Here We Go (84) ความวัวไม่ทันหาย ความควายเข้ามาแทรก วังวนปัญหาสารพัดของก้าวไกล

ภาพรวมของบ้านเมืองเราได้เห็นรัฐบาลที่ขับเคลื่อนโดยนายกรัฐมนตรีที่เป็นนักธุรกิจ นักเรียนนอก คิดเร็ว ทำเร็ว เชื่อมั่นตัวเอง เรื่องราวของบ้านเมืองจึงเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว มีทั้งเสียงสนับสนุน เสียงวิจารณ์ เสียงคัดค้าน มีทั้งบวกและลบต่อตัวนายกและรัฐมนตรี 

เป็นเรื่องดีที่สิ่งเหล่านั้นเกิดขึ้นในสภา ในสื่อมวลชน หรือโลกออนไลน์ โดยไม่มีม็อบออกมาปั่นป่วนบนท้องถนนให้รัฐบาลต้องหนักใจ น่าติดตามดูต่อไป เพราะคุณเศรษฐาดูแลงานด้านความมั่นคงด้วยตัวเอง ลำพังเรื่องรุกงานเศรษฐกิจ ก็หนักหนาแล้วถ้ามีประเด็นความมั่นคงมาให้เป็นภาระอีก ก็น่าจะปวดหัวมากขึ้น 

แต่ดูการจัดกระบวนท่าของ ครม. คิดว่าคุณเศรษฐาหวังพึ่งคุณสุทิน คลังแสง รมว.กลาโหม หากประเด็นความมั่นคงหรือม็อบทะลุอะไรทั้งหลายร้อนแรงขึ้นมา เพราะที่ปรึกษาและเลขา รมว. เป็นบิ๊กทหาร อดีตเลขาธิการ สมช. ทั้งสองคน เชี่ยวชาญการบริหารจัดการงานความมั่นคงทั้งในและต่างประเทศ 

เอาเป็นว่าตอนนี้พอสบายใจได้กับบ้านเมืองโดยรวมๆ รอรับเงิน(ทิพย์)คนละ 1 หมื่นบาทถ้ารัฐบาลเคลียร์กับแบ๊งค์ชาติกระทรวงการคลัง รวมทั้งกฤษฎีกาได้เรียบร้อยแล้ว


—

ที่น่าสนใจคือพรรคก้าวไกลได้หัวหน้าพรรคคนใหม่แล้วเป็นคุณชัยธวัช คนที่อุดมการณ์การเมืองเข้มข้นเหมือนคุณธนาธรและคุณปิยบุตร คนที่มีบุคลิกเงียบขรึม ลึกซึ้ง ไม่สร้างภาพ ไม่ทำตัวเป็นเซเลป จะทำให้บุคลิกของพรรคก้าวไกลเปลี่ยนไปจากยุคคุณพิธา ความเข้มข้นในอุดมการณ์ จุดยืน จะมีมากขึ้น 

อย่างน้อยก็ได้เห็นในงาน “ก้าวต่อไป ก้าวไกลทั้งแผ่นดิน” เมื่อวันที่ 24 กันยายน คุณชัยธวัชขึ้นเวที จัดเต็มวิพากษ์อย่างเผ็ดร้อนต่อกองทัพ ตุลาการภิวัฒน์ อำนาจนอกระบบที่เหนือการเมือง การตั้งรัฐบาลที่สยบยอมต่ออำนาจที่เหนือประชาชน ทุนผูกขาด นิติรัฐแบบอภิสิทธิ์ชน การเมืองของชนชั้นนำ และประกาศจะเอาชนะสิ่งเหล่านั้นด้วยการขยายสมาชิกให้เพิ่มมากขึ้นอย่างจริงจัง ตรวจสอบรัฐบาลอย่างเข้มข้น ตรึงพื้นที่เก่ารุกพื้นที่ใหม่ ผลักดันรัฐธรรมนูญฉบับประชาชนที่อำนาจสูงสุดเป็นของราษฎรทั้งหลาย 

นั่นหมายความว่า อบต. อบจ. ผู้ว่า กทม. การเมืองระดับชาติ สว. สส. จะทำให้เกิดก้าวไกลทั้งแผ่นดิน และทำให้ประเทศไทยเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญ นี่คือสัญญาณเตือนจากพรรคก้าวไกล ไม่รู้ว่าคำเตือนนี้จะดังไปถึงพรรคเพื่อไทยและพรรคอื่นๆ หรือเปล่า หรือยังมัวหลงระเริงอยู่กับชัยชนะในวันนี้

—

แต่ถ้าจะมีพรรคการเมืองไหนตอนนี้เหมือนกับสำนวนไทยที่ว่า ความวัวยังไม่ทันหาย ความควายเข้ามาแทรก ก็คงต้องบอกว่าเป็นพรรคก้าวไกลนี้แหละ ความวัวก็เรื่องของคุณปดิพัทธ์ที่ยกพรรคพวก  สส.ก้าวไกลไปสิงคโปร์โดยใช้งบประมาณของรัฐสภาแบบเต็มเพดาน บินหรู อยู่แพง พร้อมเบี้ยเลี้ยงแถมอีก 

ทำให้คำ “ภาษีกู” กระจายไปทุก platform   บอกว่าเป็นการดูงาน แต่ไม่มีใครเชิญ งานนี้นักสืบโซเชียลตามคุ้ยกันสนุก ดูงานกันที่ไหนแน่ หรือไปศึกษาชิมลางเทศกาลงานเบียร์ที่สิงคโปร์ คงต้องติดตามดูผลการศึกษาดูงานที่ต้องนำมาแจ้งต่อรัฐสภาหลังจากนี้ว่าประชาชนจะได้ประโยชน์อะไร  รัฐสภาจะได้ประโยชน์อะไร หรือมีเฉพาะธุรกิจเบียร์บางรายได้ประโยชน์เท่านั้น 

จะว่าไปการทำหน้าที่ของคุณปดิพัทธ์ในบทบาทของรองประธานสภาต่อที่ประชุมยังไม่เห็น ยังไม่เป็นที่จดจำเลย แต่บทบาทนอกห้องประชุมทั้งโฆษณาเบียร์ท้องถิ่น เลี้ยงหมูกระทะพนักงาน ยกพวกทัวร์สิงคโปร์ล้วนเป็นที่ถูกวิจารณ์จดจำมากกว่า ต้องดูต่อไปว่าพรรคก้าวไกลจะส่งสัญญาณหยุดความร้อนแรงของคุณปดิพัทธ์อย่างไร

ความควายที่ตามมาก็เรื่องพฤติการณ์ล่าแม่มดของคุณอมรัตน์สมาชิกพรรคก้าวไกลที่บังเอิญมีตำแหน่งเป็นที่ปรึกษาคุณปดิพัทธ์อีก ทำให้ทุกคนตั้งข้อสงสัยถึงอุดมการณ์ความเป็นประชาธิปไตยของพรรคก้าวไกลเป็นของแท้หรือของเทียม 

เป็นที่รู้กันโดยทั่วไปว่าพฤติกรรมทางการเมืองของคุณอมรัตน์ที่ผ่านมามักชอบใช้คำรุนแรงหรือหลายครั้งถือได้ว่าหยาบคาย ด่าทอ โจมตีฝ่ายที่ไม่ใช่พวกของตน ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายประชาธิปไตยหรือไม่ก็ตาม หลายครั้งออกมายุยง ยุแหย่เด็ก เยาวชนตามม๊อบ แต่ตัวเองไม่ออกเดินหน้าสู้มักจะหลบไปอยู่ข้างหลังเสมอ 

การสร้างความแตกแยกคืองานหลักของเธอโดยแท้ พฤติกรรมชี้เป้าคนที่มีความคิดเห็นไม่ตรงกันเพื่อให้เหล่าสาวกตามไปก่อกวนทั้งทาง on ground และ online ไม่ต่างอะไรกับผู้มีอิทธิพลที่ส่งสัญญาณให้ลูกสมุนจัดการกับคนกระด้างกระเดื่องเช่นกัน คิดว่าคุณปดิพัทธ์จะจัดการกับที่ปรึกษาคนนี้อย่างไร

ความควายอีกเรื่องคือประเด็นที่คุณช่อ พรรณิการ์ถูกตัดสิทธิทางการเมืองตลอดชีวิตอันเนื่องมาจากแสดงพฤติกรรมที่ไม่เคารพเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ซึ่งไม่เป็นไปตามรัฐธรรมนูญและมาตรฐานทางจริยธรรมที่กำหนด เรื่องนี้ส่งผลกระเทือนรุนแรงต่อพรรคก้าวไกลเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้คุณปิยบุตรผู้นำจิตวิญญาณพรรคถึงกับต้องประกาศเลิกยุ่งเกี่ยวกับพรรคก้าวไกลเพราะถูกทัวร์ลงอันเนื่องมา

จากเข้าไปกระตุ้นให้สมาชิกพรรคออกมาปกป้องคุณช่อ พรรณิการ์ ส่วนการจะวิพากษ์วิจารณ์ศาลว่าทำถูกต้องหรือไม่ อยากให้คุณฝ่ายตั้งสติและกลับไปอ่านทำความเข้าใจกับคำวินิจฉัยให้ละเอียดก่อน แล้วมาตรองดูว่าที่ผ่านมาคุณช่อมีเจตนาไม่เคารพเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์จริงหรือไม่ 

กรรมเป็นเครื่องส่อเจตนา ทุกอาชีพต่างก็มีมาตรฐานทางจริยธรรมด้วยกันทั้งนั้น ถ้าประเทศไทยอยากมีการเมืองที่ดีเราต้องมีนักการเมืองที่มีมาตรฐานทางจริยธรรมที่สูงกว่าคนทั่วไปเช่นกัน

สรุปของสัปดาห์นี้คือ รัฐบาลกำลังไล่ล่าความฝันที่จะต้องทำให้เป็นจริง ส่วนพรรคก้าวไกลกำลังถูกกรรมที่เป็นผลจากการกระทำของตัวเองในอดีตไล่ล่า