Uncategorizedฟ้องคดี “โฮปเวลล์” คมนาคมลุยเอง ยื่นศาลปกครอง ฟ้องนายทะเบียนหุ้นส่วนบริษัท

ฟ้องคดี “โฮปเวลล์” คมนาคมลุยเอง ยื่นศาลปกครอง ฟ้องนายทะเบียนหุ้นส่วนบริษัท

“คมนาคม” ยื่นเองฟ้องนายทะเบียนเพิกถอนการจดทะเบียนจัดตั้ง “บ.โฮปเวลล์” หลังศาลปกครองสูงสุดไม่รับคำฟ้องของ รฟท.เหตุเกินเวลา “ศักดิ์สยาม” เผยคมนาคมใช้สิทธิในฐานะผู้เสียหายสู้ในประเด็นเดิมและยังอยู่ในเงื่อนเวลา


นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยถึงความคืบหน้าในการดำเนินการเกี่ยวกับข้อพิพาทโฮปเวลล์ว่า ในส่วนของคดีปกครองที่การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ได้มอบอำนาจให้นายนิติธร ล้ำเหลือ ยื่นฟ้องนายทะเบียนหุ้นส่วน บริษัทกรุงเทพมหานคร ต่อศาลปกครองกลาง จากเหตุที่ไม่เพิกถอนทะเบียนจัดตั้ง บริษัทโฮปเวลล์ (ประเทศไทย) จำกัด ที่กระทำผิด ปว.281 ซึ่งล่าสุดศาลปกครองชั้นต้นไม่รับฟ้องคดี เนื่องจากเกินเวลา 90 วันตามที่กำหนด

ทั้งนี้ ในคำตัดสินบอกว่ามี รฟท.และกระทรวงคมนาคมเป็นผู้เสียหาย ซึ่งที่ผ่านมากระทรวงคมนาคมยังไม่ได้ใช้สิทธิ ดังนั้น จะใช้สิทธิดำเนินการฟ้องนายทะเบียนหุ้นส่วน บริษัทกรุงเทพมหานคร ต่อศาลปกครองกลางในนามกระทรวงคมนาคม ซึ่งตนในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมได้ลงนามไปตั้งแต่เดือน ก.ค. 2565 ที่ผ่านมา ซึ่งอยู่ภายในเงื่อนเวลากำหนด 90 วัน นับแต่วันที่รู้หรือควรรู้ถึงเหตุแห่งการฟ้องคดี

รายงานข่าวจาก รฟท.ระบุว่า กรณีที่ รฟท.ยื่นฟ้องนายทะเบียนให้เพิกถอนบริษัท โฮปเวลล์ จำกัด เกินเวลา 90 วันนั้น เนื่องจากขณะนั้นเป็นช่วงสถานการณ์โควิด-19 และมีขั้นตอนอื่นๆ ทำให้ยื่นเกินเวลา 90 วัน ศาลจึงยกคำฟ้อง ซึ่งขณะนี้กระทรวงคมนาคมจะยื่นฟ้องในฐานะเป็นผู้เสียหายในประเด็นเดิม ซึ่งอยู่ภายใน 90 วันนับจากที่รู้ ศาลเพิกถอน โดยเป็นการขอใช้สิทธิ เป็นการเปลี่ยนผู้ฟ้อง
.
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 27 ก.ค. 2565 สำนักอนาบาล การรถไฟฯ ได้รายงานการเพิกถอนทะเบียนบริษัท โฮปเวลล์ (ประเทศไทย) จำกัด ต่อที่ประชุม คณะกรรมการ (บอร์ด) รฟท.ได้รับทราบรายงานความคืบหน้าแล้ว

โดยระบุว่า เมื่อวันที่ 30 พฤษภาคม 2565 ศาลปกครองกลางได้อ่านคำสั่งศาลปกครองสูงสุดที่ คร.59/2565 ลงวันที่ 3 พฤษภาคม 2565 โดยเหตุผลแห่งคำวินิจฉัยพอสรุปความได้ว่า “การรถไฟฯ ถือเป็นผู้ได้รับความเดือดร้อนหรือเสียหายตามมาตรา 42 แห่งพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง พ.ศ. 2542 จึงมีสิทธิฟ้องนายทะเบียนหุ้นส่วนกรุงเทพมหานครในฐานละเลยต่อหน้าที่ตามกฎหมายหรือปฏิบัติหน้าที่ล่าช้าจากเหตุที่ไม่ทำการเพิกถอนทะเบียน บริษัท โฮปเวลล์ (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งจัดตั้งขึ้นโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย ทั้งนี้ ตามมาตรา 9 วรรคหนึ่ง (2) แห่งพระราชบัญญัติฉบับดังกล่าว

อย่างไรก็ตาม ในเรื่องนี้การรถไฟฯ จะต้องยื่นฟ้องคดีนี้ต่อศาลปกครองภายในกำหนด 90 วัน นับแต่วันที่รู้หรือควรรู้ถึงเหตุแห่งการฟ้องคดี ทั้งนี้ ตามมาตรา 49 แห่งพระราชบัญญัติฉบับเดียวกัน เมื่อข้อเท็จจริงปรากฏว่าการรถไฟฯ ยื่นหนังสือฉบับลงวันที่ 19 พฤศจิกายน 2562 ต่อนายทะเบียนหุ้นส่วนบริษัทกรุงเทพมหานคร รวมทั้งนายทะเบียนกลาง เพื่อขอให้เพิกถอนทะเบียน บริษัท โฮปเวลล์ (ประเทศไทย) จำกัด

 

และต่อมาการรถไฟฯ รับทราบถึงการปฏิเสธของนายทะเบียนเมื่อเดือนธันวาคม 2562 แต่กลับนำคดีมาฟ้องต่อศาลปกครองเมื่อวันที่ 17 มิถุนายน 2563 จึงเป็นการยื่นคำฟ้องเกินกว่าเก้าสิบวันนับแต่วันที่รู้หรือควรรู้ถึงเหตุแห่งการฟ้องคดี ตามมาตรา 49 แห่งพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง พ.ศ. 2542

ศาลปกครองสูงสุดเห็นพ้องด้วยในผลแห่งคำสั่งของศาลปกครองชั้นต้น จึงมีคำสั่งยืนตามคำสั่งของศาลปกครองชั้นต้น ที่ไม่รับคำฟ้องคดีนี้ไว้พิจารณาและให้จำหน่ายคดีออกจากสารบบความ”

สำหรับกรณีค่าโง่โฮปเวลล์ สืบเนื่องจากหลังจากที่ศาลปกครองชั้นต้นพิพากษาสั่งกระทรวงคมนาคม และการรถไฟแห่งประเทศไทยต้องจ่ายค่าเสียหายให้แก่ โฮปเวลล์ โฮลดิ้งส์  ต่อมาวันที่ 4 มีนาคม 2565 ศาลปกครองสูงสุดมีคำสั่งรับคำขอพิจารณาพิพากษาคดีใหม่ และศาลปกครองกลางได้มีคำสั่งงดการบังคับคดี ทำให้คำสั่งให้ชดใช้ค่าเสียหาย จำนวน 11,888 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ย 7.5% ต่อปีภายใน 180 วัน เบ็ดเสร็จ รวม 25,711 ล้านบาท  ต้องชะลอออกไปก่อน  

อดีตวิศวกรโครงการ ระดับผู้จัดการ จบปริญญาตรีวิศวกรรมเครื่องกล จาก พระจอมเกล้าธนบุรี และ โท ด้าน Advanced Manufacturing Engineering จาก University of South Australia มีความสนใจในเรื่องประวัติศาสตร์ การเมือง และสวัสดิการสังคม

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    คุกกี้ที่มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้งานเว็บไซต์ได้อย่างเป็นปกติ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณ เพื่อให้เราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมและความสนใจของคุณ

บันทึกการตั้งค่า