อากงจุนเจ้าของพัดลม ‘ฮาตาริ’ ผู้บริจาค 900 ล้านให้มูลนิธิรามาฯ
เมื่อวันอังคารที่ 26 ก.ค.ที่ผ่านมา ปรากฏเรื่องราวประทับใจในโลกออนไลน์ เมื่อ “จุน วนวิทย์” เจ้าของแบรนด์พัดลมไทย “ฮาตาริ” และครอบครัว ได้บริจาคเงิน 900 ล้านบาทให้กับมูลนิธิรามาธิบดีฯ เพื่อนำไปพัฒนาการแพทย์
โดยจำนวนเงิน 900 ล้านบาท แบ่งเป็นเพื่อโครงการโรงเรียนพยาบาลรามาธิบดี 160 ล้านบาท โครงการรามาธิบดีศรีอยุธยา 300 ล้านบาท โครงการนวัตกรรมโยธี 440 ล้านบาท
ประวัติของ “อากงจุน” หรือ “จุน วนวิทย์” ซึ่งปัจจุบันอายุ 86 ปี เริ่มต้นวัยเด็กด้วยชีวิตที่ลำบาก ไม่มีโอกาสเรียนหนังสือ จึงจบการศึกษาแค่ชั้น ป.2 แต่ด้วยความวิริยะ อุตสาหะ พยายามขวนขวาย แสวงหาความรู้ เพื่อเอาตัวรอดให้ได้
จุน วนวิทย์ในวัย 17 ปี ได้ออกมาขับแท็กซี่ แล้วจึงเริ่มต้นมาเป็นลูกจ้างร้านทอง จากนั้นจึงมาเป็นช่างทำโมล ทำของเล่น และอะไหล่พัดลม หลังจากฝึกฝนทักษะช่างมาพอสมควร จึงได้เริ่มตัดสินใจทำพัดลมทั้งตัว เมื่อปี 2528 ภายในแบรนด์ชื่อ “k” และ “Tory” ตามลำดับ
เมื่ออายุ 52 ปี ได้ก่อตั้ง บริษัท ฮาตาริ อิเลคทริค จำกัด เพื่อดำเนินกิจการรับจ้างผลิตพัดลมให้กับแบรนด์จากประเทศญี่ปุ่น ต่อมาจึงได้ตัดสินใจสร้างแบรนด์พัดลมของตัวเองขึ้นมาโดยใช้ชื่อแบรนด์ว่า Hatari
ฮาตาริ เติบโตขึ้นเรื่อยๆ จนขยายกิจการไปสู่เครื่องฟอกอากาศ และเครื่องซักผ้าขนาดเล็กออกสู่ตลาด ทำยอดขายทั้งขายในประเทศและส่งออก ได้ปีละหลายพันล้าน โดยกินส่วนแบ่งตลาดพัดลมกว่า 80% ในประเทศไทย
แม้ว่าจะจบการศึกษาแค่ชั้น ป.2 แต่ด้วยการที่ประสบความสำเร็จทางธุรกิจและมีจิตใจดีงามช่วยเหลือผู้คน ที่ประชุมสภามหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง จึงมีมติเป็นเอกฉันท์ ให้นายจุน วนวิทย์ ได้รับพระราชทานปริญญาปรัชญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขาวิชาบริหารธุรกิจ เมื่อวันที่ 18 มกราคม พ.ศ. 2555
“อากงจุน” เป็นต้นแบบของคนไทยเชื้อสายจีน ที่สร้างตัวจากเสื่อผืนหมอนใบจนกลายเป็นมหาเศรษฐี โดยเป็นคนที่มุ่งมั่นทำงาน มีนิสัย สมถะ ประหยัด เรียบง่าย เสมอต้นเสมอปลาย แม้จะมีฐานะร่ำรวย แต่ของแพงที่สุด คือ นาฬิกาข้อมือ ราคา 2, 000 บาท ไม่เคยใส่ Brand Name ไม่มีรถสปอร์ต ไม่มีเรือยอชต์ หรือเครื่องบินส่วนตัว
ที่ผ่านมา “อากงจุน” และครอบครัวได้บริจาคทำบุญให้กับสังคมมาอย่างต่อเนื่อง โดยได้บริจาคทรัพย์สิ่งของให้กับโรงพยาบาลต่าง ๆ บริจาคสร้างศูนย์วิปัสสนา และมอบเงินอุดหนุนให้แก่ยุวพุทธิกสมาคม ช่วยเหลือผู้ด้อยโอกาสอยู่เป็นประจำ
นอกจากนี้ยังให้การจุนเจือครอบครัวของพนักงาน ด้วยการให้ทุนการศึกษาแก่บุตร และมอบเครื่องอุปโภคให้เป็นประจำทุกปี
โดยครั้งนี้ว่ากันว่า อากงจุน ซึ่งอายุถึง 86 ปี คิดว่าเป็นวาระสุดท้ายของชีวิต จึงอยากจากไปอย่างสบาย ไม่อยากยึดติดกับทรัพย์สินใดๆ จึงนำเงินส่วนตัวทั้งหมดที่มีมาบริจาคคืนให้สังคม เพื่อช่วยเหลือประชาชนที่เจ็บป่วย และพัฒนาวงการแพทย์และพยาบาลไทยสืบต่อไป
สถานทูตจีนแถลง สหรัฐฯ กำลังใช้กรณีไต้หวันยั่วยุและชะลอการพัฒนาของจีน
ฟรีวีซ่าได้ผล นักท่องเที่ยวจีนเพิ่ม 113% ทอท. ทำกำไร 6 เดือน 1 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้นเกือบ 370%
ตรึงค่าไฟบ้าน ม.ค.-เม.ย. ปี 66 อยู่ที่ 4.72 บาทต่อหน่วย ส่วนอุตฯ กระอัก โดน 5.69 บาทต่อหน่วย
ศิราวุธ ภุมมะกสิกร
อดีตวิศวกรโครงการ ระดับผู้จัดการ จบปริญญาตรีวิศวกรรมเครื่องกล จาก พระจอมเกล้าธนบุรี และ โท ด้าน Advanced Manufacturing Engineering จาก University of South Australia มีความสนใจในเรื่องประวัติศาสตร์ การเมือง และสวัสดิการสังคม