
อุตสาหกรรม S-Curve ที่ผมได้เชิญชวนมาลงทุน ต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า พลังงานสะอาด คือปัจจัยหลักในการตัดสินใจลงทุน เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เมื่อวันที่ 12 มี.ค. 2567
เมื่อวันที่ 12 มี.ค. 2567 นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังได้เข้าร่วมงานเทศกาลระดับโลกอย่าง MIPIM: The Global Urban Festival ที่เมืองคานส์ ประเทศฝรั่งเศส ร่วมกล่าวปาฐกถาพิเศษในงานสัมมนาหัวข้อ “Better Infrastructures in an Age of Risk, Scarcity and Emergency” เพื่อแสดงวิสัยทัศน์ และแบ่งปันประสบการณ์ด้านการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของประเทศไทย
นายเศรษฐา โพสต์โซเชียลมีเดีย กล่าวถึงงานดังกล่าว โดยมีข้อความว่า
ประเทศไทยเรามีศักยภาพ เราต้องไปได้ไกลกว่านี้ และวันนี้เราต้อง “เชื่อมไทยสู่โลก เชื่อมโลกสู่ไทย” เพื่อเปิดให้ชาวต่างชาติ มองเห็นประเทศไทยในอีกมุมหนึ่งที่เราอยากให้สังคมโลกเห็นครับ
ซึ่งงานเทศกาลระดับโลกอย่าง MIPIM: The Global Urban Festival ได้เปิดโอกาสให้ประเทศและผู้นำของไทยได้แสดงศักยภาพและวิสัยทัศน์ ผมได้เน้นย้ำถึงความสำคัญของการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญสำหรับประเทศ
หนึ่งในหมุดหมายสำคัญของรัฐบาลนี้ คือ การสร้างความเท่าเทียมด้วยโอกาสและการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ ผมเชื่อว่า โครงสร้างพื้นฐาน คือหัวใจสำคัญของการสร้างความก้าวหน้าและการเข้าถึงในทุกภาคส่วนของเศรษฐกิจ
เป็นที่รู้กันดีว่า โครงสร้างพื้นฐานที่ดี จะกระจายความเจริญทั้งในมิติเศรษฐกิจและสังคมไปสู่เมืองอื่นๆ ไม่กระจุกตัวอยู่เพียงแค่ในเมืองหลวงเท่านั้น เป็นประโยชน์ต่อทุกภาคส่วน และทุกอุตสาหกรรม
โดยรัฐบาลจะขยายสนามบินเดิม และสร้างสนามบินใหม่เพิ่ม เพื่อให้ไทยเป็นศูนย์กลางการบินของภูมิภาคนี้ภายในปี 2030 ในอนาคตสนามบินบ้านเราจะสามารถรองรับผู้โดยสารได้ถึง 150 ล้านคนต่อปี มากกว่าปัจจุบันหลายเท่า เราจะมี Landbridge เชื่อม 2 ท่าเรือ และมีระบบรางเพื่อเชื่อมต่อไปยังแหลมฉบัง
ขณะที่โครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่มักจะปล่อยก๊าซคาร์บอนเป็นจำนวนมาก รัฐบาลจึงต้องพิจารณาแผนการผลิตพลังงานทดแทนไปด้วยพร้อม ๆ กัน ประกอบกับในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา อุตสาหกรรม S-Curve ที่ผมได้เชิญชวนมาลงทุน ต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า พลังงานสะอาด คือปัจจัยหลักในการตัดสินใจลงทุน
ซึ่งเรามีเป้าหมายในการเปลี่ยนผ่านไปสู่การผลิตพลังงานทดแทนให้ได้ 50% ของการบริโภคพลังงานในประเทศในปี 2040 เพื่อรองรับการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจที่จะเกิดขึ้น เพราะเราไม่ได้สร้างแค่เพียงโครงสร้างพื้นฐาน แต่เรากําลังสร้างสายสัมพันธ์ที่เชื่อมโยงเศรษฐกิจและผู้คนเข้าด้วยกัน เพื่อสร้างอนาคตที่ยั่งยืนและมั่งคั่งครับ