ระงับวีซ่าเก็บเบอร์รี่ป่า หลังพบการการค้ามนุษย์ชาวไทย-กัมพูชา-เมียนมา ใน‘ฟินแลนด์’ สำหรับวีซ่าอื่นยังรับพิจารณาตามปกติ
เมื่อวันที่ 15 มี.ค. 2567 กระทรวงต่างประเทศ ฟินแลนด์ออกประกาศว่า กระทรวงการต่างประเทศ (กต.) มีมติระงับการรับคำร้องขอวีซ่านักเก็บผลไม้ในประเทศไทย การระงับนี้ใช้กับผู้สมัครทุกคนในประเทศในเขตกงสุลของสถานทูตฟินแลนด์ในกรุงเทพฯ ซึ่งประกอบด้วย ไทย กัมพูชา และเมียนมาร์ ซึ่งหมายความว่าวีซ่าเชงเก้นจะไม่ออกให้กับผู้เก็บผลไม้ป่าจากประเทศเหล่านี้ในฤดูเก็บเกี่ยวฤดูร้อนปี 2024
กต. อธิบายว่าวีซ่าสำหรับการเก็บผลเบอร์รี่ป่านั้น ออกให้โดยมีสมมติฐานว่าผู้เก็บผลไม้เข้ามาในประเทศเพื่อวัตถุประสงค์ที่เทียบได้กับการท่องเที่ยว เก็บผลเบอร์รี่ป่าอย่างเสรีภายใต้สิทธิของสาธารณชนทั่วไป (‘สิทธิของทุกคน‘) และขายผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติที่พวกเขาเก็บเกี่ยวให้แก่ใครก็ตามที่พวกเขาต้องการ
อย่างไรก็ตาม เห็นได้ชัดว่าแนวปฏิบัติในปัจจุบันในภาคส่วนนี้ขัดแย้งกับสมมติฐานนี้ กระทรวงการต่างประเทศสังเกตเห็นว่าโดยทั่วไปแล้วคนเก็บเบอร์รี่ได้ทำสัญญาจ้างงาน ซึ่งทำให้เกิดข้อกล่าวหาและความสงสัยที่เกี่ยวข้องกับการค้ามนุษย์ที่ทวีความรุนแรงขึ้นเกี่ยวข้องกับเหยื่อหลายร้อยราย
ความเสี่ยงที่ชัดเจนและร้ายแรงของการแสวงหาประโยชน์และการค้ามนุษย์จะต้องนำมาพิจารณาเมื่อพิจารณาการยื่นขอวีซ่า ในฐานะหน่วยงานด้านวีซ่าและผู้มีอำนาจในการออกวีซ่าโดยคณะผู้แทน กระทรวงการต่างประเทศให้ความสำคัญกับการแสวงหาประโยชน์จากคนเก็บผลไม้ป่าของไทยเป็นอย่างมาก
เป้าหมายของรัฐบาล (ฟินแลนด์) คือการหาแนวทางแก้ไขระยะยาวที่ครอบคลุมในการเข้ามาของผู้เก็บเบอร์รี่ป่าในฟินแลนด์ตั้งแต่ฤดูเก็บเกี่ยวปี 2025 เป็นต้นไป ผ่านการตั้งคณะทำงานเพื่อการดำเนินการประเมินผลกระทบของทางเลือกด้านกฎระเบียบต่างๆ ในฤดูใบไม้ผลิปี 2567
สำหรับการยื่นขอวีซ่าของผู้ยื่นคำขออื่นที่ไม่ใช่คนเก็บเบอร์รี่ จะยังคงรับพิจารณาและดำเนินการตามปกติโดยสถานทูตฟินแลนด์ในกรุงเทพมหานคร