Here We Go 87 จากบทเรียนโครงการ ‘จำนำข้าว’ ถึงนโยบายแจก ‘เงินดิจิทัล 10,000 บาท’ เส้นทางที่อาจพาประเทศไปสู่ความเสี่ยงครั้งใหม่

ภายในประเทศมีเรื่องแจกเงินดิจิทัล 10,000 บาทจะเป็นเรื่องที่ได้รับความสนใจจากทุกหมู่เหล่ามากที่สุด เป็นนโยบายที่ทุกโพลสำรวจระบุว่าประชาชนให้ความสนใจและต้องการที่สุด ซึ่งเป็นธรรมดาที่ทุกคนอย่างจะได้เงินจากรัฐมาใช้ดำรงชีวิตจึงเป็นเรื่องที่คุณเศรษฐาถอยหรือถอนนโยบายนี้ไม่ได้ 

ท่ามกลางกระแสเรียกร้องนี้ ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่ามีกระแสไม่เห็นด้วยกับนโยบายนี้ด้วยเช่นกัน และนับวันจำนวนจะมากขึ้นด้วยทั้งนักวิชาการ นักเศรษฐศาสตร์ อดีตขุนคลังของประเทศ อดีตผู้ว่าการ ธปท.หลายคน รวมทั้งผู้ว่าการคนปัจจุบันที่ต่างออกมาเข้าชื่อแสดงความไม่เห็นด้วยในจดหมายยื่นต่อคุณเศรษฐา 

ดูเหมือนว่ายิ่งคุณจุลพันธ์ออกมาให้ความเห็นตอบข้อสงสัยถึงแหล่งเงินที่จะนำมาใช้ ซึ่งทั้งหมดยังไม่ชัดเจน วิธีการใช้จะทำได้ในพื้นที่ไหน ใกล้ ไกลมากน้อยแค่ไหนก็ยังไม่ชัดเจน จำเป็นแค่ไหนที่ต้องแจกทุกคน ไม่ว่ารวยหรือจนได้หมดก็ยังไม่ชัดเจน เงินจะหมุน 4-5 รอบได้อย่างไรก็ไม่ชัดเจน ใครเป็นคนคุมระบบบล๊อคเชนก็ยังไม่รู้  

รัฐบาลมีแต่ไทม์ไลน์ว่าเงินจะเข้าเมื่อไร โครงการจะเริ่มวันไหนเท่านั้น ผลที่ตามมาคือเสียงคัดค้านยิ่งดังมากขึ้น ไม่เฉพาะนักเศรษฐศาสตร์คนไทยเท่านั้นที่ประเมินว่าโครงการ นี้มีความเสี่ยงที่อาจทำให้เครดิตด้านการเงินการคลังของประเทศไทย ลดลง ทั้งที่ไทยมีเงินทุนสำรองระหว่างประเทศและมีทองคำสะสมเป็นทุนสำรองระหว่างประเทศอันดับต้นๆของโลก

เสียงสะท้อนของนักวิเคราะห์ทางเศรษฐศาสตร์ของไทยหลายคนที่แสดงออกถึงความไม่เห็นด้วยข้างต้น ทำให้นักลงทุนทั้งไทยและต่างชาติไม่มั่นใจแสดงออกด้วยการเทขายหุ้นและเงินบาทกลับไปถือเงินสกุลอื่น ทำให้ค่าเงินบาทไทยอ่อนลงมากและเป็นไปอย่างต่อเนื่อง  

น่าแปลกใจว่า ยิ่งใกล้วันเริ่มโครงการเงินบาทยิ่งอ่อนลงๆ ค่าเงินที่อ่อนลงแบบไร้เสถียรภาพเป็นสัญญาณที่นักลงทุนไม่ชอบ เพราะคำนวณต้นทุนสินค้าไม่ได้ ผลลบจากโครงการไม่อยากให้กลายเป็นจุดอ่อนที่ทำให้ทุนใหญ่ต่างชาติเข้ามาทำลายเศรษฐกิจของไทยเหมือนตอนเหตุการณ์ต้มยำกุ้ง 

ซึ่งตอนนั้นร่ำลือกันว่านักการเมืองคนหนึ่งที่ถูกระบุว่าได้รับประโยชน์จากการปล่อยค่าเงินบาทลอยตัวก็มาจากพรรคเพื่อไทยแต่คนไทยส่วนใหญ่ลำบากทั่วหน้า

—

พรรคเพื่อไทยเคยมีบทเรียนการผลักดันโครงการแบบหัวชนฝาลักษณะนี้ทั้งที่มีนักเศรษฐศาสตร์ทั้งหลายออกมาเตือนถึงผลกระทบอยู่แล้วคือโครงการรับจำนำข้าว ผลคือจนถึงเวลานี้คนไทยยังใช้หนี้ไม่หมด เข้าทำนอง ประเทศเจ๊งไม่ว่า ขอให้พรรคข้าได้หน้าไว้ก่อน

ระงับโครงการคงทำได้ยากแต่โจทย์คือทำอย่างไรที่คุณเศรษฐา จะสร้างความมั่นใจให้ทุกภาคส่วนเชื่อมั่นต่อโครงการนี้ที่จะไม่ทำให้ประเทศสูญเสียความมั่นคงทางเศรษฐกิจในอนาคต และคนไทยจะได้ประโยชน์ถ้วนหน้า คุณเศรษฐาบอกว่าเดิมพันครั้งนี้พรรคเพื่อไทยเทหมดหน้าตัก หากพรรคเพื่อไทยจะพังก็ให้พังเฉพาะพรรค  อย่านำประเทศไปเสี่ยงด้วยเลย

หลังจากนี้คงจะได้เห็นชาวบ้าน ชาวนา ชาวไร่จากพื้นที่ของ ส.ส. พรรคเพื่อไทย ทยอยเดินทางมาแสดงพลังความต้องการให้รัฐบาลเร่งเดินหน้าโครงการแจกเงินดิจิทัลเป็นแน่ ถ่วงดุลเสียงสะท้อนที่ไม่เห็นด้วยของนักวิชาการทั้งหลายที่ไม่เคยเข้าใจความรู้สึกคนยากคนจน สร้างความชอบธรรมทางการเมืองให้พรรคเพื่อไทยทำโครงการนี้ให้สำเร็จ