แต่มั่นใจว่ารัฐบาลคุณประยุทธ์ไม่ใช่แบบนั้น NGO ที่ดีเขาจะทำงานสร้างสรรค์ไม่ใช่มายุให้คนไทยแตกกัน และต้องชมฝ่ายเจ้าหน้าที่ที่รู้แผนเหล่านี้ก่อนจึงเตรียมรับมือได้เหมาะสมที่สำคัญเก็บภาพถ่ายคนนำ คนยุยง คนพกอาวุธไว้ได้จำนวนมาก นอกจากเป็นหลักฐานป้องกันถูกป้ายสีได้แล้ว ยังจะใช้เอาผิดหลักตามกฎหมายหลังจากนี้ได้ด้วย


———-
ฝ่ายการเมืองที่แสวงประโยชน์จากม็อบ
———-

ยังมีนักการเมืองที่แอบหลังม็อบอีกกลุ่มที่ต้องพูดถึง ชอบออกมาพูดสนับสนุน ยุแหย่ อ้างสิทธิเสรีภาพ แต่ไม่มาออกปะทะ คอยเก็บเกี่ยวประโยชน์จากเหตุการณ์ มาร้องมาโจมตีรัฐบาลคุณประยุทธ์ในสภา สร้างวาทะกรรม หาว่าเจ้าหน้าที่ใช้ความรุนแรงบ้าง ไม่เคารพสิทธิประชาชนบ้าง ไม่ปฏิบัติตามมาตรการสากลบ้าง 

 

ก็ดีเหมือนกัน จะได้ถือโอกาสสังคายนากฎหมายการชุมนุมในที่สาธารณะกันซะเลยว่าใครกันที่ไม่ทำตามข้อกฎหมายที่มีอยู่ ใครกันต้องเป็นผู้ที่รับผิดชอบต่อความเสียหายที่เกิดขึ้น โยงเอาความผิดกับคนที่เกี่ยวข้องให้หมด 

 

ไม่ใช่จะท่องแต่คำว่าเป็นม็อบที่ไม่มีผู้นำๆ กฎหมายจะได้ศักดิ์สิทธิ์เป็นไปตามหลักประชาธิปไตยที่ชอบอ้างกัน เพราะการชุมนุมในลักษณะนี้จะเกิดขึ้นอีกเป็นระยะๆ ให้นักการเมืองบางพรรคมาเก็บเกี่ยวประโยชน์ไว้หาเสียง เอาไปโจมตีว่ารัฐบาลไม่เป็นประชาธิปไตยจึงต้องเปลี่ยนแปลงประเทศ

 

พูดเรื่องการเปลี่ยนแปลงประเทศแล้วอยากสะท้อนให้เห็นว่ามีคนต่างประเทศจำนวนมากต้องการที่จะมาเที่ยวมาอยู่ประเทศไทยจนถูกจัดอันดับต้นๆ ของโลกหลายสถาบัน 

 

แต่มีพรรคการเมืองบางพรรคร่วมกับกลุ่มการเมืองแสดงท่าทีชัดเจน ที่ต้องการเปลี่ยนแปลงประเทศแบบพลิกฟ้าคว่ำแผ่นดินด้วยการใช้ข้อมูลที่บิดเบือนประวัติศาสตร์ ใช้คำว่าเป็นประวัติศาสตร์ในแบบของกลุ่มการเมืองที่ค้นหามาเองอย่างปราศจากหลักฐานรองรับ ตระเวนเปิดโรงเรียนอบรมประวัติศาสตร์ชาติไทยแนวใหม่ให้กับเยาวชนที่รับสมัครผ่านสื่อออนไลน์เท่านั้น 

 

จากนั้นก็คัดเด็กเหล่านี้ไปอบรมแบบลับๆ ยึดโทรศัพท์ไม่ให้ติดต่อกับโลกภายนอก ใครไม่เชื่อฟังคัดออก เหมือนเป็นการล้างสมองเยาวชนยัดเยียดลัทธิอื่นเข้าไป หลังจากนั้นจะสร้างให้เยาวชนกลุ่มนี้เป็นเครือข่ายกระจายกันทำงานเปลี่ยนแปลงประเทศต่อไป 

 

ทำให้ต้องมาตั้งคำถามว่า เราจะปล่อยให้กลุ่มคนเหล่านี้ใช้ข้อมูลโกหกบิดเบือนเพื่อขับเคลื่อนประเทศอย่างนั้นหรือ การให้ข้อมูล fake news ต่อสาธารณะเพื่อประโยชน์ส่วนตัวยังมีความผิดตามกฎหมาย แต่กลุ่มนี้กำลังจะสร้างความแตกแยกในประเทศยังลอยนวลอยู่ได้ 

 

ถึงเวลาที่จะต้องหามาตรการมารองรับหรือยัง หลายประเทศในอาเซียนเขามีกฎหมายเอาผิดเรื่องนี้อย่างจริงจังเพื่อตัดไฟแต่ต้นลมถ้ารู้ว่าเป็นภัยต่อประเทศ ขณะที่ไทยยังปล่อยเฉย กลัวว่าจะเข้าสุภาษิตกว่าถั่วจะสุกงาก็ไหม้พอดี 


———-
บรรยากาศการเมืองหลัง APEC
———-

​หลังเสร็จสิ้นเอเปคอย่างประสบความสำเร็จแล้ว บ้านเมืองของเราก็เข้าสู่บรรยากาศ การเมืองเข้มข้นทันที ที่เคยคาดการณ์ไว้ว่าหลังเอเปคคุณประยุทธ์จะยุบสภา ก็ทำท่าว่าจะไม่ยุบเสียแล้ว 

 

ดูท่าทีคุณประยุทธ์น่าอยู่ยาวไปจนถึง 23 มีนาคม 2566 ที่สภาผู้แทนครบวาระหรืออาจก่อนหน้านั้นไม่นาน เพื่อให้เกิดการย้ายพรรคได้ทันตามกรอบเวลาที่กฎหมายกำหนด ที่สำคัญ คุณประยุทธ์จะเล่นการเมืองต่อหรือจะเป็นนายกรัฐมนตรีอีกสมัยแน่ๆ 

 

เพราะปัจจัยหลัก ปัจจัยแวดล้อมเอื้อต่อคุณประยุทธ์มากขึ้น มิติด้านต่างประเทศที่จะเป็นอุปสรรค ไม่ได้รับการยอมรับ น่าจะ ไม่มีแล้ว เอเปคพิสูจน์แล้วว่า ประชาคมระหว่างประเทศยอมรับคุณประยุทธ์ตราบใดที่เข้ามาตามวิถีประชาธิปไตย ไม่ปฏิวัติรัฐประหาร และการวางตัวและทำหน้าที่ระหว่างเป็นประธานการประชุมทำได้สมบูรณ์แบบ 

 

การที่ทุกเขตเศรษฐกิจเอเปคมีฉันทามติรับรอง Bangkok Goals ที่เป็นหัวใจของการประชุมเป็นสิ่งพิสูจน์ตัวคุณประยุทธ์ รัฐบาล และทีมงาน พูดกันอย่างไม่มีอคติ คุณประยุทธ์ บริหารจัดการบรรยากาศการประชุมเอเปคได้โดดเด่นกว่าเวทีอาเซียน และ G 20

 

———-
จับตารวมไทยสร้างชาติกับอนาคตคุณประยุทธ์
———-

เหลือมิติภายในประเทศ ดูโพลสำนักต่างๆ คะแนนนิยมอาจไม่ค่อยสวยงาม แต่คะแนนนิยมจริงต่อคุณประยุทธ์ที่ไม่ได้อยู่ในโพล ไม่อาจมองข้าม 

 

เพราะเอาเข้าจริงๆ เมื่อถึงเวลาหย่อนบัตร เลือกตั้ง เมื่อคนคิดเปรียบเทียบ มองหาผู้นำของเขา เอาคนที่มีชื่อเป็นแคนดิเดทนายกมาเข้าแถว จะมีใครบริหารประเทศหรือนำพาประเทศได้ดีกว่ากัน อาจไม่ใช่อย่างที่โพลสำรวจไว้ก็ได้ 

 

อีกปัจจัย คือตัวคุณประยุทธ์เองยังไม่ประกาศชัดๆ ว่าจะเอาอย่างไรกับอนาคตทางการเมือง ถ้าเลือกที่จะไปอยู่กับพรรคใหม่ มีใครจะเดินตามไปอยู่ด้วย บิ๊กเนมขนาดไหน จำนวนเท่าไร เสียงตอบสนองในสังคมเป็นอย่างไร ตรงนี้น่าคิดอย่างยิ่ง 

 

ข้อมูลวงในเขาบอกว่า รวมไทยสร้างชาติกำลังคึกคักเป็นอย่างยิ่ง ภาคกลาง ภาคตะวันออก กรุงเทพฯ ภาคใต้ สูสีไม่แพ้ใครง่ายๆ ที่จะเป็นรองมากๆ ก็ภาคเหนือกับอีสาน แต่ภูมิใจไทยคงไม่ปล่อยให้เพื่อไทยชนะแบบแผ่นดินถล่มได้ง่ายๆ ดูดีลการเมืองที่กำลังทำกันอยู่ในวันนี้ แนวโน้มการเมืองจะเป็นสองค่ายเหมือนเดิมในการเลือกตั้งสมัยหน้า 

 

พรรคร่วมรัฐบาลสมัยนี้เป็นอย่างไร สมัยหน้าก็จะเป็นอย่างนั้น สิ่งที่ต่างกันอยู่บ้างมีนิดเดียว จะมีพรรคใหม่เข้ามาร่วมรัฐบาลมากขึ้น การเมืองทุกประเทศในโลกนี้มีความเหมือนกัน การเมืองหน้าม่านกับการเมืองหลังม่านมักจะต่างกันอย่างสิ้นเชิง จะอ่านการเมืองให้ขาดต้องเห็นการเมืองหลังม่านด้วย ว่ากันว่าคุณประยุทธ์เห็นการเมืองหลังม่านชัดเจน เพราะดีลด้วยตนเองหรือส่งคนอื่นไปดีลบ้าง แต่รู้เห็นทั้งหมด


———-
คำตัดสินศาล รธน.
———-

สิ้นเดือนนี้เราจะรู้แล้วว่ากฎหมายเลือกตั้ง ส.ส.จะขัดรัฐธรรมนูญหรือไม่ ศาลรัฐธรรมนูญ ท่านนัดฟังคำวินิฉัยแล้ว ถ้าศาลชี้ว่าไม่ขัด เราก็จะมีกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญครบถ้วน ทั้งเรื่องพรรคการเมืองและการเลือกตั้ง ส.ส. การจัดเลือกตั้งจะไม่มีอุปสรรค ยุบสภาเมื่อไรก็ได้ อยู่ให้ครบวาระก็ได้ 

 

แต่ถ้าศาลชี้ว่าขัดรัฐธรรมนูญ อันนี้จะเป็นปัญหาทันที ต้องทำกฎหมายเลือกตั้ง ส.ส.ใหม่ หรือไม่ ถ้าต้องทำใหม่จะทำอย่างไร จะทำทันเวลาก่อนสภาผู้แทนครบวาระหรือไม่ 

 

มีประเด็นให้ทั้งตื่นเต้นและปวดหัว ทั้งคนเล่นและคนดูรอความชัดเจน พอเรื่องนี้ชัดเจนเราอาจได้เห็นการปรับ ครม. ที่มีตำแหน่งว่างอยู่ และคุณประยุทธ์อาจเปลี่ยนบางคนออก มีตัวเลือกใหม่เข้ามา ใครเป็นตัวเลือกใหม่ที่เข้ามา ก็อาจจะบอกถึงอนาคตการเมืองของคุณประยุทธ์ได้ว่าจะไปทางใด 

 

มีบางพรรคสรุปไว้แล้วว่า คุณประยุทธ์จะไปต่อ จะเป็นแคนดิเดทนายกของรวมไทยสร้างชาติไม่ใช่พลังประชารัฐ จะมี ส.ส. นักการเมือง ตามคุณประยุทธ์ไปหลายคน พรรคร่วมรัฐบาลจะเคลียร์ความขุ่นข้องหมองใจกันได้โดยคุณประยุทธ์เข้ามาไกล่เกลี่ยให้ 

 

พรรคก้าวไกลจะเดินหน้าแก้ไขมาตรา 112 เพราะถูกคุณปิยบุตรตำหนิว่าไม่เอาจริง ทำไปครึ่งๆ กลางๆ แค่จะหาเสียงกับคนรุ่นใหม่เท่านั้น พอถูกครูดุ คุณพิธาเลยต้องออกมารับลูกรับปากว่าจะเดินหน้าแก้มาตรา 112 จริงๆ ไม่ใช่ทำเล่นๆ เลยไม่รู้ว่า ใครเป็นหัวหน้าพรรค ใครเป็นว่าที่นายกรัฐมนตรี หรือใครเป็นครู ใครเป็นเด็กนักเรียน

 

#TheStrutureColumnist

#เอเปค #ม็อบ #กฎหมายเลือกตั้งสส

อดีตวิศวกรโครงการ ระดับผู้จัดการ จบปริญญาตรีวิศวกรรมเครื่องกล จาก พระจอมเกล้าธนบุรี และ โท ด้าน Advanced Manufacturing Engineering จาก University of South Australia มีความสนใจในเรื่องประวัติศาสตร์ การเมือง และสวัสดิการสังคม

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    คุกกี้ที่มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้งานเว็บไซต์ได้อย่างเป็นปกติ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณ เพื่อให้เราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมและความสนใจของคุณ

บันทึกการตั้งค่า